( VOVworld ) - ที่ถนน นามจ่าง ใกล้ทะเลสาป จุ๊กแบก เขต บาดิ่ง กรุงฮานอย มีร้านอาหารที่ไม่ได้ตบแต่งหรูหรา ไม่มีแสงไฟระยิบระยับ แต่มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาครั่ง นั่นคือ ร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗ สาเหตุที่ทำให้ร้านนี้มีลูกค้าเต็มทุกวันเพราะบรรยากาศภายในร้านและอาหารพิเศษที่นำลูกค้าหวนกลับสู่ยุคเวียดนามดำเนินเศรษฐกิจแบบรัฐอุปถัมภ์ก่อนหน้านี้กว่า ๓๐ ปี
|
ร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗
|
ร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า ๘๐ ตารางเมเตร ภายในบ้านได้รับการตกแต่งเหมือนสมัยที่เวียดนามดำเนินเศรษฐกิจแบบรัฐอุปถัมภ์เช่น อิฐจองคิวซื้อสินค้า คูปองซื้อสินค้า รถจักรยานท้งเญิ้ต ถ้วยและชามเหล็กเคลือบเซรามิกใบเล็กและใหญ่ การแต่งกายของผู้ดูแลร้านและพนักงานเสิร์ฟก็เลียนแบบสมัยนั้นคือ เสื้อผ้าฝ้ายและกางเกงแพร เจ้าของร้านอาหารคือ นายฝ่ามกวางมิงห์อายุ ๕๐ กว่าปี ท่านได้ใช้เวลากว่า ๓ ปีในการค้นหาสิ่งของวัตถุเครื่องใช้ในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรับวิทยุเก่า พัดลมตั้งโต๊ะเเล็กๆที่ผลิตจากอดีตสหภาพโซเวียด เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องเล่นเทปคัสเซตต์ยี่ห้อเวียดทรอนิกส์ ตลอดจนคูปองซื้อข้าว เนื้อสุกร ปลาและแสตมป์ไปรษณีย์ ซึ่งนับเป็นสิ่งของที่มีค่าหายากในปัจจุบัน ซึ่งบางอย่างก็ได้มาฟรี บ้างก็ขายให้ เช่น หินที่แกะสลักชื่อมายห่ายที่นักศึกษาภาษาฮั่นและนมมายซวนห่ายเคยใช้ในการจองคิวซื้อข้าวและอาหารช่วงปี ๘๐ จิตรกรเลเทียตเกืองได้มอบภาพชุดเกี่ยวกับฮานอยยุครัฐอุปถัมภ์เศรษฐกิจของช่างภาพชาวสวีเดน เอวา ลินด์กอค โดยเฉพาะถ้วย ชามและจานที่ทำด้วยเหล็กเคลือบเซรามิกของโรงงานเหล็กและอะลูมีเนียมเคลือบเซรามิกไฮฟอง นายฝ่ามกวางมิงห์เผยว่า “ ผมตั้งใจเปิดร้านนี้มานานแล้ว แต่เนื่องด้วยการค้นหาสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆในยุครัฐอุปถัมภ์ต้องใช้เวลาและไม่ใช่เรื่องง่าย สิ่งของวัตถุและเครื่องใช้ที่จัดแสดงหรือใช้ ณ ที่นี่ก็มีทั้งที่เพื่อนให้มาหรือผมหาซื้อจากนักสะสมของเก่า สิ่งที่ยากที่สุดคือ ต้องสร้างบรรยากาศของยุครัฐอุปถัมภ์ไม่ว่าจะเป็นถ้วย ตะเกียบหรือสิ่งของวัตถุอื่นๆที่ทำให้เราหวนคิดถึงระยะเวลาหนึ่งที่ยากลำบากขอประเทศ ”
|
นายฝ่ามกวางมิงห์เจ้าของร้าน
|
อาหารที่ขาดไม่ได้ของร้านนี้คือ ข้าวผสมเผือก แบ๊งดุ๊กหรือขนมที่ทำจากแป้งข้าวจ้าวและถั่วลิสงที่คล้ายกับขนมชั้นของไทยและเฝอเปล่าที่หมายถึงเฝอที่ไม่มีเนื้อซึ่งไทยเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวและผัดผักกาดดองกับกากหมู เพราะเป็นอาหารยอดนิยมในสมัยนั้น อาหารเหล่านี้จะใส่ในภาชนะของยุคนั้นคือ ถ้วยและจานที่ทำจากเครื่องเคลือบดินเผาและอะลูมีเนี่ยมที่มีอายุหลายสิบปี ลูกค้าที่มารับประทานอาหารต้องเข้าคิวซื้อคูปองเพื่อแลกกับเครื่องดื่มและอาหาร และจะมีสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่มีบัตรแสดงเป็นทหารทุพพลภาพหรือครอบครัวทหารสละชีพเพื่อชาติได้ซื้อก่อนโดยไม่ต้องเข้าคิว ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเวียดนามสมัยนั้น อันเป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในส่วนอุทิศของพวกเขาต่อชาติบ้านเมือง ที่ร้านมีคูปอง ๓ ประเภทคือ ชนิดบี-๑ สำหรับแลกอาหาร ชนิดบีสำหรับแลกเครื่องดื่มและเอสำหรับซื้อเครื่องใช้อื่นๆในครอบครัว