 นาย Denny Abdi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามมอบรางวัลพิเศษให้แก่นักเขียน ดั่งเหยียวห่า |
ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่คือเนื้อหาของหนึ่งในนับร้อยบทความที่ส่งเข้าร่วมการประกวดที่จัดโดยสถานีวิทยุเวียดนามในครั้งนี้ โดยแต่ละบทต่างแสดงให้เห็นถึงความรักในการฟังวิทยุและความเชื่อมั่นต่อข้อมูลข่าวสารที่ทางสถานีวิทยุเวียดนามได้แผยแพร่ ในบทที่ส่งมาเข้าร่วมการประกวด นาย เลืองหงอกแอง ผู้ฟังจากนครโฮจิมินห์ได้กล่าวว่า วิทยุมี “อำนาจพิเศษ” นั่นคืออำนาจของเสียง จากการฟังรายการต่างๆ จากวิทยุ ผู้ฟังสามารถคิดตามเนื้อหาต่าง ๆ ที่ผู้ประกาศข่าวนำเสนอ
“ ตอนเราไปฝึกซ้อมหรือเดินป่า เรายังคงสามารถฟังรายการต่างๆ ของสถานีวิทยุเวียดนามได้ ผมเองเห็นว่านี่เป็นพลังขับเคลื่อนและความเชื่อมั่นเพื่อให้เราพยายามเสร็จสิ้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดี ปัจจุบันนี้ หน่วยทหารของเราฟังรายการของวิทยุเวียดนามในช่วงเช้า เวลา 05.30 น. – 06.30 น.และช่วงกลางคืน เวลา 21.00 น. – 21.30 น. ซึ่งช่วยให้เรามีความรู้และมีความสุขทุกวัน”
ส่วนนาง ดิงทูหั่ง ผู้เขียนบทความที่ได้รับรางวัลที่ 3 ในการประกวดครั้งนี้เผยว่า ตนได้ประเมินเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของวิทยุในการออกข้อมูลข่าวสาร บันเทิงและการศึกษาในแง่มุมของผู้เชี่ยวชาญในด้านวิทยุ พร้อมทั้งยกย่องสดุดีคุณค่าทางจิตใจที่วิทยุได้นำมาให้แก่ชีวิตสังคม
“ฉันเลือกการเปรียบเทียบการกระจายเสียงของวิทยุเหมือนแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงทุ่งนาและท้องถิ่นให้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น การกระจายเสียงของวิทยุได้ช่วยเสริมสร้างชีวิตทางจิตใจของเรา สำหรับดิฉันเอง ต่างเชื่อมั่นวิทยุเวียดนามและมีความปรารถนาว่า สถานีวิทยุเวียดนามจะพัฒนาต่อไป”
 นาย โงมิงห์เหียน รองประธานสถานีวิทยุเวียดนามมอบรางวัลที่ 3 ให้แก่นาง ดิงทูหั่ง |
ในบทความที่ส่งเข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ ผู้ฟังหลายๆ ท่าน ได้กล่าวย้ำว่า วิทยุ โดยเฉพาะวิทยุเวียดนามถือเป็นเพื่อนสนิทในชีวิตประจำวันของพวกเขา ในตลอด 50 ปีที่ผ่านมา นักเขียน ดั่งเหยียวห่า จากนครโฮจิมินห์ ได้ฟังรายการต่างๆ ของสถานีวิทยุเวียดนามทุกวัน ซึ่งทำให้เห็นการพัฒนาของสถานีวิทยุเวียดนามและความรักที่มีต่อวิทยุของเขาได้รับการถ่ายทอดผ่านบทความเรื่อง “ วีโอวี – เพื่อนสนิทของฉัน” โดยบทความนี้ได้รับรางวัลพิเศษในการประกวดครั้งนี้ คือการเยือนประเทศอินโดนีเซียที่ได้รับการสนับสนุนโดยสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนาม คุณห่า บอกว่า
“ดิฉันฟังสถานีวิทยุเวียดนามมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทางสถานีวิทยุได้ช่วยให้ฉันมีความรักต่อวัฒนธรรมและศิลปะ ฉันเรียนการร้องเพลงตามรายการสอนร้องเพลงของสถานีวิทยุเวียดนาม เราเป็นคนที่เกิดในยุคแห่งสงครามคือก่อนช่วงปี 1975 ซึ่งในช่วงนั้น สถานีวิทยุเวียดนามได้สอนให้เด็กๆเรื่องวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น วิธีป้องกันการจมน้ำ วิธีป้องกันตัวเองจากระเบิด ซึ่งล้วนเป็นความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อเราจนถึงทุกวันนี้”
นี่เป็นครั้งแรกที่สถานีวิทยุเวียดนามได้จัดการประกวดการเขียนบทความสำหรับผู้ฟัง โดยสามารถเห็นได้ว่า สถานีวิทยุเวียดนามมีบทบาทสำคัญพิเศษในใจผู้ฟัง นาง หวูถิเตวี๊ยดมาย หัวหน้าคณะกรรมการวัฒนธรรมและสังคมหรือวีโอวี 2 ของสถานีวิทยุเวียดนาม สมาชิกของคณะกรรมการตัดสิน เผยว่า
“ดีมากที่ในบทความหลายบท ผู้ฟังสามารถกล่าวถึงแต่ละรายการและผู้ประกาศข่าวแต่ละคน แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่พวกเขาประสบความยากลำบากหรือในช่วงเวลาที่พวกเขาสามารถเรียนผ่านสถานีวิทยุเวียดนามได้ เมื่ออ่านบทความเหล่านี้ ในฐานะผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง ฉันก็รู้สึกภูมิใจมาก นี่ถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้ผู้สื่อข่าวอย่างพวกเรารักอาชีพมากขึ้นและตั้งความหวังต่ออนาคตการพัฒนาของสถานีวิทยุเวียดนาม”
การประกวดครั้งนี้ได้ช่วยให้ผู้สื่อข่าวทุกคนได้ทราบถึงความรักของแฟนรายการที่มีต่อสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งบทความต่างๆ ที่ส่งเข้าร่วมการประกวดเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า สถานีวิทยุเวียดนามได้รับความไว้วางใจจากผู้ฟัง สิ่งนี้ช่วยให้ผู้สื่อข่าวทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตรายการที่มีคุณภาพให้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างผู้ฟังทั้งภายในและต่างประเทศต่อไป.