(VOVworld)- “
ชีวิตของแต่ละคนเสมือนนิยายที่บอกเล่าเรื่องราวในหลากหลายแง่มุม แต่เราควรช่วยให้นิยายนั้นมีตอนจบที่มีความสุขด้วยความรักชีวิตของเราในทุกวันนี้” นี่คือความในใจของสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มชุมชนที่เสมอภาคซึ่งเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อHIV ซึ่งเราทุกคนต่างรู้สึกถึงตอนจบที่มีความสุขนี้เมื่อเห็นผู้ป่วยโรคเอดส์ทุกคนที่โรงพยาบาล ด๊งดา กรุงฮานอย ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากบรรดาแพทย์พยาบาล
|
แผนกโรคติดต่อของโรงพยาบาล ด๊งดา กรุงฮานอย ที่พึ่งทางใจของผู้ติดเชื้อHIV/AIDS(internet) |
เดี๋ยวนี้ ผู้ป่วย เหงวียนวันนาม ซึ่งกำลังรักษาตัวในแผนกโรคติดต่อของโรงพยาบาลด๊งดาไม่เอาแต่เก็บตัวเหมือนก่อนหน้านี้1ปีตอนที่เข้าโรงพยาบาลใหม่ๆซึ่งเขาได้เล่าเหตุผลของการติดเชื้อHIVให้เราฟังอย่างตรงๆว่า เพราะติดยาเสพติด ผมจึงติดเชื้อเอด์สและเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นโรคนี้เมื่อ1ปีก่อนขณะที่ไปตรวจเลือด ซึ่งผมรู้สึกเสียใจมากและสำนึกในความผิดที่มีต่อครอบครัว ไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนจนทำให้ตัวเองติดโรคร้ายนี้ หากมองจากภายนอกก็ไม่มีใครมองออกว่าคุณนามเป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งเขาบอกว่าเมื่อทราบข่าวร้ายว่าตัวเองติดเชื้อHIVเขาก็สิ้นหวังจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่เมื่อได้รับกำลังใจจากครอบครัวและการดูแลรักษาเป็นอย่างดีจากคณะแพทย์และพยาบาลสุขภาพทั้งกายและใจของเขาก็เริ่มแข็งแรงขึ้นและทุกวันนี้ก็สามารถเลิกยาเสพติดได้แล้วและตั้งใจพยายามรักษาโรค สำหรับนายเลวันเติม ซึ่งก็เป็นผู้ป่วยเอดส์อีกคนเล่าว่า เมื่อ8ปีก่อนหลังจากรู้ตัวว่าติดเชื้อHIVเขาก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่น่าอยู่อีกแล้วจึงอดอาหารเป็นเดือนแต่ปัจจุบันนี้เมื่อหวนคิดถึงช่วงเวลานั้นเขาก็รู้สึกว่าตัวเองทำในสิ่งที่ไม่ฉลาดเพราะเขายังมีครอบครัว มีภรรยาและลูกชาย5ขวบที่ต้องการความดูแล ขณะนี้เขาเข้าตรวจสุขภาพและรับยาจากหมอเพื่อไปรักษาที่บ้านและเขารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของแพทย์ทุกคนในโรงพยาบาลด๊งดา ผมศึกษาข่าวจากสื่อต่างๆและทราบว่า ที่นี่มีแผนกโรคติดต่อที่รักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ก็เลยเข้ารักษาและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีไม่มีไครเลือกปฏิบัติหรือแสดงอคติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์ซึ่งได้ช่วยให้คนอย่างผมมีความหวัง มีความเชื่อมั่นในชีวิตและมีกำลังใจเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายนี้
|
ในแต่ละเดือน ทางโรงพยาบาลด๊งดาได้ทำการตรวจเชื้อHIVให้แก่ผู้ป่วย200-300รายโดยเป็นผู้ที่ติดเชื้อใหม่ประมาณ40-60ราย(internet) |
ในแต่ละเดือน ทางโรงพยาบาลด๊งดาได้ทำการตรวจเชื้อHIVให้แก่ผู้ป่วย200-300รายโดยเป็นผู้ที่ติดเชื้อใหม่ประมาณ40-60ราย ซึ่งตัวเลขนี้ได้ลดลงมากเมื่อเทียบกับเมื่อ10ปีก่อน ปัจจุบันผู้ป่วยโรคเอดส์ก็มีโอกาสได้รับการรักษาตามวิธีการใหม่และมียารักษาที่มีประสิทธิผลมากขึ้น แต่การที่จะสร้างความเห็นอกเห็นใจระหว่างแพทย์พยาบาลและผู้ป่วยนั้นมิใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ดร.ฝามบ๊าเหี่ยน หัวหน้าแผนกโรคติดต่อของโรงพยาบาลด๊งดา เผยว่า ในช่วงแรกๆยังมีการแสดงอคติต่อผู้ป่วยแต่เดี๋ยวนี้ ศูนย์ควบคุมโรคเอดส์ของเราได้มีประสบการณ์มากมายและได้อัพเด็ทข่าวสารข้อมูลพร้อมความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับการรักษาโรคร้ายนี้จากวงการแพทย์โลกจึงส่งผลดีต่อการรักษาโรคให้แก่ผู้ป่วยทั้งด้านกายและใจ ไม่มีการเลือกปฏิบัติโดยเราถือว่าผู้ป่วยเอดส์ทุกคนเหมือนผู้ป่วยปกติทั่วไปที่ต้องได้รับการการรักษาจากแพทย์ ดร.เหี่ยนเผยว่า สำหรับผู้ป่วยแต่ละคนก็มีความมั่นใจและปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดียิ่งขึ้น เมื่อมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ตัวเองเป็นผ่านสื่อต่างๆ สำหรับผู้ป่วย เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรคนี้อย่างสมบูรณ์ทุกคนก็กล้าแสดงตัวและกล้าไปหาหมอเพื่อขอคำปรึกษาและความช่วยเหลือที่สถานีอนามัยต่างๆไม่ปกปิดโรคของตนเหมือนแต่ก่อน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพื่อช่วยให้การควบคุมและการรักษา รวมทั้งงานด้านการป้องกันการติดเชื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การที่ผู้ป่วยมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคของตัวเองก็เป็นการอำนวยความสะดวกในการรักษาของแพทย์พยาบาล โดยพวกเขาไม่เพียงแต่ได้รับการดูแลด้านสุขภาพกายเท่านั้นหากยังรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากแพทย์ผู้อารี./.