โรงเรียนอาชีวศึกษาบิ่งมิงห์ฝึกสอบใบขับขี่ (mt.gov.vn)

ที่ตำบลหวิงลิงห์ อำเภอกว๋างนิงห์ จังหวัดกว๋างบิ่งห์ มีโครงการหนึ่งที่ได้รับการลงทุนอย่างเป็นมืออาชีพ นั่นคือโรงเรียนอาชีวศึกษาบิ่งมิงห์ ซึ่งประกอบด้วยศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ ปั๊มน้ำมันเฉพาะในโรงเรียน อู่ซ่อมรถ การฝึกสอนอาชีพ การฝึกสอบใบขับขี่ ซึ่งมีเงินทุนจดทะเบียนนับแสนล้านด่งและสร้างงานทำให้แก่แรงงานท้องถิ่นเกือบ 200 คน

การเปิดโรงเรียนบิ่งมิงห์ได้ช่วยให้ตำบลหวิงลิงห์และเส้นทางโฮจิมินห์คึกคักมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ประชาชนในท้องถิ่นมีโอกาสสร้างฐานะมากขึ้นในชีวิตประจำวัน นาง เลถิเฮือง ประธานคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนกล่าวว่า            "ดิฉันเคยศึกษาและทำงานในประเทศเยอรมนี แล้วก็เห็นว่า ถึงแม้เป็นประเทศพัฒนาแต่ชาวเยอรมนีไม่เน้นเรื่องที่ลูกหลานต้องเรียนจบปริญญา โดยรัฐบาลกำหนดให้นักเรียนสามารถเลือกสาขาอาชีพที่อยากเรียนต่อได้โดยไม่ต้องสอบเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งทำให้จำนวนคนว่างงานน้อยมาก แต่เมื่อกลับประเทศเวียดนาม ฉันเห็นว่า มีคนจบปริญญาต่างๆมากมายแต่ก็ไม่สามารถหางานทำได้ ในขณะเดียวกัน เวียดนามก็ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ดังนั้น ฉันได้พยายามเปิดโรงเรียนแห่งนี้เพื่อสร้างงานทำให้แก่ลูกหลานของชาวบ้าน"

นี่เป็นการเริ่มต้นและเป็นความคาดหวังของผู้ก่อสร้างโรงเรียนบิ่งมิงห์ว่าจะสร้างสายลมใหม่ในด้านการฝึกสอนอาชีพและให้บริการจดทะเบียนรถยนต์ในจังหวัดกว๋างบิ่งห์ โรงเรียนบิ่งมิงห์เป็นหนึ่งใน 11 สถาบันการศึกษาที่ได้รับใบอนุญาตฝึกอบรมและสอบใบขับขี่รถยนต์ในจังหวัดกว๋างบิ่งห์และเป็นโรงเรียนภาคเอกชนแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจในด้านนี้ ซึ่งหมายความว่า นี่คือโรงเรียนแห่งแรกที่มีการเข้าร่วมของภาคเอกชนในจังหวัดกว๋างบิ่งและในช่วงแรกที่เริ่มปฏิบัติงาน นางเลถิเฮืองก็ประสบอุปสรรคนานัปการ การใช้เงินทุนนับแสนล้านด่งเพื่อก่อสร้างโรงเรียนสอนอาชีพแบบนี้ถือเป็นก้าวเดินที่กล้าหาญ โดยมีไม่กี่คนที่สามารถเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะประสบความสำเร็จ แต่ด้วยความตั้งใจเป็นอย่างสูง นาง เลถิเฮืองได้พยายามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อปฏิบัติความฝันให้ได้ "เรื่องที่ยากที่สุดคือดิฉันไม่ใช่คนทำงานในด้านการสอนอาชีพและไม่มีประสบการณ์ในการให้บริการจดทะเบียนรถยนต์ แต่ฉันตั้งใจทำและค่อยๆสั่งสมประสบการณ์จึงประสบความสำเร็จในเบื้องต้น อุปสรรคที่สองคือเงินทุน เราไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคารต่างๆในจังหวัดฯเพราะทางธนาคารกลัวว่า สตรีที่มีอายุกว่า 50 ปียากที่จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพได้ ส่วนโรงเรียนสอนอาชีพอื่นๆในท้องถิ่นก็กำลังประสบความยากลำบากแต่ดิฉันยังคงพยายามก่อสร้างโรงเรียนบิ่งมิงห์ให้ได้"

นาง เลถิเฮือง ประธานคณะกรรมการบริหารของโรงเรียนฯ  ( trungcapnghebinhminh.com.vn)

จากความไว้วางใจและความปรารถนาที่จะทำงานในบรรยากาศใหม่ นาง เลถิเฮือง ได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อยกระดับคุณภาพ สร้างชื่อเสียงและความเป็นไปได้ให้แก่โครงการ ถึงแม้โรงเรียนจะเปิดให้บริการช้ากว่าโรงเรียนอื่นๆ แต่โรงเรียนบิ่งมิงห์ก็มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยที่สุด โดยเฉพาะในลานทดสอบการขับรถยนต์มีระบบให้คะแนนอัตโนมัติ ซึ่งค้ำประกันความโปร่งใสและแม่นยำตามมาตรฐานของกระทรวงคมนาคมและการขนส่ง

นอกจากผลักดันการประกอบธุรกิจ ในหลายปีที่ผ่านมา ทางโรงเรียนฯยังเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมด้วยการบริจาคเงินนับร้อยล้านด่งให้แก่กองทุนต่างๆของจังหวัดฯ เช่น กองทุนเพื่อคนจน กองทุนเพื่อเด็กๆ เป็นต้น นาย เจิ่นหว่างยาง นายกสมาคมสถานประกอบการจังหวัดกว๋างบิ่งห์แสดงความคิดเห็นว่า "ในหลายปีมานี้ ขบวนการธุรกิจสตาร์ทอัพพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แค่สำหรับผู้ที่กล้าคิดกล้าทำ สำหรับโครงการสตาร์ทอัพของนาง เลถิเฮือง ผมเห็นว่า โครงการนี้มีประโยชน์มาก ซึ่งแสดงให้เห็นความสามารถของสตรีผู้หนึ่ง เธอกล้าลงทุน กล้าทำงานที่ยุ่งยากเพื่อทำธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยเฉพาะเธอมีอายุกว่า 50 ปีแล้ว เชื่อว่า ด้วยความตั้งใจและความกล้าคิดกล้าทำ เธอจะประสบความสำเร็จ"

โรงเรียนอาชีวศึกษาบิ่งมิงห์ได้มีส่วนร่วมผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่นและเรื่องที่มีความหมายมากกว่าคือ ช่วยผลักดันการเข้าร่วมของสังคมในการสอนอาชีพ ความคิดใหม่ การลงทุนใหม่และความกล้าคิดกล้าทำถือเป็นการยืนยันถึงความสามารถของนักธุรกิจหญิง เลถิเฮือง./.