(VOVworld) - ให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจภาคเอกชนคือเนื้อหาใหม่ในร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่12 ในการแสดงความคิดเห็นต่อปัญหานี้ ผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้แสดงความเห็นว่า ต้องสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่เสมอภาคให้แก่สถานประกอบการภาคเอกชนเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ
|
สถานประกอบการภาคเอกชน มีกำลังแรงงานคิดเป็นร้อยละ 51 ของประเทศถือเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อผลักดันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมาโดยทุกปี ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อรายรับงบประมาณ เพิ่มมูลค่าการส่งออกและแก้ไขปัญหาสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นสร้างงานทำและแก้ปัญหาความยากจน
มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ
ปัจจุบัน มีสถานประกอบการภาคเอกชนเวียดนามประมาณ 5 แสนแห่งกำลังจ้างแรงงานประมาณ 1.2 ล้านตำแหน่ง มีส่วนร่วมกว่าร้อยละ 40 ของจีดีพีในทุกปี นาย หวิ่ง เหงียน เถี่ยน รองผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนเหล็กกล้า Vina One จังหวัดลองอานได้แสดงความเห็นว่า การถือเศรษฐกิจภาคเอกชนคือพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่ถูกระบุในร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 12 แสดงให้เห็นว่า พรรคและรัฐรับรู้ถึงส่วนร่วมของเศรษฐกิจภาคเอกชนต่อภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ“พรรคและรัฐได้มีนโยบายต่างๆเพื่อผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจภาคเอกชน สถานประกอบการภาคเอกชนภายในประเทศมีความคล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ร่วมกันสามัคคีภายใต้การนำของพรรค รัฐบาลและรัฐ ดังนั้น สถานประกอบการได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีเพื่อสนับสนุนให้แก่การขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการส่งออกสินค้าหลายรายการไปยังต่างประเทศ”
ในการเห็นพ้องกับร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12โดยถือเศรษฐกิจภาคเอกชนคือพลังขับเคลื่อนผลักดันภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ นาย เจิ่นแองเวือง อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการรุ่นใหม่เวียดนามได้ย้ำถึงการต้องมีนโยบายที่เหมาะสมเพื่อสร้างก้าวกระโดดให้แก่กลุ่มสถานประกอบการภาคเอกชนในภารกิจการสร้างสรรค์ประเทศ“การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยก่อนๆได้กล่าวถึงเศรษฐกิจภาคเอกชนและสามารถยืนยันได้ว่า เศรษฐกิจภาคเอกชนถือเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเพราะในทุกที่ เศรษฐกิจเชิงตลาดได้พิสูจน์ให้เห็นว่า มีแต่การพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนเท่านั้นที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาต่อไปได้ ภาคเอกชนเป็นภาคที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาเศรษฐกิจ”
เศรษฐกิจภาคเอกชนคือพลังขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศ
|
เศรษฐกิจภาคเอกชนมีบทบาทเป็นพลังขับเคลื่อน
ถึงแม้มีสถานประกอบการเอกชนจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่คือสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ขีดความสามารถในการแข่งขันและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับต่ำ ความสามารถในการบริหารยังมีข้อจำกัดซึ่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้เศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนามากขึ้น นาย เหงียนวันเดะ นายกสมาคมผู้ประกอบการจังหวัดแทงฮว้าได้แสดงความเห็นว่า“ผมขอเสนอว่า เอกสารของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ต้องระบุอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของแนวทาง นโยบายต่อสถานประกอบการและเอกชนในเศรษฐกิจเชิงตลาด เมื่อจัดทำนโยบายไม่เพียงแต่มีการเข้าร่วมของกระทรวงและหน่วยงานเท่านั้น หากต้องมีการเข้าร่วมของของสมาคมที่เกี่ยวข้องและสถานประกอบการ ดังนั้น นโยบายจึงจะได้เข้าสู่ชีวิตอย่างแท้จริง”
นาย หวูเตี๊ยนโหลก ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้แสดงความเห็นว่า การที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจภาคเอกชน ถือเศรษฐกิจภาคเอกชนเป็นพลังขับเคลื่อนของภารกจิการพัฒนาประเทศเป็นสิ่งที่ถูกต้อง“ต้องยืนยันถึงบทบาทเป็นพลังขับเคลื่อนของเศรษฐกิจภาคเอกชนเพราะเศรษฐกิจภาคเอกชนคือภาคของปวงชน ต้องมีความเชื่อมั่นต่อประชาชนและภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจของประชาชน รัฐต้องทำหน้าที่จัดทำนโยบายและเป็นแนวหลังที่มั่นคงของประชาชนและภารกิจการพัฒนาเศรษฐกิจของประชาชนทุกชั้นชน”
สถานประกอบการคือกองกำลังหลักในการพัฒนาประเทศ พรรคและรัฐได้พยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจเพื่อให้สถานประกอบการ รวมทั้งสถานประกอบการภาคเอกชนพัฒนา ให้ความสำคัญต่อบทบาทของเศรษฐกิจภาคเอกชนต่อไปตามที่ถูกระบุในร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ซึ่งจะสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เศรษฐกิจภาคเอกชนพัฒนาต่อไป.