งานเย็บปักถักร้อยบนชุดประจำชนเผ่านั้นเป็นขั้นตอนที่สตรีชนเผ่าหนุ่งให้ความสำคัญมาก เพราะดูจากผลงานที่ออกมาก็สามารถรู้เลยว่าสาวคนนั้นฝีมือดีแค่ไหนและตอนที่แต่งงานสินสอดที่สาวๆเผ่าหนุ่งนำติดตัวไปที่บ้านสามีก็คือหมอน ผ้าห่มและเสื้อผ้าต่างๆเป็นต้นที่พวกเขาทำเอง โดยเสื้อผ้าต่างๆใช้ผ้าย้อมครามพร้อมลวดลายประดับล้วนเป็นงานฝีมือ แม้จะมีการแบ่งกลุ่มตามท้องถิ่นต่างๆแต่โดยรวมแล้วชนเผ่าหนุ่งนิยมตัดชุดเสื้อผ้าใส่เอง นางนงถิฮวา ชาวหนุ่งที่อ.กาวหลก จ.หลางเซินเผยว่า“เมื่อก่อนเรายังปลูกฝ้ายเองเพื่อนำไปปั่นเป็นด้ายทอผ้า งานนี้เป็นหน้าที่ของสตรีในบ้าน แต่เดี๋ยวนี้ก็มีการประหยัดเวลาบางขั้นตอนด้วยการซื้อวัสดุสำเร็จรูปที่ตลาดแต่ที่สำคัญที่สุดคือการทำผ้าย้อมคราม”

ชาวเผ่าหนุ่งในเขตเขาตอนเหนือของเวียดนามมักจะใช้ผ้าย้อมครามเพื่อตัดชุด โดยแต่ละกลุ่มในแต่ละท้องถิ่นจะมีวิธีการเย็บปักถักร้อยเสื้อผ้าที่แตกต่างกันเพื่อสร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะให้แก่ชุดเสื้อผ้าของตน โดยหลังจากใช้กี่ทอผ้าเสร็จก็จะไปเอาต้นครามป่ามาแช่น้ำเพื่อทำสีย้อมผ้า  โดยใช้ต้นสดนำมาหมักในน้ำ 1-2 น้ำ ผสมด้วยปูนขาวแล้วสีน้ำเงินจะตกตะกอนอยู่ก้นภาชนะ กรองน้ำใสออกก็จะได้สีครามเข้มใช้ย้อมผ้า สำหรับการเย็บปักถักร้อยก็เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลาไม่น้อยและต้องมีความพิถีพิถันมากดังนั้นใครมีฝีมือในขั้นตอนนี้ผลงานที่ออกมาจะใช้ได้ทนนาน โดยลายปักส่วนใหญ่ที่พวกเขาชอบคือลายใบไม้และดวงตะวัน ใช้ด้ายที่มีหลายสีสันเพื่อทำให้เสื้อผ้านั้นดูสดใสมากขึ้น ชาวหนุ่งก็นิยมถักกระดุมติดบนเสื้อและนี่ก็เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานที่สุดเพราะต้องใช้เวลา3วันถึงจะเสร็จการติดกระดุมบนเสื้อ นอกจากนี้สิ่งของต่างๆที่ทำจากผ้าย้อมคราม เช่นปลอกหมอน ผ้าห่ม หรือผ้าโพกศีรษะก็มีลายปักที่ปราณีตเช่นกัน จิตรกร ด่าวถิเตวี๊ยน นักสะสมชุดชนเผ่าเผยว่า“ผ้าย้อมครามคือจุดเด่นที่สร้างเป็นเสน่ห์ของชุดแต่งกายชนเผ่าหนุ่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผ้าพื้นเมืองที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเวียดนาม แม้ลวดลายต่างๆออกมาให้เห็นอย่างเรียบง่ายแต่สีสันสดใสและความละเอียดอ่อนของฝีมือสาวเผ่าหนุ่งก็สามารถสร้างเป็นผลงานที่ดีเลิศแห่งภูมิปัญญาของชาวท้อนถิ่นที่ไม่ซ้ำกัน”

ส่วนนายเลืองวันเทียด เจ้าหน้าที่วิจัยเกี่ยวกับชนเผ่าหนุ่งของพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เวียดนามได้เผยว่า ในยุคแห่งการพัฒนาที่ทันสมัยปัจจุบันที่มีการผสมผสานด้านวัฒนธรรมในสังคมสมัยใหม่ก็มีหลายชนเผ่าที่เปลี่ยนมาใช้เสื้อผ้าแบบทันสมัยทั่วไปแทนชุดพื้นเมืองประจำชนเผ่าเพื่อความสะดวกในการทำงาน ซึ่งได้ทำให้อาชีพพื้นเมืองนี้เสี่ยงที่จะสูญหาย จากแนวโน้มดังกล่าว ชาวหนุ่งที่จังหวัดหลางเซินได้จัดตั้งสโมสรผลิตผ้าพื้นเมืองเพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองและให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งนี่ก็เป็นอีกวิธีการอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เอกลักษณ์ของชนเผ่าตนได้คงอยู่ต่อไป.