(VOVworld) – ประวัติศาสตร์วิจิตศิลป์สมัยใหม่มีความเชื่อมโยงกับการก่อตั้งและกระบวนการฝึกอบรมของมหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนาม ในตลอด 90 ปีที่ผ่านมา บรรดาจิตรกรและประติมากรเวียดนามด้านวิจิตศิลป์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ได้รับการฝึกอบรมในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จากเกียรติประวัติอันน่าภาคภูมิใจนี้และเพื่อตอบสนองความต้องการของการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกของเวียดนาม ครูอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯต่างพยายามเปลี่ยนแปลงใหม่การเรียนการสอนเพื่อผลิตบุคลากรด้านวิจิตศิลป์ที่มีคุณภาพสูงให้แก่ประเทศ
 มหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์อินโดจีน (Photo Thanhnien)
|
เมื่อปี 1925 ตามมติของผู้สำเร็จราชการอินโดจีน มหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์อินโดจีน ซึ่งปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนามได้รับการก่อตั้ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติแห่งแรกในเวียดนามและภูมิภาค จิตรกร วิกเตอร์ ตาร์เดียว ผู้ที่ริเริ่มเกี่ยวกับการ “ฝึกอบรมศิลปินที่เป็นของเวียดนามเอง” ได้กลายเป็นอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ส่วนจิตรกรนามเซิน ซึ่งถือเป็นปรมาจารย์ของวงการวิจิตศิลป์เวียดนามสมัยใหม่ที่เป็นผู้ช่วยของนาย Victor Tardieu ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้แก่การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ในช่วงที่ก่อตั้งใหม่ๆ ภาพวาด “ตลาด Gao ริมฝั่งแม่น้ำแดง” ของจิตรกรนามเซินที่จัดแสดงในนิทรรศการจิตรกรรมปารีสเมื่อปี 1930 เป็นผลงานชั้นแรกของจิตรกรเวียดนามที่รัฐฝรั่งเศสขอซื้อและนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์วิจิตศิลป์แห่งชาติฝรั่งเศส
นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน มีนักศึกษาจำนวนมากได้จบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้และได้กลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม เช่น เลโฝ ลิววันเดะ เหงียนฟานแจ้ง โตหงอกเวิน เฉิ่นวันเกิ๋น เหงียนดึ๊กหนุ่งและหว่างติ๊กจู่ เป็นต้น ปัจจุบันนี้ มหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนามได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยหลักในการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรให้แก่การอนุรักษ์และพัฒนาวิจิตศิลป์เวียดนาม รวมทั้งแนะนำและประชาสัมพันธ์วิจิตศิลป์เวียดนามต่อสายตาของเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ เมื่อปี 2015 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์โฮจิมินห์ รองศ.ดร.ครูดีเด่นเลวันสิว อธิการบดีมหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนามเผยว่า “นี่เป็นรางวัลอันสูงส่งสำหรับครูอาจารย์และนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯในตลอด 90 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญไม่ใช่ตัวเลข 90 ปีแห่งการก่อตั้งและพัฒนาหากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยฯต่อสังคมในเวลาที่ผ่านมา”
ในแต่ละระยะของประวัติศาสตร์ ทางมหาวิทยาลัยฯได้เปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ผสมผสานเข้ากับภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ของประเทศโดยมีการอัพเดทและยกระดับคุณภาพการฝึกอบรมให้สอดคล้องกับสังคม ครูดีเด่นเลวันสิวเผยต่อไปว่า “ทางมหาวิทยาลัยฯต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ อัพเดทและปรับปรุงให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ใหม่ควบคู่กับการอนุรักษ์เอกลักษณ์และชื่อเสียงของตนที่สร้างไว้ในเวลาที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าหากเราอยากคงอยู่และพัฒนายั่งยืนต่อไป”
 เมื่อปี 2015 มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์โฮจิมินห์
|
ดร.โงต๊วนฟอง รองหัวหน้าคณะมหาบัณฑิตได้เผยว่า ในแนวทางการพัฒนาการศึกษา ทางมหาวิทยาลัยได้ให้ความสนใจกับการคัดเลือกและเปิดรับโครงการฝึกอบรมที่ดีของเวียดนามและต่างชาติ เช่น ในหลายปีมานี้ ทางมหาวิทยาลัยได้ประสานงานและแลกเปลี่ยนกับมหาวิยาลัยของญี่ปุ่น เยอรมนี สวีเดนและสหรัฐเพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้ในระดับสากลและได้อัพเดทข้อมูลที่ทันสมัยและมีคุณค่ามากที่สุดเหมือนนักศึกษาชาวต่างชาติ
ส่วนคุณเหงียนถิกิมงา ผู้ที่ได้ศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2010 และปัจจุบันเป็นนักศึกษาปริญญาเอกวิชาจิตรกรรมเผยว่า เมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนาม จากบทเรียน จากการเข้าร่วมงานนิทรรศการและพบปะพูดคุยกับศิลปินทั้งใหม่และเก่าหรือชาวต่างชาติ เธอสามารถตระหนักถึงคุณค่าและชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ “เมื่อดิฉันเอ่ยถึงมหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนาม ทุกคนต่างชมเชยมาก เราภาคภูมิใจไม่เพียงแต่ในเกียรติประวัติที่ยาวนานเท่านั้น หากยังรวมถึงคุณภาพด้วย มีจิตรกรเวียดนามหลายคนที่จบจากที่นี่ได้สร้างชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและระดับโลก นักศึกษาทุกคนต่างเป็นผู้ที่อุทิศทั้งแรงกายและแรงใจให้แก่อาชีพ”
90 ปีได้ผ่านพ้นไป มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้สร้างนักศึกษารุ่นแล้วรุ่นเล่าเพื่อนำความรู้และความรักวิจิตศิลป์มารับใช้ชีวิตสังคม ชื่อเสียงของจิตรกรและปฏิมากรได้รับการยกย่องจากสังคมและผลงานดีเด่นของพวกเขาถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีในพิพิทธภัณฑ์ทั้งภายในและต่างประเทศ นั่นคือพื้นฐานทางจิตใจที่มั่นคงให้แก่มหาวิทยาลัยวิจิตศิลป์เวียดนามในการผสมผสานกับวิจิตศิลป์ระดับภูมิภาคและโลกในปัจจุบัน.