(VOVworld)- เมืองดาลัตแตกต่างจากเมืองอื่นๆของเวียตนาม หากซาปาเปรียบเสมือนสวิตเซอร์แลนด์ ดาลัดก็คือปารีสน้อย ในเขตที่ราบสูงเลิมด่ง นอกจากนั้นเมืองดาลัต ยังได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นเมืองในหมอก เมืองแห่งต้นสน เมืองแห่งบุพชาติ หรือเมืองแห่งดอกซากุระของเวียดนาม ซึ่งจากศักยภาพทั้งด้านภูมิศาสตร์และอากาศที่ปลอดโปร่งเย็นสบายตลอดทั้งปีของเมืองที่อยู่ในเขตที่ราบสูงเตยเงวียน ดาลัดจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของเวียดนามที่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกๆคน
|
เมืองดาลัต ได้รับการขนานนามจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นเมืองในหมอก เมืองแห่งต้นสน เมืองแห่งบุพชาติ หรือเมืองแห่งดอกซากุระของเวียดนาม(internet)
|
เมื่อพูดถึงดาลัต ทุกคนจะนึกถึงภาพบุพชาติหลากสีเพราะที่นี่คือแหล่งปลูกดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยจุดไฮไลต์คือสวนดอกไม้เมืองดาลัตในใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์รวมของดอกไม้นานาชนิดที่อวดโฉมเติมแต่งสีสันสดใสให้แก่ทั้งเมืองตลอดปี ซึ่งสวนสาธารณะนี้เสมือนเป็นศูนย์นิทรรศการดอกไม้ที่มีดอกไม้กว่า300ตระกุลรวมหลายร้อยสายพันธุ์เช่น กุหลาบ แกลดีโอลัส เบญจมาศ คาร์เนชั่น มีโมซา กล้วยไม้หรือลิลลี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการนำเข้าดอกไม้พันธุ์ใหม่มาปลูกและขยายพันธุ์ที่ดาลัตอีกหลายสิบสายพันธุ์และหากสังเกตุให้ดีก็จะเห็นว่าสถานที่แทบทุกแห่งหรือบ้านเกือบทุกหลังต่างประดับประดาด้วยดอกไม้จนทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมากที่นี่มีดอกไม้หลากหลายมากๆและมีหลายสายพันธุ์ที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นเลย โดยเฉพาะชอบภาพดอกกุหลาบที่เลื้อยขึ้นบนกำแพงบ้าน ดอกไฮเดรนเยียหรือดอกสามสี หรือแม้กระทั่งกระถางดอกไม้เล็กๆที่ไม่รู้ชื่อที่พบเห็นกลางทางก็ทำให้รู้สึกว่าดาลัตเป็นเมืองที่พิเศษจริงๆ
|
ที่นี่คือแหล่งปลูกดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม(internet) |
จากศักยภาพธรรมชาติที่เอื้อให้แก่การท่องเที่ยว ดาลัต จึงกลายเป็นจุดหมายที่สำคัญในโปรแกรมท่องเที่ยวของทุกบริษัทโดยมีการจัดโปรแกรมเที่ยว ซีตีทัวร์ ที่หลากหลายเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว เช่นโปรแกรมเที่ยวสไตล์แคมป์ปิ้ง เดินป่าไต่เขา ตกปลา ทัวร์เชิงนิเวศหรือเชิงวัฒนธรรมและเทศกาล นายเหงวียนมิงฟอง เจ้าหน้าที่บริษัทเวียดทริปเผยว่านักท่องเที่ยวที่มาดาลัตชอบไปเที่ยวภูลางเบียงเพื่อสัมผัสกับความหนาวและความสดชื่นของเขตเขา หากเที่ยวชนบทก็มีการศึกษาเทคนิกการปลูกดอกไม้และกาแฟหรือเหล้าพื้นเมืองนามบาง เป็นต้น นอกจากได้ชมดอกไม้และลิ้มลองอาหารพื้นเมืองแล้ว บรรยากาศงานเทศกาลและการสังสรรค์วัฒนธรรมของชนเผ่า K’Ho ในท้องถิ่นก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทุกคน นาย ต๊วนแอง นักท่องเที่ยวจากฮานอยเผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้าร่วมงานวัฒนธรรมของชนเผ่าในเขตเขา ซึ่งน่าสนใจมาก ได้ดื่มเหล้าอุ ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ศึกษาการเล่นดนตรีของชนเผ่าและร่วมร้องรำทำเพลงกับชาวบ้านสนุกที่สุดคือได้ใส่ชุดชนเผ่าและร่วมกิจกรรมต่างๆ เราจะรู้สึกมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านมากขึ้น
|
บ้านแปลกประหลาด Crazy House ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ของ House To See Before You Die(internet) |
สำหรับผู้ที่อยากสัมผัสดาลัดแบบอิสระแบบแบกเป้ะได้รับความรู้สึกอีกแบบนั่นคือบรรยากาศที่สงบเงียบ และอาจจะเป็นแรงดลใจให้ลองค้นคว้าด้วยการขี่จักรยานยนต์หรือนั่งรถม้าเที่ยวรอบเมืองดังความรู้สึกของชาวสหรัฐคนหนึ่งว่า ชีวิตของผู้คนที่นี่มีความพิเศษซ่อนอยู่ซึ่งทำให้ผมอยากค้นคว้าจนต้องกลับมาหลายครั้ง ครั้งนี้ผมอยากเช่ามอร์เตอไซต์ขี่เที่ยวรอบเมือง ซึ่งอาจจะหลงทางบ้างแต่ก็ถือเป็นโอกาสเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ดาลัตยังมีจุดท่องเที่ยวอีกมากมายให้ชมไม่ว่าจะเป็น บ้านแปลกประหลาด Crazy House ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ของ House To See Before You Die หุบเขาแห่งรัก วัด เถี่ยนเหวียนจุ๊กเลิมหรือใครที่ชอบความตื่นเต้นก็อย่าพลาด น้ำตกดาตันลา และขึ้นภูลางเบียงชมพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวแต่ละคนที่มีโอกาสมาเที่ยวดาลัตต่างรู้สึกประทับใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้สัมผัสและมีความคนึงหาเมืองในหมอกท่ามกลางป่าเขาแห่งนี้อย่างไม่รู้ลืมเหมือนทำนองเพลงของนักดนตรีหว่างเงวียนที่บรรยายเกี่ยวกับความงามของดาลัตว่า ใครจะไปเที่ยวถิ่นดอกไม้ อย่าลืมดื่มด่ำบรรยากาศดอกไม้ที่มีอยู่เต็มทาง ท่ามกลางม่านหมอกอันเบาบางเหมือนหลงเข้าแดนสวรรค์./.