( VOVworld )-เมืองดาลัตของเวียดนามเป็นที่รู้จักสำหรับคนชอบท่องเที่ยวว่าเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นตลอดปี เมืองแห่งดอกไม้นานาพันธุ์โดยเฉพาะดอกไม้เมืองหนาวและเมืองแห่งผักและผลไม้สดอร่อย แต่ยังมีอีกมุมหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวคือ ร้านกาแฟพร้อมดนตรีสดยามค่ำคืน
|
ร้านกาแฟเหยียมเซือ |
เสียกีตาร์ที่บันเลงเพลง Diem Xua หรือเหยียมเซือแว่วมาจากร้านกาแฟเหยียมเซือทุกๆเวลา ๓ ทุ่มเป็นการเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวที่รักเพลงของนักประพันธ์ดนตรีจิ่งกงเซินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเวียดนาม ร้านDiem Xua หรือเหยียมเซือตั้งอยู่บนเนินเขาสนและอยู่ห่างจากใจกลางเมืองดาลัตไม่มากนัก ชื่อของร้านเอามาจากชื่อเพลงเหยียมเซือที่ถือเป็นเพลงอมตะของนักดนตรีจิ่งกงเซิน ซึ่งสะท้อนว่า เจ้าของร้านเป็นคนรักเพลงของจิ่งกงเซิน พวกเรามาร้านในคืนหนึ่งที่ฝนตกปรอยๆแต่ยังรู้สึกถึงบรรยากาศอันอบอุ่นและเป็นกันเองภายในร้านที่เต็มไปด้วยคน บ้างมากับแฟนบ้างก็มากับเพื่อนๆเพื่อฟังเพลงเหยียมเซือจากการขับร้องคลอด้วยเสียงกีต้าร์ของเจ้าของร้าน
ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่ขณะนี้คือเพลงเหยียมเซือ เพลงกล่าวถึงอารมณ์ความรู้สึกของนักดนตรีจิ่งกงเซินต่อเมืองดาลัตยามฝนตกปรอยๆลงบนตึกเก่าแก่ ความคิดถึงน้องวัยใสท่ามกลางฝนตกยามไม้ผลัดใบ จากการขับร้องของคุณแค้งเติมเจ้าของร้าน ซึ่งได้รับฉายาว่า แค้งลีของเมืองดาลัต เนื่องจากพลังเสียงร้องต่ำและสไตล์เพลงที่ชื่นชอบเหมือนกัน นักร้องแค้งลีชื่อดังของเวียดนามถือเป็นคนที่ร้องเพลงของนักดนตรีจิ่งกงเซินไพเพราะที่สุด ซึ่งขณะนี้เธอกำลังอาศัยอยู่อีกซีกโลกคือสหรัฐอเมริกา คุณแค้งเติมคุยกับพวกเราว่า “ ดิฉันกับนักร้องแค้งลีมีจุดเหมือนกันคือ มีสายเลือดของคนเวียดนาม ดิฉันรักเพลงของจิ่งกงเซินมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กซึ่งยังไม่เข้าใจความหมายของเนื้อร้อง เนื้อร้องและลีลาในเพลงนั้นทำให้เราอยากได้ดื่มด่ำกับความรัก ขณะนี้ดิฉันอายุ ๖๐ แล้วแต่ก็ยังรักการร้องเพลงเพื่อแบ่งเบาความรู้สึกความในใจให้แก่ทุกคน ”
|
คุณแค้งเติมเจ้าของร้าน |
ลูกค้าของร้านกาแฟเหยียมเซือมีทั้งวัยกลางคน ผู้สูงอายุและวัยรุ่นที่หลงไหลในเพลงของนักดนตรีจิ่งกงเซิน นายหวอแองเฟือง นักท่องเที่ยวจากฟานรางเปิดเผยว่า “ ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่ ๒แล้ว เมื่อกลับมาเที่ยวดาลัตผมต้องหาเวลามาที่นี่เพื่อฟังเพลงของจิ่งกงเซิน ดนตรีไพเราะและลีลาการร้องที่ดีก็ทำให้ผมรู้สึกได้อยู่ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ที่ผมชอบมาที่นี่เพราะความเป็นกันเองนี่แหละและได้ดื่มด่ำในบรรยากาศแห่งเพลงของจิ่งกงเซิน เครื่องดื่มนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ได้ฟังเพลง และเมื่อกลับบ้านรู้สึกจิตใจโปร่งใสผ่อนคลายอารมณ์ ”
อำลาร้านกาแฟบนเนินเขาสนพร้อมเสียงร้องเพลงของคุณแค้งเติมที่น่าประทับใจ พวกเรายังไม่รีบกลับโรงแรมแต่เดินเที่ยวค้นหาดาลัตต่อไป โดยแวะร้าน Cung dan xua ที่ถนน ๓ กุมภาพันธ์ใจกลางเมืองดาลัต ร้าน Cung dan xua เป็นร้านเล็กและสงบเงียบ เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้ฟังเพลงรักของนักดนตรีรุ่นเดอะหลายท่านเช่น ฝ่ามซุย โงถุ่วเมียน และเพลงเกี่ยวกับความงามของเมืองแห่งดอกไม้นี้ของนักดนตรีกุงเตี๊ยน ดว่านจ่วนและตื่อลิงห์
|
บรรยากาศภายในร้านกาแฟ Cung dan xua
|
คุณห่งเจ้าของร้านในชุดอ๋าวหย่ายหรือชุดเสื้อยาวประจำชาติของเวียดนามลงจากเวทีการแสดงคุยกับพวกเราเกี่ยวกับที่มาของร้านนี้ว่า เธอหลงไหลดนตรีจึงเปิดร้านเพื่อที่จะได้ร้องเพลงและฟังคนอื่นร้อง ร้านยังเป็นที่นัดพบกับคนที่ชอบร้องเพลง รักความสวยงามและคลายความทุกข์ยากในชีวิต คุณห่งเป็นทั้งนักร้องและพิธีกรของร้านด้วย คุณห่งเปิดเผยว่า “ ลูกค้าที่มาที่นี่ต้องเข้าใจดนตรีสูงคือดนตรีแนวคลาสสิกที่มีความลึกซึ้งและกินใจ ดิฉันหลงไหลในดนตรีเท่านั้น ดิฉันมีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ปีค.ศ.๑๙๘๑ ดิฉันเคยร้องเพลงที่ร้านหนึ่งและชอบจึงเปิดร้านนี้ ดิฉันยังไม่ได้เรียนดนตรีอย่างเป็นระบบ ”
ยิ่งดึกเข้าไป ลูกค้าก็ยิ่งมามากขึ้น ส่วนดนตรีนั้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ตรึงใจของลูกค้า ดาลัตยามเที่ยงคืนอากาศหนาวถึงกระดูก ฝนตกทำให้ดาลัตเหมือนได้สวมใส่เสื้อชุดใหม่ และยังมีร้านกาแฟอีกหลายๆแห่งยามค่ำคืนที่เมืองดาลัตที่ไม่ควรพลาดเช่น Café Tinh lang Café Why Not และCafe Rainny แต่เนื่องด้วยเวลาจำกัด เราต้องอำลาดาลัต แต่ใจยังคิดว่าจะหาโอกาสมาที่นี่อีกแน่นอน ./.