สร้างสรรค์แบรนด์การท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายาง

Vinh Phong
Chia sẻ
(VOVWORLD) - จังหวัดห่ายางตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเวียดนามมีศักยภาพสูงและความได้เปรียบต่างๆ เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งทางจังหวัดฯ กำลังมุ่งสู่เป้าหมายนำการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ อยู่ในแผนที่การท่องเที่ยวเวียดนามและโลก ช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นพลังขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ
สร้างสรรค์แบรนด์การท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายาง - ảnh 1จังหวัดห่ายางมีศักยภาพสูงในการพัฒนาการท่องเที่ยว ( Photo: TT)

นับตั้งแต่ปี 2010 เมื่อที่ราบสูงหินด่งวันได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นสมาชิกของเครือข่ายอุทยานธรณีวิทยาโลก เครื่องหมายการค้าการท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายางได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยได้ใช้ศักยภาพของที่ราบสูงหินด่งวันควบคู่กับการอนุรักษ์และส่งเสริมเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย 19 กลุ่มที่กำลังอยู่อาศัยในผืนแผ่นดินนี้ นาง เจี่ยวถิติ่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม การกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดห่ายางเผยว่า

            “ห่ายางเน้นอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองและมรดกทางธรรมชาติต่างๆ โดยเฉพาะอุทยานธรณีโลกที่ราบสูงหิน ด่งวัน ปัจจุบันนี้ เรากำลังอนุรักษ์เทศกาลพื้นเมืองต่างๆ เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศได้เก็บประสบการณ์ นี่คือแนวทางและวิธีการพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ”

จังหวัดห่ายางตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2025 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลายเป็นเศรษฐกิจหลักที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคน และถึงปี 2030 เขตที่ราบสูงหินด่งวันจะได้รับการรับรองเป็นเขตท่องเที่ยวแห่งชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว 5 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีส่วนร่วมต่อจีดีพีของจังหวัดมากกว่าร้อยละ 14 และสร้างงานทำประมาณ 20,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯ กำลังพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การพักผ่อนและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกด้วย นาง เจี่ยวถิติ่ง เผยต่อไปว่า

            “แม้การธำรงเครื่องหมายการค้าการท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายางจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่การกำหนดสถานะให้แก่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ กลับมีความยากลำมากกว่าเพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ดังนั้น ในเวลาที่ผ่านมา จากการชี้นำและการกำหนดแนวทางอย่างใกล้ชิดของทางการปกครองท้องถิ่น อาจกล่าวได้ว่า เครื่องหมายการค้าของจังหวัดห่ายางกำลังได้รับการกำหนดและพัฒนา โดยเรากำลังสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ”

สร้างสรรค์แบรนด์การท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายาง - ảnh 2จุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ ( Photo: TT)

ในการสัมมนาเกี่ยวกับการกำหนดและสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดห่ายางที่มีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้คุณค่าหลักและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ตามแนวทางแห่งสีเขียวและยั่งยืนได้ช่วยให้จังหวัดห่ายางกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพิ่งโดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของเอเชีย นาย Lee Kyung Taek รองหัวหน้าสำนักงานตัวแทนของทบวงการท่องเที่ยวสาธารณรัฐเกาหลีประจำเวียดนามกล่าวว่า

            “ผมคิดว่า จังหวัดห่ายางควรปรับปรุงและยกระดับโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อไป ห่ายางมีทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งควรพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน การใช้ศักยภาพทางธรรมชาติและกีฬาต่างๆ เช่น กีฬาทางน้ำ กระเช้าลอยฟ้า และสะพานชมวิว เป็นต้น เป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว”

ดร. หวูนาม ภาควิชาการท่องเที่ยวและโรงแรม มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แสดงความคิดเห็นว่า จังหวัดห่ายางต้องเตรียมแหล่งพลังต่างๆ ขยายความร่วมมือระหว่างอำเภอ ตัวเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นฝ่ายรุกในการจัดทำ เสนอแผนการและนโยบายใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงและแนวโน้มการพัฒนา

            “จังหวัดห่ายางต้องเน้นถึงจุดที่สร้างความแตกต่างไปจากท้องถิ่นอื่นๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในการจัดทำผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเฉพาะถิ่น ต้องช่วยให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความแตกต่างและสนใจมาเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของห่ายาง”

ปัจจุบันนี้ ในจังหวัดห่ายาง มีสถานประกอบการและสหกรณ์ 54 แห่งที่กำลังประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวเกือบ 900 แห่ง ในหลายปีมานี้ จังหวัดห่ายางมักได้รับการโหวตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดใจโดยมีเอกลักษณ์วัฒนธรรม ทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งนี้ ถ้าหากการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าการท่องเที่ยวของจังหวัดห่ายางประสบความสำเร็จก็จะมีส่วนร่วมต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชนชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆในจังหวัดให้นับวันดีขึ้น.

คำติชม