(VOVWorld)-ในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกๆปี พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เวียดนามได้จัดกิจกรรมฉลองเทศกาลไหว้พระจันทร์ให้แก่เด็ก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยากศึกษาเกี่ยวกับการละเล่นพื้นเมืองและของเล่นพื้นเมืองของเวียดนาม ซึ่งกิจกรรมมีส่วนร่วมอนุรักษ์อาชีพพื้นเมืองที่กำลังจะถูกหลงลืม
การวาดหน้ากากกระดาษอัด
|
“หนูกำลังวาดอะไรจ๊ะ
หนูกำลังวาดหน้ากากเสือ เสือตัวนี้มีขนสีเหลืองและลิ้นสีแดงครับ”
หน้ากากกระดาษอัดรูปควายและเสือหลากหลายสีสันที่จัดแสดงบริเวณลานของพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เวียดนาม ได้รับความสนใจจากบรรดาผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ช่างศิลป์หว่างบ๊าเญิดกำลังสอนวิธีใช้พู่กันและสีน้ำเพื่อตกแต่งหน้ากากกระดาษอัดให้แก่เด็ก ๆ เขาเป็นช่างศิลป์คนเดียวในหมู่บ้านซองโห่ จังหวัดนามดิ๋งที่หลงไหลการทำหน้ากากกระดาษอัด ปีนี้ นายหว่างบ๊าเญิดอายุ๖๐ปีแล้ว ผมเริ่มหงอกและมีริ้วรอยที่หน้าผากแต่เมื่อมีโอกาสสอนวิธีการทำหน้ากากกระดาษอัดให้แก่เด็ก ๆ สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เมื่อเทศกาลไหว้พระจันทร์เวียนมาทุกปี นายเญิดก็จะมาที่พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เวียดนามเพื่อร่วมทำกิจกรรม “วัสดุที่ใช้ทำหน้ากากกระดาษอัดคือกระดาษและดินเหนียว ผมต้องทำหลายขั้นตอนตั้งแต่การนำกระดาษมาทากาวแล้วติดกันหลาย ๆ ชั้น หน้ากากกระดาษมีหลายแบบ เช่น เสือ ควาย หน้าคน เป็นต้น นอกเหนือจากหน้ากากพื้นเมืองแล้ว ผมก็ศึกษาสิ่งที่เด็กๆชอบเพื่อทำให้พวกเขา”
นั่งข้างๆลูก๒คน นาง เหงวียนบิ๊กถุ๋ยกำลังสอนวิธีระบายสีน้ำให้สวยให้แก่ลูกทั้ง 2 คนของเธอ “ปัจจุบัน เด็กๆ ชอบเล่นเกมส์และดูทีวี ดิฉันอยากให้ลูกรู้จักของเล่นพื้นเมืองต่างๆ โดยเฉพาะ ในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ ตอนเด็ก ดิฉันไม่มีโอกาสระบายสีหน้ากากแบบนี้ ลูกสองคนของดิฉันกำลังระบายสีหน้ากาก พวกเขาชอบมาก ดิฉันคิดว่า นี่เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์”
การทำโคมไฟหมุน
|
ข้างๆกลุ่มที่ทำหน้ากากกระดาษอัด นักศึกษาหลายคนพร้อมเด็ก๕-๖คนกำลังทำแด่นแก๊วกวนหรือโคมไฟหมุน ซึ่งเป็นของเล่นพื้นบ้านที่ไม่อาจขาดได้สำหรับเด็กเวียดนามเมื่อเทศกาลไหว้พระจันทร์เวียนมาทุกครั้ง โดยเด็ก ๆ กำลังติดกระดาษแก้วบนหน้าโคมไฟหมุนอันเล็ก “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำโคมไฟหมุน ตอนแรก ผมคิดว่า ทำง่ายแต่การติดกระดาษแก้วบนหน้าของโคมไฟทำยากเพราะต้องทำให้สวยที่สุด” นาย เหงวียนดึ๊กเหือง ช่างศิลป์ทำโคมไฟกำลังสอนวิธีการทำโคมไฟหมุนให้เด็ก ๆ พร้อมเล่าความหมายของโคมไฟชนิดนี้ให้ฟังว่า “โคมไฟหมุนมีตำนานว่า เนื่องจากไม่อยากให้แม่เสียใจ ลูกชายคนหนึ่งจึงได้ทำโคมไฟหมุนเพื่อให้แม่รู้สึกดีใจเมื่อลูกต้องไปทำงาน ปัจจุบัน พ่อแม่หลายคนซื้อของเล่นให้ลูกแต่ไม่อธิบายให้ลูกฟังถึงความหมายของของเล่นดังกล่าว เมื่อเด็กๆมาที่นี่ ผมเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังและอธิบายว่า ทำไมโคมไฟหมุนต้องวางแกนแนวตั้ง ๖อัน เพราะ ตามความเชื่อของคนในอดีต ใคร ๆก็มีพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่บุญธรรมและพ่อตาแม่ยาย การทำโคมไฟนี้ช่วยให้พวกเราไม่ลืมบุญคุณของพ่อแม่”
วิ่งกระสอบ
|
บรรยากาศที่คึกคักในเขตการละเล่นพื้นเมืองได้ดึงดูดความสนใจจากบรรดาผู้ชมและยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมการละเล่นพื้นเมืองต่างๆได้ เช่น หมากรุก วิ่งกระสอบหรือชักเย่อ เป็นต้น สำหรับผู้สูงอายุ นี่เป็นโอกาสให้พวกเขาหวนคิดถึงวัยเด็ก ส่วนสำหรับเด็กๆ นี่เป็นโอกาสที่ดีเพื่อให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับการละเล่นพื้นเมืองต่างๆ ท่ามกลางเสียงตีกลองเชียร์ที่ดังไปทั่วบริเวณ เด็ก๔คนกำลังเตรียมวิ่งกระสอบ ตามคำสั่งของพี่ๆ เด็กๆทุกคนต่างพยายามวิ่งให้เร็วที่สุด บนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อแต่ทุกคนก็รู้สึกมีความสุขและอยากเล่นอีก “หนูคิดว่า การวิ่งกระสอบยากมาก บางทีก็ล้ม ครั้งนี้ หนูได้อันดับที่๓แต่ครั้งหน้า หนูจะพยายามสให้ได้ที่ ๑”
“หนูดีใจมากและชอบการละเล่นพื้นเมืองมากๆ หนูหวังว่า ปีหน้า พ่อแม่จะพาหนูมาที่นี่อีก”
“มาที่นี่ หนูชอบเล่นชักกะเย่อมากที่สุดและมีโอกาสพบกับเพื่อนๆ หนูจะพยายามเรียนให้เก่งเพื่อให้พ่อแม่พาหนูมาที่นี่อีก”
เวลา ๒ชั่วโมงได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับบ้าน เด็กๆทุกคนต่างถือโคมไฟรูปดาว หน้ากากกระดาษอัดและโคมไฟหมุน ทุกคนต่างรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสลองทำของเล่นต่างๆ ปีหน้า พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์จะยังคงเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์เหมือนเช่นเคย.
การทำโคมไฟดาวห้าแฉก
|