ท่ามกลางดนตรีที่ประพันธ์โดยนักดนตรี หวูเหยิ่ตเติน  ศิลปิน 3 คน โดยเป็นศิลปินหญิง 2 คนและศิลปินผู้ชาย 1 คนที่สวมชุดเต้นรำร่วมสมัยสีขาวกำลังเคลื่อนไหวร่างกายตามภาพถ่ายเกี่ยวกับประติมากรรมไม้ไผ่ที่ถูกฉายบนผนัง โดยสีสันของกระบอกไผ่ที่ถูกจัดแสดงสะท้อนเงาบนชุดและร่างกายของศิลปินบวกกับการเคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรีได้ทำให้ทั้งคนทั้งภาพและสิ่งของวัตถุได้ผสานเข้ากันอย่างกลมกลืน เวทีการแสดงอยู่ใกล้โซนจัดแสดงประติมากรรมไม้ไผ่ 10 ชิ้นที่มีรูปทรงกระบอก ยาวกว่า 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 เซ็นติเมตรและถูกวางบนชั้นไม้ไผ่ สูง 1 เมตร สำหรับภาพถ่ายประติมากรรมไม้ไผ่นั้น มีสีฉูดฉาดมากกว่าผลงานประติมากรรมในโซนจัดแสดงเนื่องจากเป็นภาพที่ถูกตกแต่ง

“งานนิทรรศการในวันนี้น่าสนใจมาก ดิฉันมีความรู้เกี่ยวกับประติมากรรมและการเต้นรำไม่มาก แต่หลังจากชมการแสดงของบรรดาศิลปินที่ใช้ประกอบภาพถ่ายประติมากรรมไม้ไผ่ก็รู้สึกว่า มีความกลมกลืนเป็นอย่างมากและศิลปินไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวร่างกายของพวกเขาเท่านั้น หากยังเคลื่อนไหวตามภาพถ่ายประติมากรรมอีกด้วย”

“นี่คือศิลปะเชิงทดลองที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างดิฉันเป็นพิเศษ การสอดแทรกกิจกรรมต่างๆในงานนิทรรศการได้ช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงผลงานจากมุมมองที่ต่างกัน เช่น ประติมากรรมไม้ไผ่ ดนตรีร่วมสมัยและศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกาย นั่นคือการประสานระหว่างการหยุดนิ่งกับการเคลื่อนไหว”

เจ้าของผลงานนิทรรศการวันนี้คือศิลปิน Harry Tabak มีรูปร่างเล็ก ดูเรียบร้อยในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีเข้ม แม้อายุ 70ปีแล้ว แต่เขายังมีแววตาสว่างสดใสและหน้าตายิ้มแย้มอย่างมีเสน่ห์ มาเวียดนามครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในฐานะนักท่องเที่ยว ซึ่งเขามีไอเดียในการทำโครงการนี้หลังจากเดินทางถึงกรุงฮานอยเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยเขาได้เห็นภาพประชาชนในกรุงฮานออกกำลังกายและเต้นรำในช่วงเช้าตรู่และช่วงอาทิตย์ตกดิน แต่เพื่อปฏิบัติโครงการนี้ นาย Harry Tabak ได้เดินทางไปพำนักและสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชนเผ่าเหมื่องในจังหวัดหว่าบิ่ง ทางภาคเหนือเวียดนามเป็นเวลา 3 สัปดาห์

“ผมได้ลองใช้วัสดุชนิดต่างๆเพื่อสร้างผลงานประติมากรรม ผมคิดว่า ไม้ไผ่เป็นวัสดุที่เหมาะกับการสร้างผลงานประติมากรรมขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการแสดงศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการศิลปะในเวียดนามก็เพื่อสื่อผลงานประติมากรรมผ่านการเคลื่อนไหวร่างกายของศิลปิน ดังนั้นศิลปินจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงาน”

เพื่อแปรไอเดียดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม นาย Harry Tabak ได้ร่วมมือกับบรรดาศิลปินจากสโมสร Kinergie Studio ในกรุงฮานอย นาย เยืองดว่านแองมิง หนึ่งใน 3 ศิลปินที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวเผยว่า

“พวกเราพยายามทำความเข้าใจภาพถ่ายงานประติมากรรมไม้ไผ่เพื่อแสวงหาการเชื่อมโยงและความกลมกลืนกับการเคลื่อนไหวร่างกาย หลังจากนั้น เราก็คุยกันและหารือกับนาย Harry Tabak เพื่อจัดลำดับภาพที่ฉายประกอบการแสดง พวกเราใช้เวลา 1 สัปดาห์เพื่อฝึกเต้นรำประกอบดนตรีและภาพ”

นอกเหนือจากการสร้างผลงานประติมากรรมบนไม้ไผ่ นาย Harry Tabak ยังได้ถ่ายภาพผลงานประติมากรรมไม้ไผ่แล้วตกแต่งภาพให้ดูคมชัดมากขึ้นเพื่อจัดแสดงในงานนิทรรศการและใช้ประกอบการแสดงศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกาย

“ผลงานของผมสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวของประเทศเวียดนามจากมุมมองต่างๆ  ซึ่งคนเราชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆในชีวิต แต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อดูผลงานศิลปะเหล่านี้ก็จะสามารถเห็นชีวิตส่วนหนึ่งของเรา”

หลังจากที่งานนิทรรศการประติมากรรม ภาพถ่ายและศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกาย ณ กรุงฮานอยเสร็จสิ้นลง นาย Harry Tabak ได้มอบผลงานประติมากรรมไม้ไผ่พร้อมภาพถ่ายประติมากรรมและวีดีโอการแสดงศิลปะการเคลื่อนไหวร่างกายให้แก่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชนเผ่าเหมื่อง ขณะนี้ ถึงแม้นาย Harry Tabak ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐแล้ว แต่เขาก็มีแผนเดินทางมาเวียดนามอีกเพื่อพัฒนาโครงการศิลปะในรูปแบบใหม่นี้กับศิลปินเวียดนามในเวลาข้างหน้า.