แจกัน ถ้วย ขวดเซมามิกและตะเกียบอายุหลายสิบปีได้รับความสนใจจากลูกค้า

 “ ผมมาที่นี่เนื่องจากอยากค้นคว้าและสัมผัสกับบรรยากาศในอดีตที่ผ่านพ้นไปและพาลูกมาด้วยเพื่อให้เขาเข้าใจชีวิตของพ่อสมัยนั้น ”

“ บ้านผมอยู่ใกล้ที่นี่ ผมมาทุกวันเสาร์เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ ผมอยากรู้ว่าคนแก่เขาเล่นอะไร แต่ละครั้งมาที่นี่ผมรู้สึกมีความสุขสนุกสนานมาก ”

“ ผมมาที่นี่เป็นครั้งคราว คนที่มาตลาดนัดนี้มีความรู้สึกที่แตกต่างกัน  สำหรับคนที่เคยอยู่ในช่วงยากลำบากของประเทศนั้นจะได้กลิ่นบรรยากาศในอดีตที่ช่างใกล้ชิดเหลือเกินจากสิ่งของเครื่องใช้ที่เราเคยใช้ ทั้งนี้ทำให้เกิดจิตสำนึกที่จะต้องถนอมสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน  ”

ของใช้สมัยสงครามต่อต้านศัตรูผู้รุกรานก่อนหน้านี้กว่า ๓๐ ปี

ท่ามกลางเสียงเพลงคลาสสิกและเสียงต่อรองระหว่างคนขายกับคนซื้อโดยไม่สนใจราคาเพราะคนขายนั้นไม่ใช้พ่อค้า โดยในวันธรรมดาพวกเขาต้องไปทำงานและจะมาขายที่นี่เฉพาะวันเสาร์เท่านั้นเพื่อแนะนำของสะสมของตนเองกับผู้ที่ชื่นชอบของเก่าเช่นเดียวกับตนเอง  นายเหงวียนดึ๊กทั้ง เจ้าของแผงขายของใช้สมัยสงครามที่ผ่านมาเช่นปลอกกระสุนปืนใหญ่ กระติกน้ำของทหาร ชุดทหาร รองเท้ายางรถและหมวกสนามคุยกับพวกเราว่า“ เพื่อนๆช่วยหาของเก่าให้แล้วส่งมาทางเว็บไซต์ให้ส่วนหนึ่ง ผมก็ไปหาเองได้ส่วหนึ่ง  ผมมาที่นี่ในวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อที่จะได้พบปะแลกเปลี่ยนหรือขายของที่เหลือใช้เพราะวันธรรมดาต้องทำงาน  เมื่อตลาดปิดพวกเราจะทานข้าวด้วยกัน ”
แผงขายภาพถ่ายของนายเหงวียนหิวมิงห์เป็นจุดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเพราะมีภาพถ่ายหายากเช่นภาพคนฝรั่งเศสถ่ายเกี่ยวกับเวียดนามหลายภาพเช่น ภาพถ่ายตั้งแต่ปีค.ศ.๑๘๘๕ ที่นักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสเพิ่งบุกเข้ามาเวียดนาม ภาพฮานอยยุคต่างๆเช่น ภาพโอกวานเจื๋องหรือประตูเข้าฮานอย ตลาดเบื๋อย  ภาพวาดโพสเตอร์เกี่ยวกับการสร้างสรรค์สังคมนิยมในภาคเหนือและการต่อสู้กับศัตรูผู้รุกรานที่ใช้กระดาษประเภทต่างๆทั้วกระดาษผลิตจากรัสเซียหรือกระดาษผลิตภายในประเทศของโรงกระดาษบ๊ายบั่งที่ทำด้วยมือ  นายมิงห์เผยต่อไปว่า ลูกค้ามีความต้องการที่แตกต่างกันโดยบางคนชอบความทนทานของกระดาษ ร่องรอยแห่งกาลเวลาหรือผลงานต้นฉบับ นายมิงห์กล่าว“ ราคาย่อมเยาและถูกกว่าที่อื่นมากเพราะเราไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่  พวกเรามาที่นี่เพื่อพบปะและแลกเปลี่ยนของตลอดจนรีลักซ์ในวันสุดสัปดาห์  ผมเลือกขายภาพถ่ายเพราะผมชอบและสะสมมานานอีกทั้งอยากแชร์ความหลงไหลของตนเองด้วย  ผมได้ถ่ายรูปจากรูปเก่าเป็นหลายรูปให้ทุกคนชมและเข้าใจวัฒนธรรมในอดีต ”

เงินเก่ามูลค่าต่างๆทั้งของเวียดนามและต่างประเทศดึงดูดความสนใจของลูกค้า

ไฮไลท์ของตลาดนัดของเก่าคงจะหนีไม่พ้นแผงขายเงินโมบราณที่มีแผงขายถึง ๔ แผง ซึ่งที่นี่ขายแบ็งค์สมัยอินโดจีน แบ็งค์เวียดนามยุคต่างๆที่มีมูลค่าที่หายากโดยมีราคาตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ถึง๒๐๐,๐๐๐ ด่องต่อใบ นอกจากนี้ยังวางขายเงินสกูลของประเทศอื่นๆ  นายเหงวียนหงอกวันเจ้าของแผงขายเงินเวียดสมัยต่างๆเปิดเผยถึงแหล่งสินค้าว่า“ แบ็งค์เหล่านี้มาจากหลายแห่งแต่ส่วนใหญ่มาจากคลังเงินต่างๆเช่นโรงพิมพ์เงิน  ผมติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของโรงพิมพ์เหล่านี้ที่ยังเก็บรักษาเงินประเภทต่างๆ แต่แหล่งสินค้าก็ค่อยๆลดลง ”

นายเกี่ยวก๊วกแค้ง หัวหน้าฝ่ายบริหารตลาด

นายเกี่ยวก๊วกแค้ง หัวหน้าฝ่ายบริหารตลาดกล่าวถึงความคิดเกี่ยวกับการจัดตลาดนัดของเก่านี้ว่า เขาหลงไหลการสะสมของเก่าเป็นชีวิตจิตใจจึงเกิดความคิดที่จะจัดตลาดในลักษณะดังกล่าว“ พวกเราเปิดตลาดนี้เนื่องจากมีผู้หลงไหลในการสะสมสิ่งของเครื่องใช้และสิ่งของอื่นๆที่ผูกพันกับการพัฒนาประเทศตามระยะต่างๆ  ตลาดนี้ถูกเปิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบของเก่าและชอบสะสมของเก่า อีกทั้งเป็นโอกาสพบปะด้วย  ตลอดจนจะช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศมากขึ้นจากการบอกเล่าของคนรุ่นก่อนๆผ่านของที่วางขาย  ทั้งนี้ทำให้พวกเขารักชีวิตที่มีอยู่ต่อไป ”
ผ่านเวลากว่า ๕ เดือน ตลาดนัดของเก่าได้กลายเป็นจุดนัดพบของบรรดาผู้ที่ชอบสะสมของเก่า เป็นที่พบปะของทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ อีกทั้งย้อนอดีตสู่บรรยากาศแห่งความทรงจำสู่ยุคหนึ่งที่น่าจดจำ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างประเทศไม่ควรพลาดหากมีโอกาสมาเที่ยวกรุงฮานอย ./.