คุณ จิ๋งวันโบและคุณ หว่างถิมิงโห่ |
คุณ หว่างถิมิงโห่ เกิดในครอบครัวที่นับถือลัทธิขงจื๋อที่รักชาติ เป็นลูกหลานของตระกูลที่มีชื่อเสียงของกรุงฮานอยในต้นศตวรรษที่20และได้รับการอบรมบ่มสอนถ่ายทอดจิตใจแห่งความรักชาติจากบิดาคือท่าน หว่างด๋าวเฟืองตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งบิดาของคุณ หว่างมิงโห่และบิดาของคุณ จิ๋งวันโบคือท่านจิ๋งฟุกเหลยต่างเป็นคนที่มีจิตใจแห่งความรักชาติและมีอุดมการณ์แห่งประชาติเหมือนกัน ในระหว่างการทำมาค้าขาย คุณ หว่างถิมิงโห่และคุณ จิ๋งวันโบ ต่างก็ให้ความดูแลเอาใจใส่คนงานและให้ความช่วยเหลือผู้ยากจนและผู้ด้อยโอกาส ส่วนสำหรับการปฏิวัติ พวกเขาพร้อมสละทุกอย่าง
ในช่วงแรกของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี1945และการก่อตั้งประเทศ ครอบครัวของนักธุรกิจ จิ๋งวันโบได้มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ต่อการปฏิวัติ โดยในช่วงนั้น เพื่อขานรับสัปดาห์เรี่ยไรเงินทองช่วยชาติของรัฐบาล ครอบครัวของคุณ หว่างถิมิงโห่ได้สนับสนุนทองคำกว่า190กิโลกรัม พร้อมทั้ง รณรงค์เรียกร้องให้พ่อค้าวาณิชต่างๆในกรุงฮานอยสนับสนุนทองคำอีก38กิโลกรัม ในช่วงของความอดอยากเมื่อปี1945 ครอบครัวของคุณโบและคุณ โห่ได้ให้การช่วยเหลือด้านการเงินแก่ประชาชนและแจกข้าวต้มให้แก่ผู้ที่อดอยาก ครอบครัวคุณ หว่างถิมิงโห่ ได้บริจาคทรัพย์สินเงินทองเพื่อสนับสนุนการปฏิวัติด้วยความประสงค์ว่า สามารถช่วยรักษาทางการเฉพาะกาล ประเทศถึงจะมีเอกราชและเสรีภาพ ซึ่งคุณ โห่ เคยบอกว่า “ทองคำมีค่าก็จริงแต่จิตใจเพื่อประชาชนและประเทศนั้นของประธานโฮจิมินห์มีค่ายิ่งกว่าทองคำ”
บ้านเลขที่48ถนนห่างงาง |
นาย ดิงกวางเถี่ยว อายุ90ปีในเขตด๊งดา กรุงฮานอยได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่ลำบากนั้นของประเทศว่า“ในช่วงนั้น ประชาชนมีความไว้วางใจต่อประเทศและประธานโฮจิมินห์เป็นอย่างมาก ซึ่งประชาชนทุกคนพร้อมเสียสละทุกอย่างและขานรับคำเรียกร้องของประธานโฮจิมินห์อย่างเต็มที่ ดังนั้น เมื่อได้ข่าวเกี่ยวกับการบริจาคทรัพย์สินของครอบครัวคุณ มิงโห่ ทุกคนต่างรู้สึกทราบซึ้งใจมากในความรักชาติ รักปิตุภูมิและประชาชนของท่านและชาวเวียดนามหลายคน รวมทั้ง ผมก็รักประชาชนเวียดนามมากขึ้น”
นอกจากการมีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ต่อการปฏิวัติ ครอบครัวคุณ หว่างถิมิงโห่ได้รับเกียรติในการดูแลและปกป้องประธานโฮจิมินห์ในช่วงที่ประธานโฮจิมินห์พำนักและทำงานในบ้านเลขที่48ถนนห่างงาง ณ ที่นี่ ประธานโฮจิมินห์ได้เขียนปฏิญญาเอกราชเพื่อสถาปนาสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ซึ่งก็คือสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามในปัจจุบันและเตรียมความพร้อมให้แก่พิธีเปิดตัวรัฐบาลเฉพาะกาล จนถึงวันที่ประธานโฮจิมินห์ได้ขึ้นเวทีอ่านปฏิญญาเอกราช ณ จัตุรัสบาดิ่ง เมื่อวันที่2กันยายนปี1945 คุณ หว่างถิมิงโห่ถึงจะรู้ว่า คนที่ตนปกป้องและดูแลในเวลาที่ผ่านมาคือประธานโฮจิมินห์ ในเวลาต่อมา ครอบครัวของคุณ หว่างถิมิงโห่ได้มอบบ้านเลขที่48ถนนห่างงางให้รัฐเพื่อเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาสิ่งของวัตถุในช่วงที่ประธานโฮจิมินห์เคยพำนักและทำงาน
ศาตรจารย์และครูประชาชนหวูเยืองนิงได้กล่าวว่า ส่วนอุทิศของครอบครัวคุณ จิ๋งวันโบและคุณ หว่างถิมิงโห่ให้แก่การปฏิวัติมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งพวกเขาไม่เพียงแต่มอบทรัพย์สินให้แก่ประเทศเท่านั้นหากยังรณรงค์ให้พ่อค้าวาณิชอื่นๆร่วมแรงร่วมใจบริจาคเงินทองช่วยชาติอีกด้วย นอกจากนี้ ท่านยังรณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมแห่งความรักชาติอย่างต่อเนื่องในเวลาต่อมา“ครอบครัวของท่านเป็นครอบครัวพ่อค้าวาณิชที่รักชาติ ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ท่านเป็นตัวอย่างเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจุบัน พวกเรากำลังส่งเสริมให้สถานประกอบการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมและการค้าเพื่อผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ซึ่งพวกเราต้องปฏิบัติตามตัวอย่างของครอบครัวคุณ จิ๋งวันโบ โดยส่งเสริมให้บรรดาสถานประกอบการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่เข้มแข็งในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”
เมื่อปี1988 คุณ จิ๋งวันโบได้ถึงแก่อสัญญกรรม เมื่อวันที่5พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่าน หว่างถิมิงโห่ก็ได้ถึงแก่อสัญญกรรม จากส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายต่อการปฏิวัติและการพัฒนาประเทศครอบครัวของคุณ จิ๋งวันโบและหว่างถิมิงโห่ ทั้งสองท่านได้รับการยกย่องเป็นนักธุรกิจตัวอย่างดีเด่นของเวียดนาม และได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์อันสูงส่งจากรัฐบาลเนื่องจากการมีส่วนร่วมต่อปิตุภูมิและทางการกรุงฮานอยได้เห็นพ้องที่จะตั้งชื่อถนนสายหนึ่งที่มีชื่อว่า จิ๋งวันโบ ซึ่งเป็นการให้เกียรติและเป็นการรับรองของรัฐเวียดนามต่อส่วนร่วมที่มีความหมายของครอบครัวคุณ หว่างถิมิงโห่.