( VOV )-
มีนักประพันธ์ดนตรีท่านหนึ่งของเวียดนามที่ชื่อเสียงและผลงานของท่านได้ปรากฎบนเวทีทั้งใหญ่และเล็กของเวียดนามไม่ว่าจะเป็นเพลงสรรเสริญประธานโฮจิมินห์เช่น “ความรักอันกว้างใหญ่ของลุงโฮ ” เพลง “ แสงพระจันทร์บาดิ่นห์ ” เพลงเกี่ยวกับทหารเช่น “ ความคนึงหาน้องที่อยู่แม่น้ำห่งตอนล่าง ” เพลง “ ดอกไม้สีแดง ” ตลอดจนเพลงรักที่โรแมนติกเช่น “ รักเงียบ ” “ ความปรารถนา ” และเพลง “ ลากจากกันยามสายัญ ” ซึ่งล้วนสร้างชื่อเสียงให้กับท่านบนถนนเพลงแห่งยุคสมัย นักประพันธ์ดนตรีท่านนี้คือ ท่านถ่วนเอี๊ยน-ปรมาจารย์ด้านประพันธ์ดนตรีการปฏิวัติเวียดนาม
\
นักดนตรีถ่วนเอี๊ยนกับลูกสาวแทงลาม
ซึ่งเป็นนักร้องระดับดีวาของเวียดนาม
ท่านถ่วนเอี๊ยนมีชื่อจริงว่า ด่วานหิวกง ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคมค.ศ.๑๙๓๕ ณ ซุยเซวียน จังหวัดกว่างนามภาคกลางประเทศ ปีค.ศ.๑๙๔๙ ท่านเข้าร่วมสงครามต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานในคณะศิลปะแห่งกรรมการบริหารพรรคเขตปกครอง ๔ ต่อจากนั้นท่านได้เรียนเกี่ยวกับการประพันธ์ดนตรี ณ โรงเรียนดนตรีเวียดนามซึ่งปัจจุบันคือสถาบันดนตรีแห่งชาติเวียดนาม นับตั้งแต่นั้นมาท่านได้แต่งเพลงปลุกใจเยาวชนให้ออกสู่แนวรบเช่นเพลง “ มัดเป้หลังให้สนิท ”และเพลง “ ใบไม้เขียวอำพรางศัตรู ” นักประพันธ์ดนตรีถ่วนเอี๊ยนพร้อมกีต้าร์ได้ตามทหารไปยังสมรภูมิต่างๆ โดยเฉพาะสนามรบที่ดุเดือดที่สุดบิ่นห์จิ่เทียน เนื่องจากเป็นทหารที่มีหน้าที่แต่งเพลง นักประพันธ์ดนตรีถ่วนเอี๊ยนได้แต่งบทเพลงเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์จากใจของผู้เป็นทหารหาญและเป็นลูกผู้ชาย ดังนั้นเพลงของท่านสามารถถ่ายทอดใจรักลุงโฮที่จริงจังอย่างบอกไม่ถูก ท่านถูกถือว่าเป็นนักประพันธ์บทเพลงเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์มากเป็นอันดับหนึ่งรวม ๒๖ เพลง ซึ่งในนั้นมี๒บทเพลงได้รับรางวัลจากรัฐปี ๒๐๐๑ นั่นคือเพลง “ ความรักอันกว้างใหญ่ของลุงโฮ ” และเพลง “ ภาคกลางคิดถึงลุงโฮ ” นักประพันธ์ดนตรีโด่ห่งกวน นายกสมาคมนักดนตรีเวียดนามกล่าวเกี่ยวกับสไตล์ดนตรีของท่านถ่วนเอี๊ยนว่า “ ท่านเป็นคนภาคกลางโดยกำเนิด ดังนั้นเพลงของท่านล้วนแต่งในแนวที่มีการผสมกับทำนองพื้นเมืองวี้และทำนองบ่ายจ่อย ท่านเป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเวียดนาม ท่านได้รับความเคารพนับถือจากผู้ที่มีอายุมากกว่า ผู้ที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน เพื่อนร่วมอาชีพและคนรุ่นใหม่เนื่องจากได้ทำงานด้านศิลปะอย่างมืออาชีพและเป็นทหาร ”
ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนผลิตรายการเพลงข่าวสารและเอนเตอร์เทนท์ช่องวีโอวี ๓ของสถานีวิทยุเวียดนาม นักดนตรีถ่วนเอี๊ยนได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนสถานที่หลายแห่งของประเทศและได้สัมผัสกับชีวิตจริงและการเคลื่อนไหวต่างๆจึงสามารถสร้างผลงานที่ไพเราะๆเช่น เพลง “ความคนึงหาน้องที่อยู่แม่น้ำห่งตอนล่าง ” เพลง “ ความคนึงหาภาคกลาง ” และเพลง“ รักเงียบ ” นักประพันธ์ดนตรีก๊าตเหวิ่นที่ทำงานกับท่านถ่วนเอี๊ยนมาหลายปีเปิดเผยว่า แม้ได้อยู่ในจุดสูงสุดแห่งนักประพันธ์ดนตรี ในฐานะผู้บริหารหน่วยงานและงานประพันธ์ก็ตาม แต่ท่านถ่วนเอี๊ยนยังคงจัดเวลาให้แก่นักประพันธ์รุ่นใหม่ โดยผลงานแต่ละชิ้นเมื่อถึงมือท่าน ท่านจะดูเป็นอย่างดีแล้วแสดงความคิดเห็น แก้ไขและเผยแพร่ผลงานสู่ผู้ฟัง นักดนตรีก๊าตเหวิ่นกล่าว “ ท่านถ่วนเอี๊ยนรักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจและมีความสามารถเฉพาะในด้านนี้ ท่านเป็นนักประพันธ์ดนตรีปฏิวัติตัวอย่างของเวียดนาม ท่านเป็นคนที่เปิดอกเปิดใจและถือจิตใจแห่งมนุษย์เป็นหลัก และเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี เพื่อนร่วมอาชีพและบรรดาผู้ที่ได้พบปะกับท่านต่างรักและเคารพท่าน ท่านเป็นคนที่เปี่ยมความเมตตา ความให้อภัยและใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ”
นักดนตรีถ่วนเอี๊ยนกับภรรยา
นอกจากความสำเร็จในดนตรีแนวปฏิวัติหรือดนตรีเพื่อชีวิตแล้ว ท่านถ่วนเอี๊ยนยังแต่งดนตรีโซนาตเช่น ผลงาน “ ความสมัครใจ ” หรือเพลงซีมโฟนี “ ลำใส้ส่วนภาคกลาง ” และท่านยังแต่งเพลงสมัยใหม่ โดยช่วงปีคริสตศักราช ๑๙๘๐และ๑๙๙๐ เมื่อกระแสดนตรีสมัยใหม่เข้าสู่ประเทศ ท่านได้แต่งเพลงแนวใหม่ซึ่งโดดเด่นคือเพลง “ ลาจากกันยามสายัญ ” และเพลง “ รักเงียบ ” ที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มหนุ่มสาวและผู้สูงอายุมาตราบเท่าทุกวันนี้ เพลงเหล่านี้ทำให้เราพบเห็นนักประพันธ์ดนตรีถ่วนเอี๊ยนคนใหม่ที่ไฟแรงและมีการมองอย่างสดใส คุณจ่องเติ้นนักร้องชื้อดังของเวียดนามเห็นว่า “ ท่านถ่วนเอี๊ยนเป็นนักประพันธ์ดนตรีที่มากความสามารถ ท่านสามารถแต่งเพลงในแนวต่างๆได้หลายแนวไม่ว่าเป็นเพลงดัดแปลงเพลงพื้นเมือง เพลงป็อปเช่นเพลง ความปรารถนา ท่านแต่งเพลงเยอะพอสมควรซึ่งแม้อายุจะมากแล้วแต่ท่านยังแต่งเพลงได้ไพเราะ ท่านทุ่มเทตลอดชีวิตต่อภารกิจการประพันธ์ ท่านเป็นนักประพันธ์ดนตรีรุ่นเดอะที่พวกเราต้องเรียนรู้ ”
แม้นักประพันธ์ดนตรีถ่วนเอ๊ยนได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ผลงานของท่านยังสถิตอยู่ในใจของชาวเวียดนามที่รักดนตรีและกลายเป็นผลงานอมตะ และท่านได้ทิ้งผลงานดนตรีมากมายที่หาค่ามิได้ไว้ให้แก่พวกเรา ./.