( VOVworld )-
สหพันธ์องค์การวรรณกรรมและศิลปะเวียดนามเพิ่งจัดพิธีมอบรางวัลวรรณกรรมและศิลปะให้แก่ผลงานเกี่ยวกับการปฏิวัติและสงครามต่อต้านผู้รุกรานช่วงปีค.ศ.๑๙๓๐-๑๙๗๕ โดยมี ๘๐ผลงานในด้านวรรณกรรม ภาพยนตร์ ดนตรี ละครเวที ระบำและจิตรกรรมได้รับรางวัล ซึ่งในนั้นมีสองผลงานที่ได้รับรางวัลสูง ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า หัวข้อเกี่ยวกับการปฏิวัติและสงครามกอบกู้ชาติยังคงสร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้แก่นักเขียนและศิลปินในการสร้างผลงานแม้สงครามได้ผ่านพ้นไปแต่ยังคงทิ้งไว้ความปวดร้าวและชะตาชีวิตคนอย่างหนักหน่วงจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งปัญหานี้ถูกถ่ายทอดผ่านปลายปากกาของเจ้าของผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
บทละครรำ “ วินาทีแห่งนิรันดร ”
“ ก่อนที่จะหล่นมาอยู่กับโคนใบไม้มีชีวิตและความรักของมันเช่นเดียวกับคนเราแต่ละชีวิต แต่ละดวงชะตาเป็นเรื่องราวที่ไม่อาจถูกหลงลืม ” คือความในใจของนักเขียนเจิ่ม เฮืองเมื่อกล่าวถึงนวนิยาย “ ท่ามกลางพายุหมุน ”ของตนที่ได้รับรางวัลเกรดเอสาขาวรรณกรรมปฏิวัติและสงครามกู้ชาติสองครั้งช่วงปีค.ศ.๑๙๓๐-๑๙๗๕ นักเขียนเจิ่ม เฮืองเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์สตรีภาคใต้เล่าว่า ท่านเขียนนวนิยาย “ ท่ามกลางพายุหมุน ” เนื่องจากถูกหลอกหลอนเกี่ยวกับเรื่องรักของสาวลูกครึ่งที่เป็นบุตรของขุนนางชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งกับหนุ่มเวียดนามที่มีฐานะยากจน พวกเขาเจอกันในช่วงเกิดการปฏิวัติและรักกัน ความรักของพวกเขาได้ผ่านระยะต่างๆทางประวัติศาสตร์ของประเทศที่มีทั้งช่วงเวลาที่หวานซึ้งและการอำลาจากกัน นักเขียนเจิ่ม เฮืองเล่าว่า “ ดิฉันเขียนเรื่องนี้เป็นเวลา ๑๐ ปีรวมสองเล่ม หนา ๑,๐๐๐ หน้ากระดาษ เมื่อเขียนเสร็จดิฉันรู้สึกมีความสุขมากเพราะสามารถใช้หนี้ได้แล้ว ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับรางวัล การเขียนเรื่องนี้เสร็จคือรางวัลใหญ่สำหรับดิฉัน ดิฉันเขียนตามความสามารถของตนเพราะยังเป็นหนี้มากมายอยู่บนไหล่ของตนเอง ”
สงครามแห่งความเป็นความตายในนวนิยาย “ ท่ามกลางพายุหมุน ”จากปลายปากกาของนักเขียนเจิ่ม เฮืองถูกถ่ายทอดออกมาหลายมิติหลายมุมมอง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสงครามระหว่างสองฝ่ายเท่านั้น หากยังเป็นการต่อสู้เงียบๆในใจของแต่ละคนที่อยู่ในทางสามแพ่งที่มีทั้งความถูกต้อง ความเที่ยงธรรมและความผิดพลาด หยาดน้ำตาไหลลงมาและความเสียสละเงียบๆแบบปิดทองหลังพระเพื่อหน้าที่อันสูงส่งและอุดมการณ์ปฏิวัติตลอดจนความปวดร้าวและการลาจากกันที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายต้องทนรับเพราะสงคราม ผลงานวรรณกรรมนี้ของนักเขียนเจิ่ม เฮืองถือเป็นการใช้หนี้และเป็นการแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ที่ร้องไห้ในใจในสงครามโดยเฉพาะสตรี
สามผลงานได้รับรางวัลเกรดเอ
ส่วนผลงานของศิลปินระบำเหวียน ถิ่ เตวี้ยต มินห์ชาวนครหลวงฮานอยที่กล่าวถึงการปฏิวัติในฐานะผู้ที่เกิดมาในยามประเทศมีเสรีภาพ นี่คือบทละครรำ “ วินาทีแห่งนิรันดร ”ที่กล่าวถึงวีรชนสายวัยใสหวอ ถิ่ เสา บทละครรำสะท้อนจิตใจทรหดและความสละชีพอย่างวีระอาจหาญของสาวน้อยหวอ ถิ่ เสาที่เป็นนักรบตำรวจประชาชนซึ่งเป็นการส่งเสริมให้กำลังใจนักรบปฏิวัติในเรือนจำในการสามัคคีกันเพื่อต่อสู้ต่อไป ศิลปินเตวียต มินห์เปิดเผยว่า การรำนั้นใช้ท่ารำต่างๆเพื่อถ่ายทอดเนื้อหาซึ่งถือเป็นภาษาร่างกายจึงเข้าใจค่อนข้างยากกว่าศิลปะการแสดงแขนงอื่นๆ บทละคร “ วินาทีแห่งนิรันดร ” ใช้ภาพทิวต้นไม้ populus ที่ปลูกบนเกาะกงดอเป็นฉากหลัก นอกจากนี้ยังใช้ศิลปะการจัดวางเพื่อสร้างภาพเรือนจำที่โหดเหี้ยม
นวนิยาย “ ท่ามกลางพายุหมุน ” และบทละครรำ “ วินาทีแห่งนิรันดร ” เป็นสองผลงานที่ได้รับรางวัลเกรดเอเกี่ยวกับสงครามและการปฏิวัติจากสหพันธ์องค์การวรรณกรรมและศิลปะเวียดนาม นักเขียนเจิ่ม เฮืองและศิลปินเตวี้ยต มินห์ เกิดมาในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนกัน มีมุมมองเกี่ยวกับสงครามแตกต่างกัน แต่อารมณ์ความรู้สึกและไอเดียสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์บวกกับความคิดเกี่ยวกับชะตาชีวิตของคนทำให้พวกเขาสามารถสร้างผลงานที่กินใจ.