แฮมเลตไปแสวงหาสัจธรรม

แฮมเลตเป็นบทละครแนวโศกนาฏกรรมที่ถูกเขียนขึ้นโดยวิลเลียม เชกสเปียร์ ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆและเป็นที่นิยมนำมาแสดงมากที่สุด  บทละครแฮมเลตฉากกำหนดให้ดำเนินเรื่องในประเทศเดนมาร์กเรื่องราวเกี่ยวกับความพยายามของเจ้าชายแฮมเลตที่จะล้างแค้นพระปุตุลาหรือกษัตริย์คลอดิอัส เนื่องจากเป็นผู้แอบลอบสังหารบิดาของแฮมเลตเพื่อชิงราชบังลังก์และมารดาของแฮมเลต  ผ่านมา ๔ ศตวรรษนับตั้งแต่นักประพันธ์เชกสเปียร์ลงมือเขียนมาจนถึงปัจจุบัน บทละครแฮมเลตยังทรงคุณค่าแห่งยุคสมัย เป็นผลงานเกี่ยวกับการเดินทางไปแสวงหาความจริงเพื่อปกป้องศีลธรรม คุณธรรมและอุดมการณ์ในชีวิตของมนุษย์  ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ คณะละครเวทีเวียดนามได้แสดงบทละครที่มีชื่อเสียงแฮมเลต อันเป็นการเปิดฉากการแสดงบทละครที่อมตะของโลกหลายบท และได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ชม  คุณเหงวียน ถิ่ กุ๊ก ที่ชมการแสดงบทละครโศกนาฏกรรมแฮมเลตรอบแรกของคณะละครเวทีเวียดนามกล่าวว่า  “ ดิฉันเคยชมการแสดงบทละครเวทีแฮมเลตหลายครั้งรวมทั้งชมที่ประเทศรัสเซีย  นับเป็นบทละครเวทีตัวอย่างที่มีลักษณะการเมืองและปรัชญาเกี่ยวกับชีวิตอย่างลึกซึ้ง บทละครเวทีแฮมเลตที่คณะละครเวทีเวียดนามนำมาเล่นนั้นดีมากและเป็นแฮมเลตของเวียดนาม มีการดัดแปลงออกไปเป็นรูปแบบแนวทางใหม่ๆและมีการแสดงออกในรูปแบบต่างๆตามยุคสมัยจึงเข้าถึงผู้ชมได้ ”

บทละครเวทีแฮมเลตถูกนำมาแสดงบนเวทีเวียดนามมีลักษณะแห่งแนวคิดและวิธีการสื่อสารของคนเวียดนามศตวรรษที่ ๒๑  โดยเปิดโปงใจชั่วของมนุษย์แต่ละคนอย่างเปิดเผยและแท้จริง ตัวละครแฮมเลตกล้าเผชิญกับความชั่วร้ายและกล้าต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายแม้จะต้องสูญเสียอย่างมาก นักแสดงต่า มินห์ที่รับบทแฮมเลตเปิดเผยว่า  นับเป็นการทดสอบครั้งใหญ่ เขาต้องศึกษาข้อมูล จากภาพยนตร์ บทละครเวทีในประเทศและต่างประเทศเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับยุคของแฮมเลตและประวัติศาสตร์ ตัวละครแฮมเลตถือเป็นปริศนาที่นักแสดงละครเวทีทุกชีวิตอยากสวมบท นายต่า มินห์กล่าวว่า  “ สิ่งแรกคือความใกล้ชิดทางวัฒนธรรม โดยคนเอเชียตะวันออกเน้นน้ำใจเป็นหลัก ตัวละครแฮมเลตใกล้ชิดกับคนเวียดนามอยู่ตรงที่เขาเน้นความสัมพันธ์กับพ่อ พี่น้อง น้าอา ะหลาน เพื่อนและความรัก แต่ต้องยึดแนวคิดของเชกสเปียร์  ทั้งนี้ทำให้ชาวเวียดนามรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้น เห็นใจมากขึ้น และสิ่งที่สำคัญคือ เข้าใจง่ายขึ้น  ผลงานนี้นำผู้ชมชาวเวียดนามใกล้ชิดกับเชกสเปียร์มากขึ้น ”

