(VOVworld) – มีสโมสรแห่งหนึ่งที่สมาชิกลดน้อยลงทุกปี แต่ทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่านั่นคือสโมสรของบรรดาภรรยาทหารที่สละชีพเพื่อชาติที่ตำบลเกิ๋มหวู อำเภอเกิ๋มอย่าง จังหวัดหายเยือง รวมสมาชิก๑๙คนโดยพวกเขาต้องทนกล้ำกลืนความทุกข์ของการคิดถึงสามีที่ได้สละชีพเพื่อชาติ อีกทั้งยังต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่เพื่ออบรมบ่มสอนให้ลูกๆเติบโตเป็นคนดีและทำประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมือง
|
สมาชิกสโมสรของภรรยาทหารที่สละชีพเพื่อชาติตำบลเกิ๋มหวูเยี่ยมเยือนกัน |
ทุกปี เมื่อถึงวันที่๒๗กรกฎาคมซึ่งเป็นวันทหารทุพพลภาพและสละชีพเพื่อชาติ บรรดาสมาชิกสโมสรจะพบปะพูดคุยกัน ถามไถ่ถึงสุขภาพร่างกาย และการศึกษาเล่าเรียนของบุตรหลาน แม้สตรีทั้ง๑๙คนจะมีฐานะต่างกันแต่ทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียสามีจากการรับใช้ชาติ พวกเขาได้ร่วมกันจัดตั้งสโมสรของภรรยาทหารที่สละชีพเพื่อชาติ ปัจจุบันสมาชิกแต่ละคนจะมีอายุมากแล้วแต่ทุกคนก็ยังช่วยเหลือกันหรือแสดงความเห็นอกเห็นใจกัน นางเหงวียนถิงิง ภรรยาของทหารสละชีพเพื่อชาติหว่างวันยาว หัวหน้าสโมสรเผยว่า เนื่องจากมีสภาพชีวิตเหมือนกันพวกเราจึงเห็นอกเห็นใจกัน พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันเพื่อสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิต“ปัจจุบันพวกเรามีหลาน มีเหลนแล้ว เมื่อก่อนนี้ พวกเราประสบอุปสรรคนานัปการแต่พวกเราเห็นอกเห็นใจกันและให้กำลังใจกันอยู่เสมอ ทุกปี เมื่อถึงวันที่๒๗กรกฎาคม พวกเราจะไปที่บ้านของทุกคนเพื่อจุดธูปไหว้สามีของสมาชิกซึ่งเป็นทหารที่สละชีพเพื่อชาติ มีคนที่สามีเสียชีวิตตอนอายุ๒๒ปีหรือมีคนที่ต้องเลี้ยงดูลูก๒คน ๕ คน เป็นต้น พวกเรามีความผูกพันกันและให้ความช่วยเหลือกันเพื่อสามมรถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต” ลูกๆของสมาชิกล้วนเติบโตกันหมดแล้ว สมาชิกทุกคนซึ่งอยู่ในวัยชรามักจะพบปะและให้กำลังใจกันกันอยู่เสมอ นางเหงวียนถิงิงซึ่งเป็นผู้ที่เสนอแนวคิดจัดตั้งสโมสรกล่าวว่า“ดิฉันเคาะทุกประตูของสตรีที่มีสามีสละชีพเพื่อชาติเพื่อเชิญชวนพวกเขาจัดตั้งสโมสร
ปัจจุบัน สโมสรมีสมาชิกเหลือเพียง๑๙คน พวกเราจัดการเดินทางไปเยี่ยมเยือนสมาชิกที่เจ็บไข้ได้ป่วย ทุกปีพวกเราจัดงานฉลองวันคล้ายวันเกิด ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก พวกเราสูญเสียสามีเหมือนกันจึงเห็นอกเห็นใจกัน” สมัยนั้น บรรดาสมาชิกสโมสรต่างอยู่ในวัยทำงาน และต่างก็มีฐานะที่ลำบาก ดังนั้น ทางสโมสรจึงเน้นช่วยเหลือด้านเงินทุน สอนวิธีการผลิตและประกอบธุรกิจซึ่งช่วยให้คุณภาพชีวิตของสมาชิกส่วนใหญ่ค่อยๆดีขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับประโยชน์จากนโยบายของพรรคและรัฐ สโมสรได้กลายเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกันในครอบครัว ให้กำลังใจบุตรหลานในการศึกษาเล่าเรียนและพัฒนาฐานะครอบครัว
นางหว่างถิมน ภรรยาของทหารสละชีพเพื่อชาติหว่างหิ้วบาได้รับข่าวว่า สามีได้สละชีพเมื่อเธอมีอายุ๒๖ปีซึ่งเธอต้องฟันฝ่าความเจ็บปวดและเลี้ยงดูลูกๆโดยไม่มีสามีเคียงข้าง ปัจจุบัน ลูกทั้งสองคนโตกันหมดแล้ว และหลานทั้ง๔คนต่างก็เป็นเด็กดี แต่เธอก็ยังคงคิดถึงสามี เธอเผยว่า“ดิฉันต้องเดินทางไปหลายแห่งแต่ก็ยังหาอัฐิสามีไม่เจอ หลุมฝังศพของสามีฉันในสุสานตำบลยังไม่มีอัฐิของสามี” ส่วนนางเหงวียนถิแทงต้องสูญเสียสามีเมื่อเธออายุ๒๒ปี เธอมีบุตรคนเดียว แม้จะมีหลายคนอยากแต่งงานกับเธอแต่เธอไม่ยอมเพราะมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงดูลูกให้เติบโต ปัจจุบัน คุณภาพชีวิตของบรรดาสมาชิกดีขึ้น กิจกรรมของสโมสรการเน้นเยี่ยมเยือนสมาชิกที่เจ็บไข้ได้ป่วย ร่วมจัดงานศพเมื่อสมาชิกเสียชีวิตและต้อนรับอัฐิของทหารสละชีพเพื่อชาติกลับท้องถิ่น ช่วยเหลือสมาชิกไร้ที่พึ่งและยากจน นางด่าวถิบ่าว อายุ๗๗ปี ที่ต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้ง๔คนและคุณแม่ตั้งแต่อายุ๒๕ปี กล่าวว่า“คุณงิงได้ชักขชวนให้พวกเราจัดตั้งสโมสร พวกเราเป็นแม่ม่ายและต้องอบรมบ่มสอนลูก เมื่อเข้าร่วมสโมสรนี้ พวกเรามีความปลื้มปิติยินดีเพราะได้ให้กำลังใจกันช่วยเหลือกันและมาเยี่ยมเยือนกันเมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย”
สงครามได้ผ่านพ้นไปแล้วแต่บรราสตรีเหล่านี้ยังคงเคารพรักสามี อบรมบ่มสอนลูกๆ ปัจจุบัน ทุกคนมีหน้าตาเหี่ยวย่น ผมสีดอกเลา แต่เมื่อพบกัน ดูเหมือนว่า พวกเขาลืมอายุของตนโดยมัก ร่วมกันร้องรำทำเพลง แม้จะต้องฟันฝ่าความเจ็บปวดทางจิตใจ และความสูญเสียแต่บรรดาภรรยาทหารสละชีพเพื่อชาติแห่งตำบลเกิ๋มหวูยังคงใช้ชีวิตและทำประโยชน์ให้สมกับความเสียสละของสามีที่พวกเธอรัก./
.