ประสิทธิภาพของความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับสหรัฐในสงครามซีเรีย

Anh huyen- VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD)-หลังจากที่สหรัฐยิงเครื่องบินรบของกองทัพรัฐบาลซีเรียตกไม่กี่วัน  เมื่อวันที่20มิถุนายน  พันธมิตรนานาชาติต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสที่สหรัฐเป็นผู้นำก็ยิงเครื่องบินไร้คนขับของกองกำลังที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรียตกอีกครั้ง  ซึ่งได้ทำให้สถานการณ์ในซีเรียมีความผันผวนอย่างซับซ้อน
ประสิทธิภาพของความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับสหรัฐในสงครามซีเรีย - ảnh 1เครื่องบินรบของสหรัฐ  (Photo: Internet)

เครื่องบินรบของซีเรียถูกยิงตกเนื่องจากโจมตีใส่เป้าหมายของกองกำลังฝ่ายต่อต้านในซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ  นี่เป็นเนื้อหาที่สหรัฐชี้แจงเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว ส่วนซีเรียได้ประกาศว่า เครื่องบินของตนกำลังทำการโจมตีใส่กลุ่มไอเอส  ซึ่งการถกเถียงกันเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวจะไม่สามารถหาข้อยุติได้เพราะการปะทะที่เกิดขึ้นนั้นล้วนแต่ได้รับอิทธิพลจากฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สหรัฐและรัสเซีย เมื่อทั้งสองประเทศมหาอำนาจนี้ต่างก็ได้มีการประกาศที่แข็งกร้าว

ความตึงเครียดที่นับวันรุนแรงมากขึ้น

  ซีเรียได้ประกาศว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐเป็นการรุกราน  พร้อมทั้ง กล่าวหาสหรัฐว่า กำลังร่วมมือกับกลุ่มกบฎที่ต่อต้านรัฐบาลซีเรีย  ในขณะเดียกัน รัสเซียได้กล่าวหาพันธมิตรนานาชาติที่สหรัฐเป็นผู้นำว่า จับมือกับกลุ่มก่อการร้าย   โดยรัสเซียได้ประกาศที่จะระงับความร่วมมือกับสหรัฐในกรอบของบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการป้องกันการเผชิญหน้าในเขตน่านฟ้าของซีเรียที่ได้รับการลงนามระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ  พร้อมทั้ง เผยว่า กองทัพอากาศของรัสเซียสอดส่องเครื่องบินและอุปกรณ์การบินไร้คนขับทุกลำของพันธมิตรระหว่างประเทศที่สหรัฐเป็นผู้นำที่ปรากฎในน่านฟ้าของซีเรีย  ควบคู่กันนั้น รัสเซียได้เสริมกำลังทหารเรือ เรือดำน้ำพร้อมขีปนาวุธเพื่อเตรียมพร้อมทำการโจมตีทุกเป้าหมาย  จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับคำเตือนดังกล่าว  เพนตากอนได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติภารกิจของเครื่องบินรบเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมายถูกโจมตีระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย  พร้อมทั้ง ยืนยันว่า เครื่องบินรบของสหรัฐจะไม่ยุติการช่วยเหลือกองกำลังฝ่ายต่อต้านในซีเรียในการต่อต้านการก่อการร้าย

จากการประกาศที่แข็งกร้าวของฝ่ายต่างๆ เมื่อวันที่20มิถุนายน นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้แสดงความหวังว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับรัสเซียในเขตน่านฟ้าของซีเรียจะไม่ทำให้การปะทะในซีเรียรุนแรงมากขึ้น    ในการกล่าวปราศรัยต่อสื่อมวลชน นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรสได้ย้ำว่า ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องมีความรับผิดชอบในการหลีกเลี่ยงการกระทำดังกล่าว

ประสิทธิภาพของความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับสหรัฐในสงครามซีเรีย - ảnh 2ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซีย(Photo: Sputnik )

สาส์นที่ชัดเจน

  นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง  นี่เป็นครั้งที่4ที่สหรัฐปฏิบัติมาตรการทางทหาร ซึ่งก็หมายความว่า สหรัฐไม่เคยยุติเป้าหมายของตนคือ ไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดและการยิงเครื่องบินของกองทัพรัฐบาลซีเรียก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า สหรัฐยังยืนหยัดปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว  ส่วนรัสเซียได้แสดงการสนับสนุนระบอบของนาย บาชาร์ อัล-อัสซาดและด้วยยุทธนาการโจมตีทางอากาศที่ยืดเยื้อนับตั้งแต่ปลายปี2015  ทำให้รัสเซียมีบทบาทในกระบวนการหยุดยิงเพื่อนำสันติภาพมาสู่ประเทศซีเรีย

รัสเซียและสหรัฐได้ร่วมมือกันหลายครั้งเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขการปะทะในซีเรีย  สิ่งที่น่าสนใจคือ การติดตั้งโทรศัพท์สายด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่ไม่จำเป็นในเขตน่านฟ้าของซีเรีย  แต่ประชามติยังคงมีความสงสัยต่อประสิทธิภาพของมาตรการดังกล่าว  ก่อนหน้านั้น เมื่อต้นปี2017  สหรัฐได้ยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์ก59ลูกใส่ฐานทัพซีเรีย  โดยให้เหตุผลว่า  ซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่ต่อต้านประชาชนผู้บริสุทธิ์แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางทหารเห็นว่า แม้จะมีขีปนาวุธถูกยิงจากเรือรบใส่เป้าหมายต่างๆ ซึ่งบินผ่านเขตรัศมีทำการระบบขีปนาวุธของรัสเซียแต่กลับไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า รัสเซียมีข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีของสหรัฐและในครั้งนี้ เครื่องบินของซีเรียยังถูกยิงตกในขณะที่ทั้งสองฝ่ายยังคงเปิดใช้โทรศัพท์สายด่วน   ซึ่งสร้างความสงสัยต่อประสิทธิภาพของความร่วมมือระหว่างสองประเทศในเขตน่านฟ้าของซีเรีย

แม้จะมีประกาศที่แข็งกร้าวแต่แน่นอนว่า ฝ่ายต่างๆจะหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียดในสภาวการณ์ที่การเจรจารอบใหม่เกี่ยวกับสันติภาพของซีเรียจะมีขึ้นในวันที่10กรกฎาคมนี้ ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ภายหลังการเจรจาต่างๆ  สิ่งที่ประชามติกำลังรอคอยคือ วิธีการเข้าถึงใหม่ของรัสเซียและสหรัฐ   โดยต้องเจรจากับรัฐบาลซีเรียและไม่ยึดติดกับจุดยืนช่วยเหลือรัฐบาลที่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญและประเทศที่มีอธิปไตย  ซึ่งถ้าไม่สามารถปฏิบัติได้เรื่องนี้ เส้นทางสร้างสรรค์สันติภาพให้แก่ซีเรียก็จะยังคงอยู่ไกลเกินเอื้อม.

Komentar