 เมนูเฝอหรือก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเฝอLigovในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กร้าน |
ตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อต้นปีนี้ ร้านเฝอ Ligov ได้กลายเป็นที่รู้จักดีของชาวเวียดนามในประเทศรัสเซียและชาวในท้องถิ่น เมื่อมาที่นี่ ลูกค้าสามารถลองทานอาหารพื้นเมืองต่างๆของเวียดนาม เช่น เฝอหรือก๋วยเตี๋ยว ปอเปี๊ยะสด ปอเปี๊ยะทอด บุ๋นจ๋าหรือขนมจีนกับหมูย่าง เป็นต้น
นาย ฝ่ามแหมงเกื่อง ซึ่งมีประสบการณ์ด้านธุรกิจร้านอาหารเป็นเวลา 16 ปี และก็เป็นผู้บริหารร้านเฝอ Ligov ได้เผยว่า สิ่งที่ตัวเขาชื่นชอบที่สุดคือธุรกิจนี้ช่วยให้เขามีโอกาสประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมอาหารการกินของเวียดนามให้แก่ประชาชนรัสเซียอย่างทั่วถึง“ร้านเฝอ Ligov เปิดให้บริการมาแล้ว 6 เดือน ในช่วงแรกๆ ก็ประสบอุปสรรค์ต่างๆ แต่หลังจากที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2018 ทำให้ยอดขายของร้านดีขึ้น โดยลูกค้าจากประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ไทยและสิงคโปร์ได้มาอุดหนุนที่ร้านเป็นจำนวนมาก ส่วนเจ้าของร้านเป็นคนที่รักประเทศเวียดนามโดยแท้และมีความมุ่งมั่นที่จะแนะนำอาหารและวัฒนธรรมเวียดนามในต่างประเทศ”
เวลา 08.30น. ลูกค้ากลุ่มแรก ซึ่งเป็นแฟนบอลชาวเวียดนามที่เดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลก ณ รัสเซียได้มาอุดหนุนที่ร้าน โดยการนั่งรถไฟมาเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมงทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อยมาก แต่เมื่อได้กินเฝอบ่อหรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาวในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พวกเขาก็รู้สึกสดชื่นมากขึ้น นาย เหงวียนเท้เยือง สมาชิกของกลุ่มคนหนึ่งได้เผยว่า“ผมเคยไปหลายประเทศ แต่ยังไม่เจอเฝอที่ไหนที่มีรสชาติเหมือนในเวียดนามเพราะส่วนใหญ่ถูกปรับเปลี่ยนให้ถูกปากลูกค้าของประเทศนั้นๆ แต่เฝอที่นี่อร่อยมากและมีรสชาติเหมือนในเวียดนาม ซึ่งทุกคนต่างกินหมดเกลี้ยง”
นอกเหนือจากร้านเฝอ Ligov ร้านโบ๋ของนาย เจิ่นแหมงหุ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนิเวณริมฝั่งแม่น้ำมอสโคว์ก็ถือว่ามีทำเลที่ดี โดยลูกค้าที่มาอุดหนุนที่ร้านแห่งนี้ไม่เพียงแต่ได้กินอาหารเวียดนามเท่านั้น หากยังได้วิวแสนโรแมนติกของแม่น้ำมอสโคว์ เรือสำราญที่ล่องไปตามแม่น้ำ รวมทั้งอาคารของกระทรวงกลาโหมรัสเซียและโบสถ์อีกด้วย นาย Aleksander ชาวรัสเซียคนหนึ่งได้เผยว่า“ผมเคยไปเที่ยวนครโฮจิมินห์ มุ้ยแน้และกรุงฮานอยของเวียดนาม แต่นี่คือครั้งแรกที่ผมมาอุดหนุนร้านนี้ ผมได้สั่งกินเฝอบ่อหรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและสมูทตี้มะม่วงเพราะมะม่วงของเวียดนามอร่อยมาก ผมก็ชอบร้านแห่งนี้เพราะตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมอสโคว์และสวยมาก”
นาย เจิ่นแหม่งหุ่ง เจ้าของร้านโบ๋ได้เผยว่า ในหลายปีมานี้ นักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามเพิ่มมากขึ้น โดยพวกเขาได้ลิ้มลองและชื่นชอบอาหารเวียดนามเป็นอย่างมาก เมื่อมาอุดหนุนที่ร้าน พวกเขาก็ได้กินอาหารที่มีรสชาติเหมือนที่เวียดนาม นอกจากนี้ เครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ช่วยให้ร้านของเขาเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเพื่อสามารถทำอาหารที่มีรสชาติเหมือนในเวียดนาม ต้องให้ความสำคัญต่อการเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุง“ต้องนำเข้าวัถุดิบหลายอย่างจากเวียดนาม โดยเฉพาะพืชผักสมุนไพร รวมถึงต้องใช้ขนมจีนสดของร้านนายนาม ที่ผลิตที่นี่และเลือกกระดูกวัวชั้นดี ร้านมีพนักงาน 100 คน โดยเชฟและพนักงานส่วนใหญ่เป็นคนเวียดนามและมีแม่บ้านทำความสะอาด 15คนที่มาจากเอเชียกลาง”
เครื่องดื่มของร้านมีสมูทตี้มะม่วงและเบียร์ไซ่ง่อนเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงอาหารริมทางของเวียดนามได้อย่างสมบูรณ์ นาย เจิ่นแหม่งหุ่ง ได้เผยต่อไปว่า มีคนมาอุดหนุนที่ร้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนในโอกาสการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กำลังมีขึ้น ณ ประเทศรัสเซีย ร้านของนาย หุ่งขายได้เฝอ 800 ชาม บุ๋นจ๋า 400 ชามและปอเปี๊ยะทอด 800 ชิ้นต่อวัน ซึ่งยอดขายบางวันสูงถึง 1 ล้านรูเบิ้ล หรือ คิดเป็นประมาณ 1 หมื่น 6 พันดอลลาร์สหรัฐ
นาย หุ่ง มีความประสงค์ที่จะทำเมนูอื่นๆเพิ่มอีก เช่น แบ๊งหมี หรือ ขนนปังและโจ๊กไก่ แทนการขยายสาขาเพิ่ม เพื่อที่จะทุ่มเทพัฒนาร้านอาหารสามแห่งในกรุงมอสโคว์เพื่อค้ำประกันคุณภาพและรักษาเครื่องหมายการค้าอาหารเวียดนาม.