นาย มายหุ่งหยุง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งเยือง (Photo: binhduong.gov.vn) |
ปัจจุบัน จังหวัดบิ่งเยืองมีเขตนิคมอุตสาหกรรม 33 แห่ง ซึ่งในนั้น เขตนิคมอุตสาหกรรม 28 แห่งกำลังดำเนินงาน โดยมีพื้นที่กว่า 1 หมื่น 1 พันเฮกตาร์ ตามแผนการวางผังจนถึงปี 2030 จังหวัดบิ่งเยืองจะพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมอีก 10 แห่งในพื้นที่ประมาณ 1 หมื่น 6 พันเฮกตาร์ สำหรับเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ จังหวัดบิ่งเยืองเน้นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ดึงดูดการลงทุนในด้านระบบอัตโนมัติ กระบวนการอัจฉริยะและการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการส่งออกสูง ผสานการผลิตกับการพัฒนาการบริการอุตสาหกรรม นาย เจืองวันฟอง รองหัวหน้าคณะกรรมการบริหารเขตนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดบิ่งเยืองได้เผยว่า เพื่อมีพื้นที่สำหรับขยายเขตนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดบิ่งเยืองกำลังปรับปรุงแผนการวางผังเพื่อยื่นเสนอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติ โดยให้ความสนใจต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในอำเภอทางทิศเหนือของจังหวัดฯ
“แนวทางการพัฒนาในเวลาที่จะถึงคือทางจังหวัดฯจะพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมตามรูปแบบนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว ทางจังหวัดฯจะวางผังก่อสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมในทิศเหนือเพื่อเน้นดึงดูดโครงการลงทุน ย้ายเขตนิคมอุตสาหกรรมในเขตชุมชนทางทิศใต้ไปยังทิศเหนือ”
การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป็นแนวโน้มของโลกและกำลังได้รับการปฏิบัติในจังหวัดบิ่งเยือง แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่ยากที่สุดคือทางจังหวัดฯต้องปรับเปลี่ยนเขตนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่ให้เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ดังนั้น ผู้บริหารจังหวัดฯได้เสนอให้นักลงทุนของเขตนิคมอุตสาหกรรมทำการตรวจสอบและปรับปรุงเพื่อใช้พื้นที่อย่างน้อยร้อยละ 25 ของเขตนิคมอุตสาหกรรมสำหรับการปลูกต้นไม้ สถานประกอบการอย่างน้อยร้อยละ 20 กำลังใช้แหล่งทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสถานประกอบการอย่างน้อยร้อยละ 10 มีแผนการร่วมมือกับสถานประกอบการต่างๆในเขตนิคมอุตสาหกรรม นาย มายหุ่งหยุง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งเยืองเผยว่า ทางจังหวัดฯจะมีนโยบายช่วยเหลือนักลงทุนตามข้อกำหนด
“ทางจังหวัดฯจะเน้นลงทุนก่อสร้างถนนเข้าเขตนิคมอุตสหากรรมเพื่อเชื่อมโยง ค้ำประกันความมั่นคงและความเป็นระเบียบเรียบร้อย สนับสนุนสถานประกอบการในสถานประกอบการในการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนอัจฉริยะและเชิงนิเวศ”
จังหวัดบิ่งเยืองตั้งเป้าไว้ว่า จะกลายเป็นตัวเมืองอุตสาหกรรมและการบริการที่ทันสมัยระดับภูมิภาคและโลกในปี 2050 |
นอกจากการปรับเปลี่ยนเขตนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดบิ่งเยืองยังส่งเสริมให้สถานประกอบการปรับเปลี่ยนเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมุ่งสู่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การกำหนดรูปแบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นแนวโน้มการพัฒนาร่วมของโลก มีส่วนช่วยยกระดับสถานะและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสถานประกอบการในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน สถานประกอบการต่างๆในจังหวัดบิ่งเยืองได้ปรับเปลี่ยนเป็นแนวโน้มการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง 1 ในสถานประกอบการดีเด่นและเดินหน้าในด้านนี้คือโรงงานของเครือบริษัท เลโก้ ของเดนมาร์กในเขตนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม-สิงคโปร์ 3 ซึ่งทางเครือบริษัทฯตั้งเป้าไว้ว่า จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในรอบ 1 ปีนับตั้งแต่การก่อสร้าง ทางเครือบริษัทฯได้เสร็จสิ้นการปลูกต้นไม้ 5 หมื่นต้นในบริเวณโดยรอบโรงงาน ซึ่งสูงกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับจำนวนต้นไม้ที่ต้องย้ายเพื่อก่อสร้างโรงงาน โรงงานเลโก้ ได้รับการออกแบบเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของทางเครือบริษัทฯ รวมทั้งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนร้อยละ 37 ในปี 2032 นาย Preben Elnef รองประธานเครือบริษัท เลโก้ และผู้อำนวยการใหญ่ LEGO Manufacturing Vietnam ได้เผยว่า
“นับเป็นครั้งแรกที่พวกเราทดลองการใช้พลังงานแสงอาทิศย์ในโรงงาน โดยติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาของโรงงาน พื้นที่จอดรถ”
การปรับเปลี่ยนเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยังช่วยให้สถานประกอบการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่อย่างไรก็ดีการปรับเปลี่ยนเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนยังคงประสบอุปสรรคในการปฏิบัติระเบียบราชการ ดังนั้น สถานประกอบการเสนอให้มีกลไกและนโยบาย โครงการช่วยเหลือที่เหมะสมและกรอบทางนิตินัยที่สะดวก นาย เหงวียนวันเหลย เลขาธิการพรรคสาขาจังหวัดบิ่งเยืองเผยว่า ผู้บริหารจังหวัดฯได้กำชับให้สำนักงานบริหารภาครัฐจัดทำนโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการของชมรมสถานประกอบการเพื่อเน้นแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ
“พรรคสาขา คณะกรรมการประชาชนจังหวัดฯทำงานกับชมรมสถานประกอบการเพื่อเรียนรู้อุปสรรค ความต้องการของสถานประกอบการเพื่อมีมาตรการแก้ไข ด้วยวิธีการทำนี้ ทางการจังหวัดฯจะร่วมกับสถานประกอบการในการประสบความสำเร็จและพัฒนา”
ภาพลักษณ์ของจังหวัดบิ่งเยืองที่คล่องตัว มีความตั้งใจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสีเขียวได้ดึงดูดบรรดานักลงทุนทั้งภายในต่างประเทศ พัฒนาจังหวัดบิ่งเยืองให้กลายเป็นจังหวัดอุตสาหกรรมหลักในเวียดนาม ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังเพื่อให้จังหวัดบิ่งเยืองพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมอย่างยั่งยืน ปฏิบัติความปรารถนาเกี่ยวกับการสร้างสรรค์จังหวัดบิ่งเยืองที่พัฒนาและเจริญรุ่งเรือง.