(VOVWorld)-
ชนเผ่าโลโลหรือมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกหลายชื่อว่า หมุ่นยี หม่านยี ลาลา โอมาน ลูหลกหม่านส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่จังหวัด ห่ายางและกาวบั่ง ทางตอนบนประเทศเวียดนาม แม้จะเป็นชนเผ่าที่มีประชากรน้อยและอาศัยอยู่ร่วมกับชนเผ่าอื่นๆมานานมากแต่จนถึงปัจจุบันก็ยังคงรักษาคุณค่าเกียรติประวัติวัฒนธรรมของชนเผ่าตนไว้ได้
สาวชนเผ่าโลโล
|
ชนเผ่าโลโลเป็นหนึ่งในหลายชนเผ่าที่มาบุกเบิกตั้งถิ่นฐานในอำเภอด่งวัน จังหวัดห่ายางชนเผ่าโลโลในจังหวัดห่ายางมีสองสาขา คือชาวโลโลแดนและชาวโลโลฮวา ชาวโลโลแดนอาศัยอยู่ในตำบลลุ้งกู๊ส่วนชุมชนชาวโลโลฮวามีประชากรมากกว่าอาศัยอยู่ที่ตำบลลุ้งต๊าวสุงหล่าในอำเภอด่งวันและแหม่วหวาก ความแตกต่างของสองชาวเผ่านี้อยู่ที่ชุดแต่งกายเท่านั้น ส่วนเรื่องภาษาและขนบประเพณีเหมือนกัน วิถีชีวิตของชนเผ่าโลโลจะอยู่แยกกันเป็นหมู่บ้าน บ้านของชนเผ่าโลโลมีสองแบบคือบ้านเรือนไม้ยกพื้นหรือบ้านไม้ฝาผนังดินอัดมีรั้วก่อด้วยหินสูงหนึ่งเมตรล้อมรอบ หลังบ้านติดผาหินหน้าบ้านหันไปทางหุบเขาหรือท้องทุ่ง นายหล่อซี้ป้าวชาวโลโลเล่าว่า มองดูข้างนอก บ้านของชนเผ่าโลโลก็เหมือนกับชนเผ่าอื่นๆแต่เมื่อเดินเข้าไปในบ้านจะเห็นการตบแต่งบ้านต่างกันมาก“การสร้างบ้านจะแบ่งเป็นสามห้อง ตรงกลางห้องใหญ่สองข้างเป็นห้องเล็ก ขวามือเป็นห้องนอนของพ่อแม่ ห้องกลางเป็นห้องรับแขกหรือเป็นที่จัดพิธีแต่งงานหรืองานศพ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอนของลูกๆ ชั้นบนของบ้านเป็นห้องพักของแขกที่มาค้างและเป็นที่เก็บข้าว ข้าวโพด และมันสัมปหลัง”
ห้องกลางเป็นห้องใหญ่ที่สุดในบ้านจะมีแท่นบูชาบรรพบุรุษต้นตระกูลตั้งอยู่ตรงกลางหันหน้าออกทางประตูใหญ่เข้าบ้าน บนแท่นบูชามีตุ๊กตารูปคนทำจากไม้หรือกาบไผ่ สัญญลักษณ์ของบรรพบุรุษรุ่นต่างๆในตระกูลที่ได้รับการบูชา นอกจากนั้นชาวโลโลยังสักการะบูชาประธานโฮจิมินห์ผู้ล่วงลับผู้ก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามปัจจุบันคือประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม“ ในช่วงวันตรุษเต๊ดหรือวันงานสำคัญของชาติพวกเราจะจุดธูปเทียนรำลึกถึงประธานโฮจิมินห์ ที่ชาวโลโลถือท่านเป็นบรรพบุรุษต้นตระกูลของครอบครัว เพราะถ้าไม่มีประธานโฮจิมินห์ก็จะไม่มีชาวโลโลทุกวันนี้”
ในเรื่องขนบประเพณีการแต่งงานชนเผ่าโลโลก็ให้หนุ่มๆสาวๆมีสิทธิเสรีในการเลือกคู่ครอง เมื่อคู่หนุ่มสาวตกลงปลงใจกันแล้วฝ่ายชายก็จะเลือกสองคู่สามีภรรยาที่มีครอบครัวผาสุขเป็นพ่อสื่อแม่สื่อไปสู่ขอโดยความเชื่อว่าเพื่อให้คู่สามีภรรยาใหม่ก็จะมีความผาสุขและโชคดีในชีวิตคู่เช่นกัน ในวันแต่งงานฝ่ายเจ้าบ่าวจะแห่ขันหมากแต่งประกอบด้วยสินสอดของหมั้นตามที่ฝ่ายเจ้าสาวเรียกร้องไปที่บ้านน้าชายของเจ้าสาว