ท่านโด๋เหมื่อยเคยรับหน้าที่ตำแหน่งต่างๆและทำงานในหลายท้องถิ่น ได้ผ่านการทดสอบในสถานการณ์ต่างๆของกระบวนการต่อสู้กู้ชาติ เคยถูกศัตรูจับกุมคุมขังเนื่องจากได้เข้าร่วมกระบวนการปฏิวัติ ได้เข้าร่วมภารกิจการสร้างสรรค์ทางการปกครองและเป็นผู้นำการปฏิวัติในหลายท้องถิ่นทั่วประเทศและแม้จะอยู่ในตำแหน่งใดท่านก็ปฏิบัติอย่างลุล่วงไปด้วยดี
อดีตเลขาธิการใหญ่พรรคได้เป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีถึง19ปีโดยเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการก่อสร้าง รัฐมนตรีกระทรวงการค้า หัวหน้าคณะกรรมการกำหนดราคาแห่งรัฐ เป็นประธานสภารัฐมนตรี3ปี เป็นสมาชิกกรมการเมือง5สมัย สมาชิกคณะเลขาธิการ เลขาธิการใหญ่พรรคและที่ปรึกษาคณะกรรมการกลางพรรค ด้วยความสามารถในการบริหารชี้นำท่านโด๋เหมื่อยได้สร้างนิมิตหมายที่สำคัญต่างๆในกิจการแห่งการพัฒนาอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในช่วงที่ประเทศกำลังประสบความยากลำบากเช่น โรงงานไฟฟ้าพลังความร้อน อวงบี๊ ฝาหลาย โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำหว่าบิ่งห์รวมถึงการก่อสร้างสุสานประธานโฮจิมินห์ ประชาชนเวียดนามรำลึกถึงท่านในฐานะเป็นผู้นำที่เดินหน้าในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความกระตือรือร้น ซื่อตรงและอยู่ใกล้ชิดกับประชาชน เป็นผู้นำที่พูดแล้วต้องทำจริง นาย ฝามหิวหว่า อาศัยที่เขตฮายบ่าจึงเผยว่า
“ผมประทับใจ3อย่างในตัวท่านโด๋เหมื่อย หนึ่งคือท่านใช้ชีวิตอย่างสมาถะเรียบง่าย สองคือท่านเป็นคนที่ตระหนักดีถึงการส่งเสริมให้ผู้ที่มีความสามารถมารับใช้ประเทศและประชาชนและสามารถนำพาประเทศพ้นจากภาวะที่ลำบากที่สุดได้ลุล่วงและสามคือเป็นคนกล้าคิดกล้าทำและยืนหยัดมั่นคงในสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่อชาติแม้จะมีความเห็นต่าง ท่านเป็นคนที่น่ายกย่องสดุดี”
เกี่ยวกับส่วนร่วมของท่านโด๋เหมื่อยในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ช่วงปี1980 ประชามติระหว่างประเทศก็ได้รับทราบและยกย่องว่า ท่านโด๋เหมื่อยได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคในช่วงที่สถานการณ์โลกและเวียดนามกำลังประสบกับอุปสรรคทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ แต่ด้วยการเป็นผู้นำที่มีความสามารถ ท่านได้นำพาประเทศชาติฝ่าฟันช่วงที่ลำบากที่สุด สร้างนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญและมีความหมายชี้ขาดให้แก่เวียดนามและสร้างก้าวกระโดดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในนโยบายการต่างประเทศเช่น การเข้าเป็นสมาชิกอาเซียน การลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนและร่วมมือในทุกด้านกับสหภาพยุโรป การปรับความสัมพันธ์เป็นปกติกับสหรัฐ เป็นต้น ซึ่งอดีตเลขาธิการใหญ่พรรคโด๋เหมื่อยได้มีส่วนร่วมสำคัญในการเปิดศักราชใหม่ให้แก่การทูตเวียดนามและช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของเวียดนามให้สูงเด่นยิ่งขึ้นบนเวทีโลก.