กษัตริย์คลอดิลัสกับพระราชินี

เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายเดนมาร์กที่แสดงโดยคณะละครเวทีเวียดนามไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่สำหรับชาวเวียดนาม ความขัดแย้งและความคิดต่างๆนาๆของบทละครผ่านฝีมือของผู้กำกับแองตู๊ได้แปรตามความคิดของชาวเวียดนามในศตวรรษที่ ๒๑  ซึ่งไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับคนดีแต่ต้องแสวงหาสัจธรรมด้วยตนเองโดยไม่มีเพื่อนร่วมเดินทาง แต่กลับเป็นตัวละครที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและสิ่งที่ดีตลอดจนเพื่อความสุขของมนุษย์ นายเล กวี้ เหี่ยน นักประพันธ์บทละครเวทีกล่าวว่า  “ ผู้กำกับบทละครเวทีของเชกส์เปียร์กำกับด้วยจิตใจของคนเวียดนามและ วิธีการคิดของคนเวียดนาม ดังนั้น ผลงานจึงกลายเป็นบทเลครเวทีสำหรับผู้ชมชาวเวียดนามโดยไม่มีเจตนาดัดแปลงบทประพันธ์เป็นของเวียดนาม ทั้งนี้ทำให้มันเข้าสู่ใจของผู้ชมไปเอง ”

บทละครยังเข้าถึงจิตใจผู้ชมเพราะมีการดัดแปลงที่สะท้อนความรักระหว่างแม่และลูกอย่างสุดซึ้ง อีกทั้งฉากบนเวทีที่มีความโดดเด่นและมีความคิดสร้างสรรค์โดยศิลปินประชาชนหยวาน โจว์ โดยจัดฉากแบบจัดวางอุปกรณ์การแสดงต่างๆเช่นฐานและแผ่นขนาดใหญ่ เมื่อจัดเป็นแถวหรือเป็นวงกลมจะกลายเป็นฐานรองตัวละครหรือเป็นเหวลึกที่มืดมน ซึ่งผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ชมบทละครเวทีหลายมิติและมีนัยยะ บทละครเวทีแฮมเลตได้นักแสดงรุ่นใหม่รับบทตัวละครต่างๆทำให้สัมผัสได้ถึงความสดใสและไฟแรงของหนุ่มสาว  ส่วนการระบำซวน ฝาของจังหวัดแทงฮว้าที่ใช้ประกอบการแสดงนั้นทำให้บทละครเวทีแฮม เลตมีชีวิตชีวา มีอัตลักษณ์จนดึงดูดใจผู้ชมยิ่งนัก  นายฝ่าม วัน ฟุกนักวิจารณ์ละครเวทีเห็นว่า   “ บทละครเวทีแฮมเลตเปิดระยะใหม่ให้แก่คณะละครเวทีเวียดนาม  แม้ผู้ชมชาวเวียดนามที่เอาใจยากแค่ไหนก็ต้องยกนิ้วให้ว่า ได้รับการจัดแสดงอย่างกระทัดรัดเพราะต้นฉบับยาว ๑๗๐ หน้ากระดาษและมีตัวละคร ๒๑ ตัว ส่วนบทแสดงใช้เวลา ๒ ชั่วโมงแต่ยังคงเนื้อหาและจิตใจของบทไว้ได้  ผู้ชมชื่นชอบบทละครนี้เพราะความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับและนักแสดง ”

ระบำซวนฝาของจังหวัดแทงฮว้า

ปัจจุบันผู้ที่รักศิลปะมีโอกาสเลือกชมการบันเทิงต่างๆตามรสนิยม ส่วนละครเทวีที่ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชมเพราะขาดบทละครเวทีที่ดี การที่บทละครเวทีโศกนาฏกรรมแฮมเลตได้รับการตอบรับอย่างดีนั้นถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจในวงการละครเวทีเวียดนาม  .