( VOVworld )-เมื่อเร็วๆนี้ พิธีฉลองครบรอบ ๗๐ ปีหนังสือเรื่อง “ จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง ” ของนักเขียนโตหว่าย ที่ออกสู่สายตาผู้อ่านได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ สำนักงานสมาคมนักเขียนฮานอย ซึ่งผู้เข้าร่วมงานได้สะท้อนความรู้สึกของตนเกี่ยวกับหนังสือวรรณกรรมสำหรับเด็กเล่มนี้ในตลอด ๗๐ ปีที่ผ่านมา ที่ได้กลายเป็นเพื่อนคู่ใจของเด็กเวียดนามรุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยสาระของหนังสือเรื่อง “ จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง ” ได้ระบุถึงความรัก ความเมตตา จิตใจแห่งสันติภาพและจิตใจแห่งความเป็นเพื่อนอันยิ่งใหญ่
|
นักเขียนโตหว่าย ในพิธีฉลองครบรอบ ๗๐
|
จิ้งหรีดไม่แก่และไม่รู้สึกเหนื่อยในตลอด ๗๐ ปีที่ท่องโลกกว้างและกลายเป็นเรื่องอมตะ จากปลายปากกาของนักเขียนโตหว่าย จิ้งหรีดได้สู่โลกกว้างศึกษาสิ่งที่ดีงามให้แก่มนุษย์ สู่สายตาผู้อ่านหลายประเทศไม่ว่าจะประเทศแถบยุโรปตะวันออกหรือตะวันตกเช่น รัสเซีย อังกฤษและฝรั่งเศส และได้เป็นส่วนหนึ่งในหมู่สรรพสัตว์ในวรรณกรรมของโลก นาย ฝ่ามซวนเงวียนนักวิจารณ์วรรณกรรมได้กล่าวถึงหนังสือเรื่อง จิ้งหรีดท่องโลกกว้างของนักเขียนโตหว่ายว่า สิ่งที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้อ่านหนังสือเล่มนี้อยู่ตรงที่ พลังแห่งความอมตะและยุคสมัยที่ข้ามแดนไปสู่สายตามิตรประเทศ ส่วนนักเขียนโตหว่ายเผยว่า “ เรื่องจิ้งหรีดท่องโลกกว้างได้ออกสู่สายตาผู้อ่านต่างประเทศที่ประเทศรัสเซียโดยนักเขียนชาวรัสเซียเป็นผู้แปล ต่อจากนั้น ประเทศแถบยุโรปตะวันออกหลายประเทศได้แปลเล่มนี้ ทั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ”
ส่วนนักเขียนบั่งเหวียดได้เห็นว่า “ เมื่อหนังสือจิ้งหรีดท่องโลกกว้างได้แปลเป็นภาษารัสเซีย เยอรมนัน อังกฤษและฝรั่งเศส ผู้อ่านของประเทศเหล่านี้รู้สึกแปลกใจเมื่อได้อ่านหนังสือวรรณกรรมที่เต็มไปด้วยคุณลักษณะแห่งความเป็นมนุษย์ บรรดานักเขียนในโลกเห็นว่า ความเป็นอมตะของหนังสือเล่มนี้คือ ลักษณะความเป็นมนุษย์ซึ่งมิใช่คุณลักษณะของชาติใดชาติหนึ่ง ”
|
จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง
|
หนังสือเรื่อง “ จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง ”เป็นเรื่องราวของจิ้งหรีดตัวหนึ่งที่เปรียบเสมือนชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่เบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไร้ความหมายที่ต้องอยู่แต่รอบๆทุ่งนา เขาได้ตัดสินใจท่องโลกกว้างเพื่อเปิดหูเปิดตาและแสวงหาโลกทัศน์และวิถีชีวิตให้แก่ตัวเอง แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากแค่ไหน แต่หนุ่มจิ้งหรีดกลับไม่ย่อท้อโดยตั้งใจร่วมกับเพื่อนๆต่อสู้กับความอยุติธรรมในชีวิต นักเขียนโตหว่ายเขียนเรื่องราวชีวิตของสัตว์เล็กๆตัวหนึ่งเพื่อสะท้อนชีวิตของคนและสื่อถึงคนรุ่นใหม่ว่า ต้องเป็นตัวของตัวเอง รู้จักพึ่งตัวเองและมุ่งสู่ชีวิตที่ดีงามกว่า โลกทัศน์ที่กว้างใหญ่กว่า รู้จักเคารพรักจิตใจแห่งความเป็นเพื่อนและสำนึกในบุญคุณของผู้เป็นแม่ นักเขียนบั่งเหวียตเผยต่อไปว่า เขาอ่านเรื่องจิ้งหรีดท่องโลกกว้างขณะกำลังเรียนมัธยมปลาย หนังสือเล่มนี้ได้ดึงดูดใจพวกเขาไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาสาระ บุคลิกของตัวละครจิ้งหรีดที่น่าสนใจสำหรับวัยรุ่น หากอยู่ตรงที่อุดมการณ์ของรุ่นคุณลุงโตหว่ายอีกด้วย ซึ่งต่อมาเมื่อพวกเขาเข้าประจำการเป็นทหารและเข้าร่วมสงครามกอบกู้เอกราชของชาติ ๒ ครั้ง พวกเขาต่างได้รับอิทธิพลของหนังสือเล่มนี้
ส่วนจิตรกรรุ่นใหม่ต่าฮุยลองที่เขียนภาพจิ้งหรีดประกอบเห็นว่า “ เรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจิ้งหรีดของนักเขียนโตหว่ายทำให้ผมมีการเปลี่ยนแปลงในด้านความคิด ทำให้เราอยากท่องเที่ยว อยากผจญภัยเพื่อแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ผมได้เลือกระดาษและประเภทสีที่จะใช้ และสุดท้ายก็เลือกสีน้ำ ซึ่งผมเห็นว่าน่าจะสะท้อนจิตใจและบุคลิกของตัวละครได้ถูกต้องที่สุด ”
|
จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง
|
นักเขียนโตหว่ายถือว่าเป็นนักวรรณกรรมที่มากด้วยประสบการณ์และผลงานวรรณกรรมสมัยใหม่ที่มีชื่อเสียงในวงการนักเขียนและในสายตาของผู้อ่าน โดยเฉพาะผลงานวรรณกรรมสำหรับเด็ก ท่านเกิดเมื่อปี ๑๙๒๐ ณ หมู่บ้านเงียะโด กรุงฮานอย ท่านมีชื่อจริงว่า เหงวียนแซน โตหว่ายคือ นามปากกาของท่าน ท่านเคยแต่งบทกวีหลายๆบทเกี่ยวกับความรักที่โรแมนติก แต่เนื่องด้วยได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมตามสมัยนิยม ปี ๑๙๔๑ ท่านได้ร่วมมือกับสำนักพิมพ์เตินเซินเขียนเรื่อง จิ้งหรีด ซึ่งขยายดีมาก ดังนั้นทางสำนักพิมพ์จึงได้ให้ท่านเขียนเรื่องนี้ต่อ และปี ๑๙๔๒ หนังสือเรื่อง “ จิ้งหรีดท่องโลกกว้าง ” ได้ออกสู่สายตาผู้อ่าน ๗๐ ที่ผ่านมา หนังสือเรื่องนี้ยังเป็นตัวอย่างวรรณกรรมสำหรับเด็กเวียดนาม./.