(VOVworld)-ชัยชนะของการปฏิวัติที่ในเดือนสิงหาคมปี1945ได้เปิดศักราชใหม่ให้แก่ประชาชาติเวียดนามและเมื่อหวนคิดถึงบรรยากาศอันฮึกเหิมของการปฏิวัติในวันนั้นก็ต้องเอ่ยถึงบทเพลงแห่งอมตะต่างๆที่ได้มีส่วนร่วมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กระบวนการต่อสู้ที่ยากลำบากนี้ แม้เวลาได้ผ่านไปแล้วหลายสิบปีแต่พลังชีวิตของเพลงปฏิวัติแห่งเดือนสิงหาคมก็ยังคงสถิตอยู่ในใจของแฟนเพลงเวียดนามตลอดกาล ในรายการวันอาทิตย์ที่18สิงหาคมนี้เนื่องในโอกาสรำลึก68ปีชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมขอแนะนำรายการพิเศษ “บทเพลงที่อมตะแห่งการปฏิวัติเดือนสิงหาคม”

บรรยากาศวันที่19สิงหาคมปี2013

ลีลาเพลงที่ท่านกำลังรับฟังอยู่ขณะนี้เป็นเพลงปฏิวัติชื่อว่า “19สิงหาคม”  ของนักดนตรีซวนแอวงที่แต่งขึ้นในระหว่างการร่วมขบวนของกองกำลังลุกขึ้นสู้จากเขตชาญเมืองมุ่งหน้าสู่กรุงฮานอย นับเป็นเพลงที่พิเศษเพราะบรรยากาศอันฮึกเหิมของวันนั้นได้บันดาลอารมณ์สุนทรีให้เขาแต่งบทเพลงมาร์ชนี้ขึ้น คิดได้ประโยคไหนเขาก็ร้องเสียงดังเพื่อให้คนอื่นๆร้องตามจนถึงช่วงบ่ายวันเดียวกัน บทเพลงนี้ได้พิมพ์ลงกระดาษและแจกให้ทุกๆคนเพื่อร้องพร้อมกับบทเพลงปฏิวัติอื่นๆเช่น เพลงมาร์ชแห่งการเดินทัพ ของนักประพันธ์วันกาว  เพลงปราบฟาสซิสต์ ของนักประพันธ์เหงวียนดิ่งทิ หรือเสียงเพรียกเยาวชนของนักประพันธ์ลิวหิวเฟือก เป็นต้น ศิลปินประชาชนจูงเกียน ผู้ที่แสดงเพลงแห่งการปฏิวัติที่สำเร็จที่สุดเผยว่าเมื่อพูดถึงการปฏิวัติเดือนสิงหาคมต้องพูดถึงบทเพลงเหล่านั้นเพราะถือเป็นเพลงที่สามารถปลุกเร้าใจทุกคนได้ดีที่สุดในช่วงแห่งการปฏิวัติ และจนถึงทุกวันนี้บทเพลงแห่งการปฏิวัติเดือนสิงหาของนักประพันธ์ต่างๆยังคงทรงคุณค่าโดยเฉพาะคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์นั้นสำคัญกว่าคุณค่าทางศิลปะโดยไม่มีบทเพลงไหนแทนที่ได้
ในช่วงวันเดือนแห่งการปฏิวัติขณะนั้นบทเพลง เพลงมาร์ชแห่งการเดินทัพ ของนักประพันธ์วันกาวที่แต่งขึ้นเมื่อปี1944ได้รับการเผยเเพร่ไปทั่วเขตฐานที่มั่นและในกองกำลังทหารที่เคลื่อนไหวในกรุงฮานอย โดยการประชุมใหญ่ประชาชนที่จัดขึ้น ณ ฐานที่มั่นเตินจ่าวได้เลือกเพลงนี้เป็นเพลงมาร์ชของแนวร่วมเวียดมิงห์  ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นนักประพันธ์เหงวียนดิ่งทีได้แต่งเพลง ปราบฟาสซิสต์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเพลงเกริ่นนำรายการของสถานีวิทยุเวียดนาม หรือมีเพลงอีกบทที่บรรยายถึงลมหายใจใหม่ๆจากที่มั่นปฏิวัติคือ   เสียงเพลงของทหารท้องถิ่นของนักดนตรีโด๋หญวน ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในหมู่นักรบที่ทำการเคลื่อนไหวลับในนครหลวงและในวันที่ชาวฮานอยทำการลุกขึ้นสู้ พวกเขาก็ได้ร้องเพลงนี้ในขณะออกสู่ท้องถนนเดินสำแดงกำลัง