(VOVworld)- หนังสือประวัติศาสตร์โบราณของชนเผ่าเย้าถือเป็นมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นแหล่งข้อมูลที่จะนำไปสู่การค้นคว้าวัฒนธรรมที่ลึกลับของชาวเย้า โดยแต่ละชุมชนชาวเย้ายังคงเก็บรักษาหนังสือที่มีค่าเหล่านี้รวมหลายร้อยเล่ม
หนังสือโบราณต่างๆถือเป็นแหล่งรวมประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติต่อกันในสังคม
|
ชาวเย้าเรียกหนังสือประวัติศาสตร์โบราณของชนเผ่าตนว่า “เซา” ความหมายคือจดหมายและหนังสือ ซึ่งถูกเขียนด้วยตัวอักษรคล้ายภาษาฮั่นแต่ออกเสียงเป็นภาษาเย้า ซึ่งเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือต่างๆได้เล่าประวัติความเป็นมา การอบยพตั้งหลักปักฐานของบรรพบุรุษตลอดจนจิตใจแห่งความทรหดกล้าหาญในการพิชิตธรรมชาติเพื่อดำรงชีวิต การบันทึกเรื่องของตระกูลต่างๆ ตลอดจนการอธิบายเกี่ยวกับประเพณีการบูชา บ๋างเวือง บรรพบุรุษผู้ให้กำเนิดชนเผ่าเย้าซึ่งได้รับการยกย่องเป็นเทพเปี่ยนหุ่งซิงเตี๋ย
หมู่บ้านชนเผ่าเย้าแต่ละแห่งเปรียบเสมือนเป็นหอสมุดขนาดเล็กที่เก็บรักษาหนังสือประวัติศาสตร์โบราณต่างๆ โดยทุกตระกูลหรือทุกครอบครัวต่างก็มีหนังสือบันทึกกระบวนการพัฒนาเฉพาะของตน แต่มีส่วนหนึ่งที่มีเนื้อหาเหมือนกันคือ ได้ระบุรกรากของชาวเย้าทุกสาขาว่าล้วนเป็นบุตรหลานของบ๋างเวืองและมีความเชื่อ ภาษาและประเพณีต่างๆเหมือนกัน นอกจากนั้นเนื้อหาต่างๆในหนังสือโบราณนี้ยังแนะนำการปฏิบัติด้านความเลื่อมใสและพิธีกรรมต่างๆอีกด้วย นาย แจ่วต๋าฝุ่ง เลขาธิการหมู่บ้าน อู ซี สุ่ง ต.ต๋ายเฝ่ย เมืองลาวกาย จ.ลาวกายเผยว่า“หนังสือโบราณนั้นมีค่ามาก ซึ่งไม่เพียงเเต่แนะนำวิธีการดูวันเวลาที่มีฤกษ์งามยามดีเพื่อปลูกเรือนหรือแต่งงานเท่านั้นแต่ยังมีการแนะนำพิธีกรรมต่างๆตามประเพณีโบราณเช่นการปิดไฟและการจัดงานศพ”
หนังสือโบราณต่างๆถือเป็นแหล่งรวมประสบการณ์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติต่อกันในสังคม ความรู้ด้านดินฟ้าอากาศ สมุนไพรและการรักษาโรคแผนโบราณของชาวเย้า ตามความเชื่อของชาวเย้า ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวิญญาณและจะมีเทพเจ้าที่คอยดูแล ดังนั้นจะต้องมีพิธีกรรมเซ่นไหว้เทพต่างๆ เช่นพิธีเซ่นไหว้เทพแห่งฝน เทพแห่งข้าว หรือเทพแห่งสัตว์เลี้ยงต่างๆ นาย เเจ๋วต๋าฝุ่ง เผยวว่า“พิธีต่างๆได้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือโบราณและถ้ารู้ภาษาเย้าก็สามารถอ่านได้และปฏิบัติตามได้ ซึ่งทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนที่เขียนในหนังสือไม่มีการปรับเปลี่ยน”
ชาวเย้าเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่มีทั้งภาษาเขียนและภาษาพูดเฉพาะของชนเผ่าตน
|
ในด้านภาษานั้น ชาวเย้าเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่มีทั้งภาษาเขียนและภาษาพูดเฉพาะของชนเผ่าตนเพื่อช่วยรักษาคุณค่าแห่งวัฒนธรรมให้มีการพัฒนายั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและใช่ว่าทุกชนเผ่าจะสามารถทำได้ นายฟานเกิ๋มเถืองเผนว่า“หนังสือโบราณของชาวเย้าทำจากกระดาษชนิดพิเศษของชนเผ่า โดยใช้วัตถุดิบคือฟางและขั้นตอนการทำก็คล้ายกับการทำกระดาษสา หนังสือแต่ละเล่มจัดทำเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมและใช้พู่กันในการเขียน แต่ละเล่มมีตัวอักษรประมาณ3-4พันตัวรวมกันเป็นหลายสิบหน้ากระดาษ เช่นหนังสือทำนาย หนังสือเรียนพิธีกรรมทางศาสนา หนังสือการแพทย์ หนังสือแนะนำเอกลักษณ์พิเศษของชาวเย้าเพื่อใช้เป็นหลักระเบียบการเมื่อชาวเย้าอพยพไปยังท้องถิ่นอื่นๆ”
เป็นอันว่าชีวิตวัฒนธรรมและสังคมของชาวเย้าล้วนถูกระบุในหนังสือโบราณเหล่านี้ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์เกียรติประวัติของบรรพบุรุษเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมเพิ่มความหลากหลายให้แก่วัฒนธรรมของเวียดนามอีกด้วย./.