(VOVworld) - หอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามหรือวีซีซีไอได้ประกาศรายงานดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันหรือพีซีไอระดับจังหวัดประจำปี 2015 ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความพยายามของทางการท้องถิ่นในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยรายงานพีซีไอประจำปี 2015 ระบุว่า ท้องถิ่นบางแห่งได้ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับแรกๆในตารางดัชนี
พิธีประกาศรายงานดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันหรือพีซีไอระดับจังหวัดประจำปี 2015 (Photo: lyluanchinhtri.vn)
|
ในตารางดัชนีพีซีไอประจำปี 2015 นับเป็นครั้งแรกที่จังหวัดหวิงฟุกติด 1 ใน 5 จังหวัดที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันและการดึงดูดเงินลงทุนมากที่สุด เมื่อหวนมองดูอดีต อาจกล่าวได้ว่า จังหวัดหวิงฟุกได้มีความพยายามอย่างก้าวกระโดด โดยเมื่อปี 2012 จังหวัดหวิงฟุกอยู่อันดับที่ 10ในตารางดัชนี และถูกปรับลดอันดับลงมาอยู่อันดับที่ 43 ในปี 2013 แต่จากความตั้งใจของทางการจังหวัดที่พยายามสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการ ก็ช่วยให้จังหวัดสามารถเลื่อนขึ้น 17 อันดับมาอยู่อันดับที่ 26 ในปี 2014 และอยู่อันดับที่ 4 ในปี 2015 นายเดื่องจ่องคาง อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการจังหวัดหวิงฟุกได้เผยว่า“เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่นับวันยิ่งดีขึ้น ในทุกๆ 3 เดือน ผู้บริหารจังหวัดหวิงฟุกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการ 90 คนเกี่ยวกับอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ เช่น การดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ นโยบายที่ดิน ระเบียบราชการและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งทางการจังหวัดได้รับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการอยู่เสมอเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆให้แก่ผู้ประกอบการ”
จังหวัดท้ายเงวียนก็เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้เลื่อนจากอันดับที่ 57 ในปี 2011 ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 จากทั้งหมด 63 จังหวัด นาย หยืวันเติม รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดท้ายเงวียนได้เผยว่า ผ่านดัชนีพีซีไอ ทางการท้องถิ่นสามารถรับรู้ถึงข้อบกพร่องต่างๆและมีมาตรการปรับปรุงเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ซึ่งการเลื่อนอันดับดัชนีพีซีไอจะช่วยดึงดูดการลงทุนมากขึ้น อย่างเช่นหลังจากที่เลื่อนมาอยู่ที่อันดับที่ 8 ในตารางดัชนีพีซีไอประจำปี 2014 เศรษฐกิจของจังหวัดในปี 2015 ได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 25 ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงขณะนี้ นอกจากเครือบริษัทซัมซุงแล้ว จังหวัดท้ายเงวียนยังมีโครงการจดทะเบียนใหม่กว่า 80 โครงการ รวมยอดเงินลงทุนจดทะเบียน 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นาย หยืวันเติมได้กล่าวว่า“ปัจจุบัน เครือบริษัทซัมซุงได้ลงทุน 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในจังหวัดท้ายเงวียน ซึ่ง สามารถเบิกจ่ายได้แล้วกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างงานทำให้แก่แรงงาน 7 หมื่นคน ทั้งนี้ช่วยให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน จังหวัดท้ายเงวียนกำลังปฏิบัติรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิสอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการประชุมเพื่อประเมินผลการปฏิบัติและถอดประสบการณ์ในทุกๆปี ซึ่งทัศนะของทางการจังหวัดคือ ปรับปรุงระเบียบราชการให้กระทัดรัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการอย่างเต็มที่”
นอกเหนือจากการจัดอันดับคุณภาพของการบริหารของท้องถิ่นต่างๆแล้ว รายงานดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับจังหวัดประจำปี 2015 ยังระบุถึงภาพรวมเกี่ยวกับบรรยากาศการประกอบธุรกิจในเวียดนาม โดยการปรับปรุงระเบียบราชการเพื่อลดเวลาการทำระเบียบการจดทะเบียนและการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจถือเป็นจุดเด่นของเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม สถานประกอบการที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือ เอฟดีไอได้แสดงความเห็นว่า บรรยากาศการประกอบธุรกิจในเวียดนามมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ยังคงมีปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาค่าธรรมเนียมหลายประเภทและคุณภาพการให้บริการทางราชการ เป็นต้น
เวียดนามกำลังผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างกว้างลึก โดยได้ให้ภาคียานุวัติในข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ ดังนั้น จังหวัดและนครต่างๆจึงต้องทำการปฏิรูปในด้านต่างๆอย่างรวดเร็ว ยกระดับประสิทธิภาพของการบริหาร ปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจเพื่อเอื้อให้แก่ผู้ประกอบการเพราะนี่เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่น.