(VOVworld) – ตั้งแต่ในช่วงสงคราม รัฐบาลเวียดนามได้ชี้นำให้กองทัพและหน่วยงานสาธารณสุขมีมาตรการรักษาเยียวยาผู้ที่โดนสารเคมีรวมทั้งสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน จนถึงเมื่อประเทศได้รับเอกราชและรวมเป็นปึกแผ่นปี1975 รัฐยังได้ประกาศใช้และเสริมเพิ่มเติมแนวทางนโยบายการให้สิทธิพิเศษต่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มให้มีความสมบูรณ์ต่อไปและสามารถระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในชีวิตได้อย่างมั่นคง
มีผู้เข้าร่วมโครงการเดินเท้าเพื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มหลายหมื่นคนในท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ
|
จนถึงปัจจุบัน มีผู้เคราะห์ร้ายกว่า3แสนคน ซึ่งเคยเข้าร่วมสงครามกู้ชาติและบุตรของพวกเขาที่โดนสารพิษสีส้มได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ มีผู้เคราะห์ร้ายร้อยละ30ได้ซื้อบัตรประกันสุขภาพและเด็กๆที่โดนสารพิษสีส้มร้อยละ25ได้เข้าร่วมโครงการดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพ ตามความเห็นของรองศ.ดร. หว่างแหมงอาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนารักษ์103 ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เดินหน้าเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน ในเวลาที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ปฏิบัติมาตรการล้างพิษในร่างกายแบบ Hubbard ให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายัแต่มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ที่13-15ล้านด่งหรือประมาณ600-800ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ดังนั้นเขากับทีมงานได้พยายามทำงานศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่อแสวงหาวิธีการแก้ไขแบบแพทย์แผนโบราณหรือธรรมชาติบำบัดในการล้างพิษ “การล้างพิษในร่างกายด้วยวิธีใหม่ของพวกเราครั้งละ4สัปดาห์ให้ผลที่ออกมาเท่ากับผลการล้างพิษแบบ Hubbard ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้เคราะห์ร้ายจำนวนมากเพราะมีค่าใช้จ่ายแค่1/3ของการล้างพิษแบบHubbard เราเชื่อมั่นว่าถ้าหากปฏิบัติมาตรการใหม่อย่างเคร่งครัดบรรดาผู้ที่โดนสารพิษสีส้มจะสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพและสุขภาพของตนได้ดี”
ควบคู่กับการดูแลสุขภาพและสาธารณสุขให้แก่ผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม การเลี้ยงดูเด็กที่โดนสารพิษสีส้มก็ได้รับความสนใจจากชุมชน พวกเขาได้รับการดูแลทั้งด้านวัตถุและจิตใจ ได้เรียนหนังสือ ได้รับงานทำ เพื่อสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและมีชีวิตที่มั่นคง นายเลก๊วกบ๋าว นายกสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินจ.เตี่ยนยางเผยว่า“พวกเราเน้นตรวจสอบและแบ่งกลุ่มผู้เคราะห์ร้ายเพื่อที่จะมีมาตรการดูแลที่เหมาะสม โดยมีทั้งการสนับสนุนทุนการศึกษา การหางานทำและการสนับสนุนด้านการเงินเพื่อช่วยพวกเขาพัฒนาฐานะ มีโอกาสได้เรียนอาชีพเพื่อหางานทำ ซึ่งพวกเรายังได้ประสานความร่วมมือกับสมาคมชาวเวียดนามในฝรั่งเศสและหน่วยงานต่างๆเพื่อร่วมกันแบ่งเบาความปวดร้าวของผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน”
เด็กที่โดนสารพิษสีส้ม
|
นับตั้งแต่ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี2004จนถึงปัจจุบัน สมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินเวียดนามได้มีองค์กรสาขาในทั้ง63จังหวัดและนครรวมทั้งในระดับอ.เขตแขวงโดยมีสมาชิก3แสน6หมื่นคนซึ่งเป็นทั้งผู้เคราะห์ร้าย ทหารผ่านศึกและอาสาสมัครที่ร่วมแบ่งเบาภาระความยากลำบากเพื่อพัฒนาชีวิต ในรอบ5ปีที่ผ่านมา ทางสมาคมสามารถเรี่ยไรเงินได้กว่า1ล้านล้านด่งเพื่อใช้สนับสนุนกิจกรรมสำหรับผู้เคราะห์ร้ายต่างๆเช่นการก่อสร้างศูนย์รับเลี้ยงและฟื้นฟูสมรรถภาพ ศูนย์ฝึกสอนอาชีพ บ้านเอื้ออาธรและการตรวจโรคแจกยาฟรี เป็นต้น นางเหงวียนถิเหี่ยน นายกสมาคมผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มนครดานังเผยว่า เธอรู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้นำความสุขมาให้แก่บรรดาผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้ม“ดิฉันเรียกสมาคมของตัวเองว่าสมาคมแท็กซี่เพราะเราทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด เมื่อมีงานทุกคนต้องร่วมกันทำโดยตระหนักเสมอว่า การช่วยบรรเทาความปวดร้าวทั้งทางกายและใจของบรรดาผู้เคราะห์ร้ายก็คือความสุขของเจ้าหน้าที่สมาคมทุกคน”
ความร่วมแรงร่วมใจเพื่อชีวิตที่มีความสุขของบรรดาผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มคือวิธีการที่รัฐบาลและประชาชนเวียดนามกำลังปฏิบัติเพื่อเป้าหมายช่วยแบ่งเบาภาระและความปวดร้าวจากสาพิษสีส้มไดอ๊อกซิน.