(VOVworld) – ตามคำเรียกร้องของรัสเซีย เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 7 ตุลาคม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากที่นาย สทาฟฟัน เดอ มิสทูรา ทูตพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับซีเรียได้เตือนว่า การปะทะในซีเรียอาจทำให้พื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองอเลปโปถูกทำลายทั้งหมดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยนาย มิสทูรา จะรายงานสถานการณ์ปัจจุบันของซีเรียต่อคณะมนตรีความมั่นคงผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนช์ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงมอสโคว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-มาร์ค เอโรต์ ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับวิกฤตซีเรีย โดยนาย ลาฟรอฟ ได้เผยว่า รัสเซียและฝรั่งเศสต่างได้แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในซีเรีย โดยทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียได้ประกาศว่า รัสเซียพร้อมที่จะศึกษาเกี่ยวกับร่างมติของฝรั่งเศสตามเงื่อนไขที่ได้ระบุในข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับสหรัฐเกี่ยวกับปัญหาซีเรีย รวมทั้งมติฉบับบต่างๆ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและข้อตกลงต่างๆ ของกลุ่มผู้สนับสนุนระหว่างประเทศให้แก่ซีเรีย ส่วนนาย ฌอง-มาร์ค เอโรต์ ได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสให้การสนับสนุนมาตรการทางการเมืองเพื่อแก้ไขวิกฤตซีเรียและร่างมติของฝรั่งเศสที่ยื่นเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประกอบด้วย 2 ประเด็นหลักคือ ยุติการโจมตีใส่เมืองอเลปโปและค้ำประกันการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ในวันเดียวกัน นายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ประกาศว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เตือนว่า สหรัฐต้องคิดอย่างระมัดระวังถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นถ้าหากทำการโจมตีใส่กองกำลังของรัฐบาลซีเรีย โดยการประกาศดังกล่าวได้มีขึ้นหลังจากที่สื่อมวลชนของฝ่ายตะวันตกได้เผยข้อมูลว่า ทำเนียบขาวกำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเปิดการโจมตีใส่กองกำลังต่างๆ ของรัฐบาลซีเรียโดยจะใช้ขีปนาวุธหรือเครื่องบินรบ ซึ่งนาย โคนาเชนคอฟ ได้ย้ำว่า ทุกการโจมตีด้วยขีปนาวุธและเครื่องบินรบที่มุ่งเป้าไปยังพื้นที่ที่ถูกกองกำลังของรัฐบาลซีเรียควบคุมจะส่งผลให้กองทัพของรัสเซียในเซีเรียได้รับอันตราย.