ชาวเผ่าโลโลให้ความสำคัญต่อบทบาทของน้องชายแม่เจ้าสาวมากเพราะเป็นผู้ตัดสินทุกเรื่องในพิธีแต่งงานและการแบ่งทรัพย์สิน ถ้าพ่อแม่เสียชีวิตลูกจะต้องไว้ทุกข์หนึ่งปีหลังจากนั้นจึงจะจัดงานแต่งได้ เอกลักษณ์วัฒนธรรมที่โดดเด่นของชาวเผ่าโลโลคือชุดกลองทองแดงที่ใช้ตีในเทศกาลงานประเพณีต่างๆของชนเผ่าโดยถือว่ากลองทองแดงเป็นสิ่งศักสิทธิ์ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังชีวิตของชนเผ่าที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ
ชุดแต่งกายของชนเผ่าโลโล
|
ในโอกาสฉลองวันขึ้นปีใหม่จันทรคติตามประเพณี ชาวเผ่าโลโลจะจัดงานเทศกาลพื้นบ้านและการละเล่นต่างๆที่น่าชมเช่น งานกระโดดไม้ งานเก็บข้าวโพดและโดดเด่นที่สุดคือพิธีบวงสรวงขอฝน นายหล่อซี้ป้าวชาวโลโลเล่าเสริมว่า“พิธีบวงสรวงขอฝนจะจัดขึ้นในหน้าแล้งเดือน 3 ตามจันทรคติ โดยมีการเข้าร่วมของชาวบ้านอย่างพร้อมหน้าเพราะเป็นความปราถนาของทุกคนในหมู่บ้าน มีบางปีงานจะจัดขึ้นพร้อมๆกันทั้งชนเผ่าโลโลและชนเผ่าอื่นๆเพื่อขอฝนให้ทั้งพื้นที่เขตเขา”
ชุดแต่งกายของชนเผ่าโลโลนั้นมีลวดลายปราณีตและหลากหลายสีสันดูสวยสดงดงามเป็นพิเศษ ผู้ชายโลโลใส่กางเกงขายาวและเสื้อแขนยาวสีดำที่ชายกางเกงทับด้วยแถบผ้าปักลายสีแดงคาดเอวด้วยแถบผ้าสีฟ้าที่สองปลายแถบผ้ามีลายปักสีแดงและสีชมพูปล่อยห้อยไว้ข้างหน้าผ้าโพกหัวสีดำประดับแถบผ้าชิ้นเล็กๆอย่างสวยงาม ส่วนชุดแต่งกายของผู้หญิงนั้นมีสองแบบผู้หญิงโลโลแดนจะใส่เสื้อคอสี่เหลี่ยมไม่ผ่าอกรอบตัวเสื้อปักลายนก เสื้อแขนยาวปากกว้างเย็บด้วยแถบผ้าหลายสีต่อกันใส่เป็นชุดกับกระโปรงสีดำคลุมทับข้างหลังกระโปรงtด้วยผ้าปักสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผู้หญิงโลโลฮวาใส่เสื้อคอกลมผ่าอกแขนเสื้อก็เย็บด้วยแถบผ้าหลายสีต่อกันแต่งกับกางเกงขายาวปักลายล้วนๆ นาง สุ่งถิมิง อาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน สางป๋าอา เขตเทศบาลอำเภอแหม่วหวาก กล่าวว่า แม้จะมีความแตกต่างกันบ้างแต่ชุดแต่งกายของผู้หญิงสองเผ่านี้สวยงามมาก การตัดเย็บและปักลายต้องทำอย่างปราณีต ลายปักก็มีหลากหลายรูปแบบและสีสันจับตา เมื่อแต่งชุดประจำชนเผ่า ผู้หญิงโลโลจะเสริมความงามให้แก่ตนด้วยเครื่องประดับเงินและทอง“ ชุดแต่งกายของชนเผ่าโลโลนั้นทำยากมาก ถ้าขยันก็ต้องสองถึงสามปีจึงจะเสร็จชุดหนึ่ง การปักลายก็ต้องปักสีแดงก่อนแล้วตามด้วยสีขาวและสีชมพู ส่วนกางเกงของทั้งชายและหญิงทรงเหมือนกันจะต่างกันอยู่ที่ผู้ชายมีแถบผ้าคาดเอว ส่วนผู้หญิงมีผ้าปักคลุมทับข้างหลังกระโปรง”
ในด้านภาษาแม้จะมีประชากรน้อยแต่ชนเผ่าโลโลก็มีภาษาพูดและเขียนของตนเอง ซึ่งสมัยก่อนจะเขียนบนหนังสัตว์หรือแผ่นไม้ วัฒนธรรมพื้นบ้านของชนเผ่าโลโลนั้นก็มีความหลากหลายทั้งในการร้องเพลงพื้นเมือง การฟ้อนรำ การละเล่น เป็นต้นที่กำลังได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นมรดกตกทอดให้ชนรุ่นหลังสืบไป.