เด็กหญิง เกว๊แองได้รับการดูแลจากนาง โห่ถิจ่าว |
ในตลอดเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา บ้านของนาง โห่ถิจ่าว ในแขวง เหงียนกือจิง เขต 1 นครโฮจิมินห์ ได้ทำหน้าที่ดูแลสมาชิกใหม่คือเด็กหญิง เหงียนหมกเกว๊แอง อายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของผู้เช่าที่อยู่ตรงข้ามบ้านของเธอ โดยคุณแม่ของเด็กหญิง เกว๊แอง เสียชีวิตเนื่องจากโรคโควิด-19 เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ส่วนพ่อก็ไปแต่งงานกับหญิงคนอื่นแล้ว ในขณะที่คุณยายก็อยู่ไกล ดังนั้น ตั้งแต่วัยเด็ก เด็กหญิง เกว๊แอง จึงถือนาง จ่าว เป็นคุณยายของเธอ โดยนาง จ่าวเป็นผู้ที่ดูแลเกว๊แองตอนที่แม่ออกไปทำงาน
วันที่แม่ของเธอเสียชีวิต เนื่องด้วยไม่มีญาติอยู่ใกล้ นาง จ่าว จึงพาเด็กหญิง เกว๊แอง มาอยู่ที่บ้านเพื่อรอญาติมารับ แต่ญาติทุกคนของเด็กหญิงเกว็แองมีฐานะยากจน ในขณะที่เด็กหญิงเกว๊แอง ก็อยากอยู่กับนาง จ่าว ซึ่งบรรดาญาติๆ ก็อนุญาตญาติของเธอก็ยอมรับความปรารถนานี้ นาง จ่าว เผยว่า
“ตอนนี้ ดิฉันทำเพื่ออนาคตของเด็ก เกว๊แองก็เข้าใจและเชื่อฟังดิฉันดูเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็ก”
หลังจากแม่เสียชีวิต แต่ด้วยความห่วงใยและการสนับสนุนจากครอบครัวของนาง จ่าวและผู้ที่มีใจกุศล เด็กหญิงวัย 9 ขวบจึงค่อยๆ เปิดใจและตระหนักว่าจะต้องช่วยนาง จ่าว ทำงานบ้าน เด็ก เกว๊แอง กล่าวว่า ไม่เพียงแต่เพื่อนบ้านเท่านั้น หากครูและผู้ปกครองของชั้นเรียนที่เธอกำลังศึกษาอยู่ก็ให้กำลังใจและช่วยเหลือเธอเป็นอย่างมาก
“ผู้ปกครองในชั้นเรียนของหนูซื้อโทรศัพท์ให้หนูเรียนออนไลน์ หนูอยากเป็นหมด "หมอ" มีหลายสิ่งที่น่าสนใจมาก ถ้าหนูเรียนเก่ง หนูจะมีงานทำและสามาราถเลี้ยงดูคุณยาย จ่าวได้”
ส่วนเด็กหญิง เหงียนถิหงอกถาว อายุ 13 ปี เป็นบุตรบุญธรรมของนาง เหงียนถิเหวะ ในเขต บิ่งแถ่ง ซึ่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา สามีของนาง เหวะ ได้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทำให้ภาระต่าง ๆ ตกอยู่ที่เธอเพียงคนเดียวนาง เหวะ เล่าว่า ไม่ว่าจะเป็นลูกแท้ ๆหรือลูกบุญธรรม เธอก็จะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
“ดิฉันทำงานประมาณ 13 วันต่อเดือน ส่วนวันที่เหลือก็ต้องหยุดงานโดยไม่ได้ค่าจ้าง ถึงแม้ประสบอุปสรรคมากมายแต่ดิฉันจะพยายามสู้ชีวิตต่อไป”
เด็กหญิง เหงียนถิหงอกถาว |
จากการตระหนักได้ดีถึงความลำบากของแม่ เด็กหญิง ถาว จึงขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเพื่อดูแลตัวเองและครอบครัวในอนาคต
“หนูอยากบอกแม่ว่า หนูอยากเรียนให้เก่งขึ้นเพื่อจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ เพราะแม่ทุ่มเทอดทนเลี้ยงดูหนู”
ด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่รักเนื่องจากโควิด-19 นาง เจิ่นถิกิมทู อายุ 48 ปีในเขต 4 ต้องทำหน้าที่แทนสามีในการดูแลลูก 3 คนที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ปัจจุบัน ทั้ง 4 แม่ลูกอาศัยในห้องใต้หลังคาเล็กๆ ที่ถนน ดว่านวันเบอ แต่ความยากลำบากก็บรรเทาผ่อนคลายลงบ้างเมื่อครอบครัวของเธอได้รับการช่วยเหลือค่าครองชีพและค่าเล่าเรียน นอกจากครอบครัวของนางทู สำนักงาน หน่วยงาน องค์กรและบุคคลจำนวนมากได้ให้การช่วยเหลือเด็กกำพร้าอายุตั้งแต่ 1-15 ปี เป็นเงิน 1 - 3 ล้านด่งต่อคนต่อ โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่อยากฝึกสอนอาชีพ วิทยาลัยและโรงเรียนอาชีวศึกษาสังกัดสำนักงานแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมของนครฯก็พร้อมรับและยกเว้นค่าเล่าเรียนทั้งหมดสำหรับเด็กกลุ่มนี้ นอกจากนั้น ศูนย์จัดหางานสังกัดสำนักงานฯยังเป็นฝ่ายรุกในการประสานงานและหางานให้นักศึกษาได้ทำทันทีหลังสำเร็จการศึกษา นาง โตถิบิ๊กโจว์ ประธานแนวร่วมปิตุภูมินครโฮจิมินห์ได้เผยว่า
“เด็กที่มีฐานะยากจนในนครฯจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงภายใต้นโยบายและการช่วยเหลือจากสังคม”
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 4 ในนครโฮจิมินห์ได้ทำให้เด็กกว่า 1,500 คนกลายเป็นเด็กกำพร้า การสูญเสียและบาดแผลทางใจแม้ไม่สามารถทำให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ด้วยการสนับสนุนและการช่วยเหลือของชุมชน เด็กๆกำลังมีชีวิตที่มั่นคงในการฟันฝ่าความยากลำบากเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่สดใสมากขึ้น.