ชาวประมงและเจ้าของเรือประมงนับร้อยคนในอำเภอหว่ายเญิน จังหวัดบิ่งดิ๋งที่เพิ่งกลับจากเขตทะเลเจื่องซากำลังพิจารณาแนวทาง นโยบายและแบบแปลนเรือเหล็ก 6 แบบของเครือบริษัทต่อเรือเวียดนาม เช่น เรือจับปลาหมึก เรือจับปลาทูน่าและเรือสนับสนุนการทำประมง เป็นต้น นายฟานจุงเหงียบ เจ้าของเรือประมงในตำบลหว่ายเฮือง อำเภอหว่ายเญิน จังหวัดบิ่งดิ๋งเผยว่า แม้ราคาของเรือเหล็กจะอยู่ที่ประมาณ 6 พันถึง 1 หมื่นล้านด่งต่อลำแต่ก็คุ้มค่ากับการลงทุนเพราะมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยมากกว่าเรือไม้ แถมยังออกทะเลทำประมงน้ำลึกได้นานขึ้นและมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่การออกแบบเรือเหล็กนั้นก็อาศัยประสบการณ์ของชาวประมงด้วย “บริษัทต่อเรือควรหารือกับเจ้าของเรือเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ ยกตัวอย่างเช่น เรือไม้ของเรามักจะมีกราบเรือกว้างเพื่อกันคลื่น แต่เรือเหล็กมีกราบเล็กกว่าจึงควรขยายเพื่อให้เรือไม่โครงเครงเวลาเจอคลื่น”

ชาวประมงส่วนใหญ่ต่างมีความปรารถนาที่จะมีเรือเหล็กใว้ใช้แทนเรือไม้เพราะเรือเหล็กมีความทนทาน มีอายุใช้งานที่ยาวนาน มีความเร็วสูง ประหยัดเชื้อเพลิงและทนต่อแรงกระแทกได้ดี ส่วนภายในเรือก็แบ่งเป็นห้องต่างๆ ซึ่งสามารถเก็บเชื้อเพลิงและน้ำจืดได้มากกว่าเรือไม้และถ้าหากส่วนใดส่วนหนึ่งถูกน้ำเข้าเรือก็ยังคงปลอดภัยอยู่ ส่วนห้องเย็นก็ได้มาตรฐานจึงช่วยรักษาคุณภาพและเพิ่มมูลค่าให้แก่สัตว์น้ำที่จับได้ โดยเฉพาะเรือเหล็กแบบนี้สามารถทนคลื่นระดับ 9ได้ในขณะที่เรือไม้ทนรับได้แค่ระดับ6 หรือ 7 เท่านั้น ชาวประมงส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นว่า พวกเขาไม่ห่วงเรื่องค่าต่อเรือเพราะได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลแล้วหากสนใจการออกแบบเรือเพื่อให้มีความสอดคล้องกับลักษณะการทำประมงต่างๆ มีความปลอดภัยและมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ ชาวประมงบางคนยังปรารถนาว่า รัฐบาลจะมีนโยบายหรืองดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่เรือแต่ละลำดังความคิดเห็นของคุณเลวันเย้ย “เรือแต่ละลำมีมูลค่าประมาณ 6.8 พันล้านด่งต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 680 ล้านด่ง ซึ่งเงินจำนวนนั้นสามารถนำไปใช้ซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัยติดตั้งให้แก่เรือได้  ผมขอให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือชาวประมงและกระทรวงการคลังพิจารณาการลดภาษีดังกล่าว”

ปัจจุบัน จังหวัดบิ่งดิ๋งมีเรือประมงน้ำลึกกว่า 2,500 ลำ ทำการประมงได้ประมาณ 2 แสนตันต่อปี รวมทั้งปลาทูน่า 1 หมื่นตัน  การที่จังหวัดบิ่งดิ๋งร่วมมือกับเครือบริษัทต่อเรือเวียดนามต่อเรือเหล็กให้แก่ชาวประมงนั้น จะช่วยให้พวกเขาสามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้นและมีคุณภาพดีขึ้น พร้อมทั้งมีส่วนร่วมรักษาอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะของประเทศ นอกจากนี้ เครือบริษัทต่อเรือเวียดนามยังร่วมมือกับชาวประมงในท้องถิ่นต่างๆเพื่อออกแบบเรือเหล็กตามความต้องการทั้งในด้านความคุ้นเคยของชาวประมง เทคโนโลยี ความปลอดภัยและต้นทุนการผลิต นายโงตุ่งเลิม รองผู้อำนวยการเครือบริษัทต่อเรือเวียดนามเผยว่า หลังจากทางบริษัทรวบรวมความคิดเห็นของชาวประมงทุกคนแล้วก็จะร่วมมือกับทางการท้องถิ่นในภาคกลางเวียดนามออกแบบเรือให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด “ขณะนี้เราสามารถออกแบบเรือได้ 6 แบบแล้ว และได้ต่อเรือต้นแบบแล้ว 3 แบบ แบบละ 2 ลำ โดยได้มอบเรือต้นแบบให้ชาวประมงทดสอบออกทะเลจับปลา ซึ่งในแต่ละครั้งหลังจากกลับเข้าฝั่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิกของเราก็จะพูดคุยกับชาวประมงเกี่ยวกับจุดเด่นจุดด้อยของเรือเพื่อทำการแก้ไขต่อไป”

เรือเหล็กที่ทันสมัยไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องชาวประมงจากภัยธรรมชาติ เท่านั้น หากยังช่วยเพิ่มผลผลิตในการจับสัตว์น้ำและคุณภาพในการเก็บรักษาสัตว์น้ำ ซึ่งจะช่วยให้ชาวประมงมีความตั้งใจมากขึ้นในการจับปลาในเขตน้ำลึกเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและมีส่วนร่วมปกป้องอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะของเวียดนาม./.