(VOVworld) – ความขัดแย้งที่ลึกซึ้งระหว่างสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาซีเรียได้เกิดขึ้นในการประชุมฉุกเฉินเมื่อเช้าวันที่ 9 ตุลาคม หลังจากมติ 2 ฉบับของฝรั่งเศสและรัสเซียที่กล่าวถึงมาตรการแก้ไขสถานการณ์ในซีเรียไม่ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเพียงพอ ซึ่งทำลายความหวังของประชาคมโลกเกี่ยวกับการมีมติของสหประชาชาติเพื่อมีส่วนร่วมยุติการปะทะในซีเรีย

การประชุมมีขึ้นในสภาวะการณ์ที่สถานการณ์ในเมืองอเลปโป ประเทศซีเรียยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับสหรัฐเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย ในการอนุมัติร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้นจะต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกอย่างน้อย 9 ประเทศ และไม่ถูกคัดค้านจากหนึ่งใน 5 ประเทศสมาชิกถาวรคือ รัสเซีย สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศสและจีน
ความขัดแย้งที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย
ในการประชุม ฝรั่งเศสและรัสเซีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีสิทธิวีโต้ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เสนอร่างมติ 2 ฉบับเพื่อแก้ไขสถานการณ์ซีเรีย โดยร่างมติของฝรั่งเศสมีเนื้อหาหลักคือเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการโจมตีทางอากาศและเที่ยวบินทางทหารเหนือน่านฟ้าของเมืองอเลปโปของซีเรียทันที อีกทั้งเรียกร้องให้ปฏิบัติคำสั่งหยุดยิงและอำนวยความสะดวกให้แก่การขนส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังสถานที่ทุกแห่งของซีเรีย ร่างมติฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจาก 11 ประเทศสมาชิกจากจำนวนทั้งหมด 15 ประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่รัสเซียได้ใช้สิทธิวีโต้มติฉบับนี้ เพราะการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในเมืองอเลปโปมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ก่อนการลงคะแนน รัสเซียก็ได้แสดงความเห็นที่คัดค้านเนื้อหาในร่างมติเนื่องจากมีข้อเสนอบางข้อที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะได้นำปัญหาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมาเกี่ยวข้องกับปัญหาการเมือง นี่คือครั้งที่ 5 ที่รัสเซียลงคะแนนคัดค้านมติของสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาซีเรียในตลอดกว่า 5 ปีที่เกิดสงครามในซีเรีย
ในขณะเดียวกัน ร่างมติของรัสเซียเรียกร้องให้ปฏิบัติคำสั่งหยุดยิงในซีเรีย แต่ไม่ได้กล่าวถึงการยุติการโจมตีทางอากาศ ซึ่งร่างมติฉบับนี้ก็ไม่ได้รับการอนุมัติเช่นกัน เพราะหลายประเทศไม่สนับสนุน โดยอังกฤษ ฝรั่งเศสและสหรัฐได้ใช้สิทธิวีโต้
ที่น่าสนใจคือ การประชุมมีขึ้นในบรรยากาศที่ขาดความร่วมมือ ในกระบวนการลงคะแนน สมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติส่วนใหญ่ไม่สนใจถึงบทปราศรัยของแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะตัวแทนของสหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศสได้เดินออกจากที่ประชุมเมื่อเอกอัครราชทูตซีเรียกล่าวปราศรัย ร่างมติของรัสเซียและฝรั่งเศสต่างไม่ได้รับการอนุมัติเนื่องจากทุกฝ่ายไม่สามารถประนีประนอมในเนื้อหาสำคัญ
ไม่บ่อยครั้งนักที่จะเห็นที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสนอร่างมติ 2 ฉบับพร้อมกันและไม่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่ลึกซึ้งระหว่างประเทศสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย นาย Vitaly Churkin เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติได้ยอมรับว่า การลงคะแนน 2 ครั้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปัญหาในซีเรียมีความสำคัญมาก และต้องได้รับการประสานงานจากความพยายามทางการเมืองของประชาคมโลก แต่การขาดความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ระหว่างประเทศสมาชิกถือเป็นเรื่องที่เสียเวลาและไม่สามารถยอมรับได้ ในขณะเดียวกัน บรรดานักการทูตประจำสหประชาชาติได้แสดงความเห็นว่า จะไม่มีมติฉบับใดเกี่ยวกับซีเรียที่จะได้รับการอนุมัติถ้าหากทั้งรัสเซียและสหรัฐไม่สามารถมีเสียงพูดเดียวกันเกี่ยวกับปัญหานี้ในปัจจุบัน

ตั้งความหวังและพยายามทางการทูตต่อไป
นาย Vitaly Churkin เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติและตัวแทนของประเทศซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนตุลาคมได้ประกาศว่า การไม่สามารถอนุมัติร่างมติเกี่ยวกับซีเรียไม่ได้หมายความว่า ความพยายามทางการทูตได้ยุติลง เพราะความพยายามระดับทวิภาคีและพหุภาคียังคงได้รับการปฏิบัติต่อไป พร้อมทั้งแสดงความหวังว่า สถานการณ์ในซีเรียจะมีเสถียรภาพโดยเร็ว ในขณะเดียวกัน นาย ฌอง-มาร์ก เอโรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสได้ยืนยันว่า จะเจรจากับรัสเซียต่อไปเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพให้แก่วิกฤตในซีเรีย ถึงแม้รัสเซียได้ลงคะแนนคัดค้านร่างมติเกี่ยวกับสงครามในซีเรียโดยฝรั่งเศสเป็นผู้เสนอ แต่นาย ฌอง-มาร์ก เอโรต์ ได้ชี้ชัดว่า ฝรั่งเศสจะไม่ยุติสนทนากับรัสเซีย หากจะพิจารณาทางเลือกอื่นและพยายามแสวงหามาตรการสันติภาพให้แก่ซีเรีย ในการกล่าวปราศรัยผ่านช่องโทรทัศน์ “กระแสเยอรมนี” ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 12 ตุลาคม นาย บันคีมูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้ยอมรับว่า สหประชาชาติต้องพยายามมากขึ้นเพื่อขัดขวางโศกนาฏกรรมเหมือนที่ชาวซีเรียกำลังต้องเผชิญ พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องมีปฏิบัติการที่มีประชาธิปไตย โปร่งใสและมีลักษณะเป็นตัวแทนมากขึ้นในอนาคต
การที่มติ 2 ฉบับเกี่ยวกับซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกและรัสเซียไม่ได้รับการอนุมัติในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ทำให้สถานการณ์ในซีเรียตกเข้าสู่ความชะงักงันอีกครั้ง ปัจจุบัน การยุติสงครามในซีเรียต้องรอมาตรการทางการทูตอื่นของประชาคมโลก ส่วนในระยะยาวก็ต้องรอการประนีประนอมของประเทศใหญ่ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในการแสวงหาเสียงพูดเดียวกันเพื่อแก้ไขปัญหาสันติภาพในซีเรีย.