สะไภ้เวียดนามในมณฑลกวางสีอนุรักษ์ภาษาแม่

Hòa Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) - จากความประสงค์ที่จะได้ยินคนอื่นและลูกสามารถพูดภาษาเวียดนามได้ คุณเหงวียนทูเฮืองและสตรีเวียดนามหลายคนในประเทศจีนได้แสวงหาทุกวิธีการเพื่อให้ลูกสามารถเข้าถึงภาษาเวียดนาม โดยได้เปิดชั้นเรียนภาษาเวียดนามของสะไภ้เวียดนามในมณฑลกวางสี ซึ่งช่วยให้เด็กลูกครึ่งเวียดนาม-จีนจำนวนหนึ่งสามารถพูดภาษาเวียดนามได้
สะไภ้เวียดนามในมณฑลกวางสีอนุรักษ์ภาษาแม่ - ảnh 1 คุณเหงวียนทูเฮืองและลูกสาว

 อพาร์ทเม้นท์ของครอบครัวนาง เหงียนทูเฮืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหนานหนิง เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยเป็นภาษาเวียดนามอย่างสนิทสนม จนทำให้ไม่มีความรู้สึกว่า ครอบครัวนี้กำลังอาศัยในประเทศจีน  ลูกสาวของนาง เหงียนทูเฮือง อายุ 10ปีสามารถพูดคุยสื่อสารเป็นภาษาเวียดนามได้เนื่องจากเธอสอนให้ตั้งแต่ยังเล็ก “ในช่วงที่ตั้งครรภ์และหลังจากคลอดลูก ดิฉันได้ซื้อหนังสือเวียดนามมาอ่านและพูดภาษาเวียดนามให้ลูกฟัง ซึ่งลูกก็สามารถหัดพูดตามได้เร็วมากและสามารถพูดได้ทั้งภาษาเวียดนามและภาษาจีน ฉันกับลูกพูดคุยกันด้วยภษาเวียดนามทุกวันและดิฉันก็อธิบายคำศัพท์ใหม่ให้แก่ลูก”

นาง เหงวียนทูเฮืองคือหัวหน้ากลุ่มสะไภ้เวียดนามในเมืองหนานหนิง มณฑลกวางสี เมื่อปี 2006  นางเฮืองแต่งงานและไปอาศัยในประเทศจีนกับสามีที่เป็นคนจีน โดยในช่วงแรกๆ เธอมีเพื่อนไม่มากและต้องพูดคุยเป็นภาษาจีน ดังนั้นจึงมีความประสงค์ที่จะได้ยินการพูดคุยด้วยภาษาเวียดนาม เธอได้ติดต่อกับสะไภ้เวียดนามคนอื่นๆเพื่อจัดตั้งกลุ่มสะไภ้เวียดนาม  ซึ่งในตอนแรก มีสมาชิกไม่กี่คนเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40คน ซึ่งเป็นพื้นฐานให้แก่การเปิดชั้นเรียนภาษาเวียดนามในเมืองหนานหนิงเพื่อสอนภาษาเวียดนามให้แก่ลูกๆ “เรามีแผนเปิดชั้นเรียนภาษาเวียดนาม แต่หลังจากนั้น 1ปีถึงจะได้รับการปฏิบัติ เพราะข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาสะไภ้เวียดนามอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเห็นลูกสาวสามารถพูดภาษาเวียดนามได้ พวกเขาก็อยากให้ลูกได้เรียนภาษาแม่ พวกเราได้โน้มน้าวให้สะไภ้เวียดนามส่งลูกที่มีอายุตั้งแต่ 5-10 ขวบมาเรียนภาษาเวียดนามสัปดาห์ละหนึ่งครั้งในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยสะไภ้เวียดนามจะสลับกันเป็นครูสอน สำหรับลูกๆก็ทำความรู้จักกันและรักภาษาเวียดนามมากขึ้น”

ถึงแม้การเป็นพนักงานของบริษัทโทรศัพท์แห่งหนึ่งในเมืองหนานหนิงจะยุ่งมาก แต่นางเฮืองไม่เคยหยุดสอนภาษาเวียดนามให้แก่เด็กๆ โดยเธอและกลุ่มสะไภ้เวียดนามได้เปิดการเรียนการสอนภาษาเวียดนามมาเป็นเวลา 4-5 ปี นอกเหนือจากการสอนภาษาเวียดนามแล้ว สมาชิกกลุ่มยังสนับสนุนและแบ่งเบาอุปสรรคต่างๆในการดำรงชีวิต “กลุ่มสะไภ้เวียดนามรุ่นใหม่คือที่พึ่งทางใจสำหรับสะไภ้อย่างพวกเรา โดยเฉพาะสะไภ้ที่เพิ่งเดินทางมาอยู่อาศัยที่นี่ โดยสมาชิกทุกคนให้การช่วยเหลือกันตั้งแต่เรื่องอาหารการกินไปจนถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เรามักจะจัดกิจกรรมปิคนิคเพื่อให้แม่ๆและลูกๆได้พบปะสังสรรค์และพูดคุยเป็นภาษาเวียดนาม”

นางเฮืองเผยต่อไปว่า สตรีเวียดนามหลายคนในเมืองหนานหนิงมีฐานะยากจนจึงไม่สามารถส่งลูกไปเรียนภาษาเวียดนามได้ถึงแม้ชั้นเรียนนี้จะเปิดสอนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งตอนแรกนางเฮืองและสมาชิกกลุ่มสะไภ้เวียดนามได้ประสบอุปสรรคในการโน้มน้าวให้สตรีเหล่านี้ส่งลูกไปเรียน แต่หลังจากได้พบปะกับเด็กที่สามารถพูดภาษาเวียดนามหลังเข้าร่วมชั้นเรียนดังกล่าว พวกเขาก็ได้ส่งลูกมาเรียนภาษาเวียดนาม  ปัจจุบัน มีหลายครอบครัวที่ส่งลูกมาเรียน ที่ ชั้นเรียนภาษาเวียดนามของกลุ่มสะไภ้เวียดนามรุ่นใหม่ในเมืองหนานหนิง.

Feedback