เวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและมีส่วนร่วมสำคัญต่ออาเซียน

Pham Ha - Anh Huyen
Chia sẻ

(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง ได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 ที่ขึ้น ณ เมืองลาบวน บาโจ ประเทศอินโดนีเซียในระหว่างวันที่ 9-11 พฤษภาคม ภายใต้หัวข้อ "อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ" (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของทุกประเทศในการนำอาเซียนกลายเป็นศูนย์กลางและพลังขับเคลื่อนในฐานะเป็นผู้แนะแนวในกระบวนการความร่วมมือและเชื่อมโยงของภูมิภาค เพื่อมีส่วนร่วมต่อเป้าหมายร่วมกันคือ สันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรือง

 

เวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและมีส่วนร่วมสำคัญต่ออาเซียน - ảnh 1นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง (VGP)

อาเซียนเป็นองค์กรที่มีบทบาทยุทธศาสตร์และมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดถึงผลประโยชน์ด้านความมั่นคง สถานะและการพัฒนาของเวียดนาม ดังนั้น เวียดนามจึงเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งนี้อย่างเข้มแข็งด้วยความรับผิดชอบ และความคิดสร้างสรรค์เพื่อมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุมฯ

ท่ามกลางบรรยากาศที่ซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ของภูมิภาคและโลก ภายใต้หัวข้อ "อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ" การประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งสารเกี่ยวกับความตั้งใจของทุกประเทศสมาชิกในการร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแนวทางที่ยั่งยืนและครอบคลุม

กำหนดอนาคตของอาเซียนในระยะใหม่

สิ่งใหม่ในการประชุมครั้งนี้คือความหลากหลายในการสนทนาระหว่างบรรดาผู้นำกับกลุ่มและองค์กรต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาที่ต่างให้ความสนใจในกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียน รวมทั้งการสนทนากับคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนหลังปี 2025 นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้นำประเทศต่างๆ ได้หารือกับตัวแทนระดับสูงของคณะฯ ร่างเอกสารเกี่ยวกับการกำหนดอนาคตให้แก่อาเซียนในระยะต่อไป โดยการสนทนาครั้งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นรากฐานให้แก่อนาคตของอาเซียน และเป็นครั้งแรกที่ผู้นำติมอร์ เลสเต เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์

คาดว่า ที่ประชุมจะอนุมัติเอกสารสำคัญๆ ทั้งใน 3 เสาหลัก การเมือง – ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม - สังคม โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆที่ประธานอาเซียนกำหนดในปี 2023 เกี่ยวกับความมีเสถียรภาพด้านการเงินและความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อความพยายามผลักดันการฟื้นฟูและขยายตัวของภูมิภาคและมีส่วนร่วมช่วยให้อาเซียนพัฒนาเป็นศูนย์กลางในกระบวนการพัฒนาของทั้งภูมิภาค นอกจากนี้ ที่ประชุมยังกำหนดแนวทางให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนในสภาวการณ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทายต่างๆ ซึ่งทำให้อาเซียนต้องมีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ สามัคคีและมีบทบาทเป็นศูนย์กลาง นาย Kao Kim Hourn เลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า

“อาเซียนเป็นองค์กรที่สำคัญในภูมิภาคและโลก ซึ่งได้รับความสนใจจากหุ้นส่วนจำนวนมาก ดังนั้น การปฏิบัติหรือการเจรจาของอาเซียนจึงไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญต่ออาเซียนเท่านั้น หากต่อประเทศหุ้นส่วนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อาเซียนยังคงต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อผลประโยชน์ของตนและสร้างสรรค์ประชาคมที่พึ่งตนเองและเข้มแข็ง พัฒนาเป็นศูนย์กลางของการขยายตัวในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกมีความซับซ้อน ดังนั้น ทุกประเทศสมาชิกต้องผลักดันความพยายามร่วมมือเพื่อค้ำประกันให้อาเซียนยังคงเป็นภูมิภาคที่ดึงดูดนักลงทุนจากภายนอกและบรรดาประเทศหุ้นส่วน พร้อมทั้งรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในด้านความมั่นคงเพื่อดึงดูดการลงทุนมากขึ้น”

เวียดนามปฏิบัติเพื่อประชาคมอาเซียนที่สามัคคี เข้มแข็งและพัฒนาอยู่เสมอ

จากการมีบทบาทสำคัญเชิงยุทธศาสตร์และเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคง สถานะและการพัฒนาของเวียดนาม อาเซียนถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในนโยบายการต่างประเทศของเวียดนาม นับตั้งแต่ที่เข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1995 เวียดนามได้เข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีส่วนร่วมสำคัญฯ ต่ออาเซียน ในกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียน เวียดนามได้ยกย่องความสามัคคีและความเป็นเอกฉันท์ตามเจตนารมณ์ “สามัคคี” ทุกครั้งที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียนล้วนแต่เป็นช่วงเวลาที่อาเซียนกำลังประสบความท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2020 เวียดนามต้องเผชิญความยากลำบากที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเนื่องจากการแพร่ระบาดโรคโควิด – 19 แต่เวียดนามยังคงยืนหยัดหลักการของอาเซียน แสดงเจตนารมณ์ “ผูกพันเชื่อมโยงและเป็นฝ่ายรุกในการปรับตัว” นำอาเซียนฟันฝ่าอุปสรรคและธำรงอัตราความร่วมมือและการเชื่อมโยงของภูมิภาค พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการพัฒนาให้แก่ประชาคมอาเซียนในยุคใหม่ สำหรับส่วนร่วมของเวียดนามในอาเซียน นาย Kao Kim Hourn ยืนยันว่า

“ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน เป็นสมาชิกของคณะเลขาธิการอาเซียนหรือเป็นผู้ประสานงานกับหุ้นส่วนสนทนา เวียดนามก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างกระตือรือร้นและในฟอรั่มระหว่างประเทศต่างๆ เวียดนามได้ผลักดันผลประโยชน์ของบรรดาประเทศอาเซียน อาจกล่าวได้ว่า เวียดนามเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้น เป็นฝ่ายรุกและมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก”

เวียดนามเข้าร่วมการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งที่ 42 บนเจตนารมณ์แห่งความเป็นฝ่ายรุก เข้าร่วมอย่างเข้มแข็ง มีความรับผิดชอบ มีความคิดสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของการประชุม ซึ่งสารที่เวียดนามอยากส่งถึงที่ประชุมคือ การผลักดันความสามัคคี การพึ่งตนเอง ยกระดับทักษะความสามารถในการรับมือและการปรับตัวอย่างคล่องตัวของอาเซียนต่อความผันผวนต่างๆ ส่งเสริมบทบาท เสียงพูดและความรับผิดชอบของอาเซียนในการปฏิบัติกิจกรรมของภูมิภาคและโลก.

คำติชม