บ้าน จิ่งเตื่อง ล้อมรอบด้วยกำแพงหิน ในบริเวณบ้านที่สวนผักและต้นดอกท้อดอกพลัม |
ชนกลุ่มน้อยเผ่าม้งตั้งหลักแหล่งอาศัยในเขตเขาหิน ซึ่งสภาพอากาศที่ไม่อำนวยได้ส่งผลให้การออกแบบบ้านเรือนต้องมีความเหมาะสมและได้กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชนเผ่าตน โดยบ้าน จิ่งเตื่อง เป็นบ้านผนังดิน หลังคามุงหญ้าหรือใบจาก ซึ่งให้ความอบอุ่นหรือเย็นสบายตามสภาพอากาศแต่ละฤดูรวมทั้งยังสามารถป้องกันสัตว์ร้ายได้ด้วย ตามการบอกเล่าของชาวบ้าน เพื่อสร้างบ้านจิ่งเตื่องก่อนอื่นต้องใช้แม่พิมพ์ขนาดยาว1.5เมตร กว้าง 0.45เมตร-0.5เมตรเพื่ออัดดินเหนียวเข้ากันให้แน่นและจะทับต่อกันเป็นชั้นๆจนกว่าจะสามารถสร้างเป็นผนังที่ต้องการ ต่อจากนั้นจะใช้ไม้ตีทั้งด้านนอกและด้านในของผนังเพื่อให้ผิวผนังมีความเรียบเนียน เสร็จแล้วถึงจะวางคานมุงหลังคา ผนังที่ทำจากดินเหนียวนี้ยิ่งนานยิ่งแข็งเหมือนคอนกรีตและทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆมาเป็นร้อยๆปี หลังจากสร้างผนังเสร็จเจ้าของบ้านต้องเลือกวันเวลาที่มีฤกษ์ดีเพื่อวางคานบ้านและมุงหลังคา โดยรวมแล้วบ้าน จิ่งเตื่อง ของชาวม้งแม้จะใหญ่หรือเล็กก็ต้องมี3ห้องและประตูเข้าสองช่องและหน้าต่าง2ช่อง บางครอบครัวยังสร้างห้องรองเพิ่มเติมอยู่ข้างๆ การแบ่ง3ห้องหลักของบ้านก็มีความเหมาะสมเพื่อการใช้สอย โดยห้องซ้ายเป็นห้องครัวและที่นอนของเจ้าของบ้าน ห้องขวาเป็นที่ตั้งเตาเพื่อให้ความอบอุ่นในบ้านและที่นอนสำหรับแขก ห้องกลางซึ่งมีพื้นที่กว้างที่สุดเป็นที่ตั้งหิ้งบูชา เป็นที่รับแขกและรับประทานอาหาร คุณ ห่าถิเลียน นักท่องเที่ยวที่กำลังเยือนบ้านจิ่งเตื่องของนาย อย่างมี้สือ ชาวม้งที่อ.แหม่วหวากเผยว่า“เมื่อเข้าบ้านหลังนี้ดิฉันรู้สึกสบายมาก บรรยากาศด้านในค่อนข้างกว้าง หน้าห้องกลางมีลานกว้างที่ปูด้วยหินใช้เป็นลานเด็กเล่น ซึ่งทำให้ทั้งบ้านและสภาพแวดล้อมดูมีความสงบสุข”
|
ประตูหลักเข้าบ้านทำด้วยไม้เนื้อดีบานเปิดเข้าข้างใน ส่วนประกอบทุกอย่างของประตูต้องทำจากไม้ไม่ใช้เหล็กเพราะชาวบ้านถือว่า การใช้เหล็กหรือวัตถุที่เป็นโลหะแหลมคมไม่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมิตรของเจ้าของบ้าน ส่วนประตูรองของบ้านจะใช้นำสิ่งของต่างๆสำหรับผู้ที่เสียชีวิตเข้าออกบ้านในขณะจัดงานศพไม่ให้ผ่านประตูหลัก แต่เมื่อเคลื่อนโลงศพออกจากบ้านจะออกทางประตูหลัก
จุดเด่นอย่างหนึ่งของบ้านจิ่งเตื่องของชาวม้งคือทุกบ้านมีรั้วล้อมรอบที่ประกอบจากก้อนหินขนาดต่างๆที่วางทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ซึ่งกว่าจะสร้างรั้วบ้านล้อมรอบพื้นที่กว้าง200-300เมตรต้องใช้เวลาเป็นเดือนสำหรับการเก็บหินมาทำรั้วและไม่ต้องใช้สารอะไรเพื่อเชื่อมต่อ ประตูรั้วบ้านก็ทำจากไม้ มีหลังคาเล็กๆและมีการติดกระดาษสีแดงที่บานประตู ซึ่งทำให้รู้สึกมีความอบอุ่น นาย ถ่าจิงเจอ ชาวม้งที่แหม่วหวากเผยว่า“ชนเผ่าเราทำรั้วหินใหญ่และสูงเพื่อปกป้องบ้านและคนในครอบครัวจากสัตว์ร้าย นอกจากนั้นยังช่วยทำให้หน้าร้อนเย็นสบายส่วนหน้าหนาวก็มีความอบอุ่นขึ้นเพราะกันลมหนาวได้ดี”
ภายในบริเวณลานบ้าน ชาวม้งมักจะปลูกต้นท้อ ต้นพลัมที่ทั้งให้ความร่มเย็นและความสวยงามเมื่อถึงฤดูดอกไม้บาน ซึ่งสีแดงของดอกท้อ สีขาวของดอกพลัม สีน้ำตาลของบ้านจิ่งเตื่องและสีเทาของหินได้ผสมผสานเข้ากันอย่างกลมกลืนช่วยสร้างเป็นภาพที่สวยงามโดดเด่นท่ามกลางเขตที่ราบสูงหิน แม้กาลเวลาได้ผ่านไปหลายร้อยปีแต่ชาวม้งที่จังหวัดห่ายางยังคงพยายามใช้ความสร้างสรรค์เพื่อสร้างบ้านเรือนที่สอดคล้องกับธรรมชาติและสะดวกแก่การใช้สอยแต่ก็ยังสะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างสมบูรณ์.