ทั้งหมดนี้คือการดำเนินเศษฐกิจแบบรัฐอุปถัมภ์ของเวียดนามสมัยทำสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานก่อนหน้านี้กว่า ๓๐ ปี นายฝ่ามกวางมิงห์คุยกับพวกเราว่า มีลูกค้ามาอุดหนุนมากมายและครั้งหนึ่งมีพ่อลูกสองคน โดยคุณพ่ออายุกว่า ๘๐ ปี ส่วนลูกอายุ ๖๐ ปีมาที่นี่รับประทานอาหาร พวกเขารู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ในบรรยากาศก่อนหน้านี้กว่า ๓๐ ปี โดยทั้งรับประทานอาหารทั้งคุยเรื่องในอดีตเกี่ยวกับระยะหนึ่งที่การซื้ออาหารต่างๆต้องมีคูปองและเข้าคิวยาวเหยียด
|
ข้าวผสมเผือกคืออาหารหลักในยุครัฐอุปถัมภ์
|
แม้เพิ่งเปิดมาได้ ๑ เดือนแต่ร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗ ก็มีลูกค้าเต็มทุกวัน ซึ่งร้านสามารถรองรับลูกค้าประมาณ ๕๐ - ๖๐ คนเท่านั้น ลูกค้าที่มาร้านก็มีตั้งแต่เด็กรุ่นใหม่ไปจนถึงคนแก่คนเฒ่าตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจากภาคใต้และเขตที่ราบสูงเตยเงวียนที่มาฮานอยเพื่อทำธุรกิจซึ่งต่างก็หาเวลาแวะร้านรับประทานอาหารมื้อกลางวัน นายเลเติ๊น อยู่ที่เมืองบานเมถวตเผยว่า “ พ่อแม่ของผมเคยเล่าเรื่องในอดีตที่รัฐบาลดำเนินเศรษฐกิจแบบรัฐอุปถัมภ์ ซึ่งการซื้อสินค้าทุกอย่างโดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตเช่น ข้าว เนื้อสุกร เกลือ และน้ำปลา แม้กระทั่งทานก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งก็ต้องเข้าคิวแลกคูปอง ผมเพียงแต่ยิ้มและจิตนาการภาพไม่ออก แต่วันนี้มาร้านผมจึงเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งเป็นระยะเวลาหนึ่งที่เต็มไปด้วยความยากลำบากในชีวิตแต่พ่อแม่ของเราและทุกคนก็สามารถฟันฝ่าไปได้ อาหารที่นี่อร่อยแบบสมัยรัฐอุปถัมภ์ แม้จะมีเครื่องปรุงไม่ครบ หรืออาหารไม่ได้ใส่ในภาชนะที่สวยๆเหมือนในภัตตาคารหรูแต่ผมชอบมาก หากมีโอกาสมาเยือนฮานอย ผมจะแวะทานอาหารที่นี่อีก ”
|
คูปองซื้อเชื้อเพลิง |
นายมิงห์เผยอีกว่า ท่านจะหาภาชนะต่างๆของยุครัฐอุปถัมภ์เพิ่มเติมอีกเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับบรรยากาศของยุคนั้น ร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗ ได้กำเนิดขึ้นจากอนุสรณ์และความฝันในวัยเด็ก เนื่องจากนายมิงห์อยากให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับทราบเรื่องราวในอดีตที่ยากลำบากของประเทศที่ขาดแคลนทุกอย่างแม้กระทั่งอาหารการกิน “ ผมเปิดร้านนี้เพื่อที่จะสื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้เข้าใจว่า แม้ในยามประเทศประสบความลำบากยากเข็ญ ขาดแคลนทุกอย่างแต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกคนก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้และสร้างสรรค์ประเทศให้เจริญเข้มแข็งในปัจจุบัน บรรพบุรุษต้องประสบกับความลำบากตรากตรำขนาดไหน แต่ก็ฟันฝ่าไปได้ เด็กรุ่นปัจจุบันได้อยู่ในสภาพที่เอื้ออำนวยทุกอย่างก็ต้องทำแต่สิ่งดีๆเพื่อประเทศชาติ ”
|
บรรยากาศภายในร้าน |
ประเทศเวียดนามปัจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ดีขึ้น แต่เรื่องราวเกี่ยวกับระยะเวลาหนึ่งที่ผูกพันกับเศรษฐกิจรัฐอุปถัมภ์นั้นยังคงสถิตอยู่ในใจของชาวเวียดนามหลายล้านคน ซึ่งร้านอาหารรัฐอุปถัมภ์หมายเลข ๓๗ เสมือนที่เก็บรักษาบรรยากาศและสิ่งของวัตถุของยุคหนึ่งที่น่าจดจำและเต็มไปด้วยอนุสรณ์ที่ไม่ควรพลาดถ้ามีโอกาสมาฮานอย ./.
|
ที่ซื้อคูปองแลกอาหารและเครื่องดื่ม |
|
หินที่แกะสลักชื่อมายห่าย |
|
อิฐจองคิวซื้อสินค้าและ รถจักรยาน
|