 เขตนิคมอุตสาหกรรม ฟู้หมี 3 เตรียมพื้นที่รับกระแสการลงทุนใหม่ (Lưu Sơn) |
เขตอุตสาหกรรมเดิ๊ดด๋อ 1 ในจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปี 2009 ในพื้นที่ 500 เฮกตาร์ ซึ่งจนถึงปลายปี 2019 เขตอุตสาหกรรมนี้มีนักลงทุนรายย่อยเกือบ 20 รายมาเช่าพื้นที่รวมกันประมาณร้อยละ 80 นาย เหงียนคั๊กแทง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนเขตอุตสาหกรรม ติ๊นเหงียะ เฟืองดง ซึ่งเป็นเจ้าของเขตนิคมอุตสาหกรรมเดิ๊ดด๋อ 1 เผยว่า นับตั้งแต่ปลายปี 2019 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศเวียดนามเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุน ดังนั้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อย เขตอุตสาหกรรม เดิ๊ดด๋อ 1 ได้เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงลูกค้าโดยใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เช่น zalo และ Skype… เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานของเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ หลังจากที่หานักลงทุนได้ก็ติดต่อทางอีเมล การหารือระหว่างนักลงทุนรายย่อยกับเขตอุตสาหกรรมมีขึ้นเป็นประจำผ่าน Video call โดยลูกค้าชาวต่างชาติได้รับคำปรึกษาอย่างเต็มที่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
ผ่านสมาคมนักธุรกิจประเทศต่างๆประจำเวียดนาม นักลงทุนรายใหม่ได้ส่งอีเมลมาถามข้อมูลซึ่งก็มีการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ ทำให้ลูกค้าหลายรายมีความเชื่อมั่นและลงนามในสัญญาเช่าหรือวางเงินมัดจำที่ดิน ซึ่งจนถึงขณะนี้ เขตอุตสาหกรรมเดิ๊ดด๋อ 1 ได้ลงนามในบันทึกช่วยจำหรือได้รับเงินมัดจำที่ดินจากสถานประกอบการภายในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งสถานประกอบการที่มาจากประเทศสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีได้จำนวนหนึ่ง นาย เหงียนคั๊กแทง เผยว่า “เราได้ลงนามบันทึกช่วยจำการลงทุนหลายฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนต่างชาติ พวกเขายังคงวางแผนกลับมาลงทุนในเวียดนามเพราะหลังการลงนามบันทึกช่วยจำก็เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ดังนั้นพวกเขาต้องพิจารณาเวลาและแผนการลงทุนให้เหมาะสม”
เช่นเดียวกับเขตอุตสาหกรรมเดิ๊ดด๋อ 1 ในเวลาที่ผ่านมา จากการจัดการสัมมนาทางไกลและประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ขององค์การการค้าประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ปัจจุบันนี้ เขตอุตสาหกรรมฟู้หมี 3 สามารถดึงดูดลูกค้าจากญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี 10 รายมาลงนามสัญญาและวางเงินมัดจำที่ดินเป็นเวลา 1 ปี นาย Kazama Toshio รองผู้อำนวยการใหญ่เขตอุตสาหกรรมฟู้หมี 3 กล่าวว่า “มีสัญญาณที่น่ายินดีจากนักลงทุนคือ พวกเขาได้ตัดสินใจลงทุน กำลังก่อสร้างและเตรียมแผนเปิดดำเนินการโดยเร็วเนื่องจากมีผู้รับเหมาและบริษัทให้บริการในเวียดนามจึงผลักดันการปฏิบัติ ส่วนโครงการที่ได้เปิดดำเนินการแล้วก็เพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้พยากรณ์ว่า หลังวิกฤตโควิด -19 กระแสการลงทุนของสถานประกอบการเอฟดีไอในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆไป ซึ่งปัจจุบันนี้ เขตอุตสาหกรรมหลายแห่งได้ให้เช่าพื้นที่ทั้งหมดแล้วหรือต้องขออนุญาตขยายพื้นที่เพื่อตอบสนองความต้องการของสถานประกอบการเอฟดีไอ นายเลแทงเลียม รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอโจวดึ๊ก เผยว่า หลังจากที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทางอำเภอฯ ได้เตรียมพื้นที่และรณรงค์ให้ประชาชนอำนวยความสะดวกให้แก่การเวนคืนที่ดินเพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยมาศึกษาหาโอกาสลงทุน “ในการบริหาร ทางเราจะฝึกสอนอาชีพเพื่อตอบสนองการโยกย้ายแรงงานและแก้ปัญหางานทำเพื่อจัดสรรแรงงานให้แก่เขตอุตสาหกรรมต่างๆ อำนวยความสะดวกให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการผลิต พร้อมทั้งสนับสนุนการเวนคืนที่ดินอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดนักลงทุนรายย่อยเข้ามาลงทุนตามข้อกำหนดของทางการจังหวัดฯ”
 นักลงทุนส่วนใหญ่ในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า ต่างได้รับการอำนวยความสะดวกในด้านที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงสร้าง (Lưu Sơn) |
คณะกรรมการบริหารของเขตอุตสาหกรรมต่างๆในจังหวัดบ่าเหรียะ หวุงเต่า เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา ทางการจังหวัดฯได้เน้นตรวจสอบและปรับปรุงการวางผังเขตอุตสาหกรรมตามแนวทางดึงดูดการลงทุนที่ได้คัดเลือกพร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและการก่อสร้างกลุ่มเขตอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างแหล่งสินค้าสำหรับป้อนให้แก่ระบบท่าเรือก๊ายแม๊บ ถิหวาย ทำการปรับปรุงหน่วยงานและอาชีพเพื่อดึงดูดการลงทุนในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ
นาย เหงียนแองเจี๊ยด หัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตอุตสาหกรรมจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า เผยว่า ถึงขณะนี้ ในเขตอุตสาหกรรมต่างๆของจังหวัดฯ มีนักลงทุนที่มีศักยภาพ 50 รายกำลังให้ความสนใจ ลงนามบันทึกช่วยจำและวางเงินมัดจำที่ดินรวมพื้นที่กว่า 1,000 เฮกตาร์ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อรับกระแสการย้ายการลงทุนเอฟดีไอมายังเวียดนาม นับตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี 2030 จังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่า จะก่อสร้างเขตอุตสาหกรรมอีก 8 แห่งซึ่งจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 8,000 เฮกตาร์เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน “จำนวนนักลงทุนที่มีศักยภาพได้วางเงินมัดจำที่ดินแล้วประมาณ 630 เฮกตาร์ ในเขตอุตสาหกรรมเดิ๊ดด๋อ 1 มีนักลงทุน 11 รายได้ลงนามในบันทึกช่วยจำ ในเขตอุตสาหกรรมด๋ายเยืองมีนักลงทุน 1 ราย เขตอุตสาหกรรมฟู้หมีมีนักลงทุน 1 รายและในเขตอุตสาหกรรมก๊ายแม๊บมีนักลงทุน 2 ราย ดังนั้น หลังวิกฤตโควิด -19 นักลงทุนเหล่านี้จะเช่าที่ดินรวมกัน 1,000 เฮกตาร์”
จากการปฏิบัติคำขวัญ “ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความพึงพอใจของนักลงทุน” ทางการจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการปฏิรูประเบียบราชการตามแนวทางทำระเบียบราชการอย่างรวดเร็วแต่ยังคงถูกต้องตามกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการผลิตและประกอบธุรกิจ./.