นาย บุนทอง จิดมะนี รองประธานประเทศลาวกล่าวปราศรัยในพิธีฉลองครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 45 ปีวันลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนาม – ลาวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย (VNA) |
ผลสำเร็จที่โดดเด่นในตลอด 60 ที่ทั้งสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตคือร่วมกันต่อต้านศัตรูผู้รุกรานเพื่อช่วงชิงเอกราชและปลดปล่อยประเทศชาติในปี 1975 หลังจากนั้นสองปี คือปี 1977 เวียดนามและลาวได้ลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สร้างพื้นฐานให้แก่การลงนามในข้อตกลงร่วมมือในทุกด้านฉบับต่างๆในช่วงเวลาต่อมา
ผลสำเร็จแห่งความร่วมมือ
จิตใจแห่งความสามัคคีและการช่วยเหลือจุนเจือกันได้แสดงให้เห็นถึงการสานต่อของพันธมิตรเวียดนาม – ลาวในตลอด 60 ปีที่ผ่าน ทั้งในแนวรบทางทหารและการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านการเมืองได้รับการทำนุบำรุงและยกระดับจาก “ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านาน” ขึ้นเป็น “ความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ซึ่งช่วยกำหนดแนวทางให้แก่ความร่วมมือในด้านอื่นๆ
ในด้านการต่างประเทศ การประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพได้ช่วยยกระดับสถานะของทั้งเวียดนามและลาวบนเวทีระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งมีส่วนร่วมต่อการเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพและการพัฒนาของประชาคมอาเซียน
ส่วนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจก็ได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ โดยมูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ในเลขสองหลักในหลายปีมานี้ ใน 7 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุเกือบ 949 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วและเวียดนามอยู่อันดับที่ 3 ในจำนวนประเทศที่ลงทุนในลาว รวมเงินทุนจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในความร่วมมือด้านการศึกษาและฝึกอบรม ซึ่งเป็นความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศและความร่วมมือในด้านวัฒนธรรม สาธารณสุข คมนาคมการขนส่งและพลังงานนับวันได้รับการเสริมสร้างและผลักดันอย่างเข้มแข็ง โดยในหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามได้รับนักศึกษาลาวจำนวนมากมาศึกษาในเวียดนาม โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาลาวกว่า 50,000 คนมาศึกษาในเวียดนาม ความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนนับวันมีความแน่นแฟ้น
จิตใจแห่งความสามัคคีและผลสำเร็จที่ได้บรรลุในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้แก่ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจสังคม สร้างสรรค์และปกป้องปิตุภูมิของแต่ละประเทศเท่านั้น หากยังมีส่วนร่วมต่อการธำรงบรรยากาศแห่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลกอีกด้วย
ในการกล่าวปราศรัยในพิธีฉลองครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 45 ปีวันลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนาม – ลาวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย นาย บุนทอง จิดมะนี รองประธานประเทศลาวได้กล่าวว่า
“เรามีความยินดีเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่า ถึงแม้สถานการณ์ในภูมิภาคโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและรวดเร็ว บวกับความยากลำบากของทั้งสองประเทศ แต่ความสัมพันธ์พิเศษระหว่างเวียดนามกับลาวยังคงได้รับการกระชับให้กว้างลึกมากขึ้น ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากความสัมพันธ์ด้านการเมือง กลาโหม ความมั่นคงและการต่างประเทศ ความสัมพันธ์อย่างรอบด้านในด้านเศษฐกิจ การค้า การลงทุนและด้านอื่นๆ ต่างได้รับการปรับปรุงและเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองประเทศ”
ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก กล่าวปราศรัยในการเยือนประเทศลาวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021 (VNA) |
ร่วมกันพัฒนาอย่างเข้มแข็ง
ในสภาวการณ์ที่โลกและภูมิภาคมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ซึ่งยากที่จะคาดเดาได้ ผู้นำของทั้งสองประเทศได้กำหนดว่า จำเป็นต้องสามัคคี ผูกพันใกล้ชิดและขยายความร่วมมือในทุกด้านต่อไปเพื่อร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค ปกป้องและทำนุบำรุงความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านเวียดนาม – ลาว ในการกล่าวปราศรัยในการเยือนประเทศลาวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021 ท่าน เหงียนซวนฟุ๊ก ประธานประเทศเวียดนามได้ถึงการยกระดับเสาหลักความร่วมมือด้านเศรษฐกิจด้วยก้าวกระโดดใหม่ๆ ให้สมกับความร่วมมือมิตรภาพพิเศษระหว่างสองประเทศ
“เรามีความร่วมมือกันเพื่อช่วยให้เราเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น จากประสบการณ์และบทเรียนในตลอด 35 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม ผมเห็นว่า ทั้งสองประเทศควรมีความคิดเกี่ยวกับความร่วมมือใหม่ๆ มาตรการที่เข้มแข็งที่มีลักษณะเชิงก้าวกระโดดอย่าง “พิเศษ” เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ ผลักดันการค้า การลงทุนและการประกอบธุรกิจมากขึ้น ลาวและเวียดนามควรเป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก โดยใช้แหล่งพลังจากภายนอกเพื่อพัฒนาประเทศ ถ้าหากเราขยายความร่วมมือ สินค้าและการบริการทั้งของลาวและเวียดนามก็จะสามารถเจาะตลาดใหญ่ๆและเพิ่มความหลากหลายในหุ้นส่วนอีกด้วย ถ้าหากร่วมกัน เราจะพัฒนาอย่างเข้มแข็ง”
เพื่อพัฒนาประเทศ ทั้งเวียดนามและลาวต่างมุ่งสู่การขยายการเชื่อมโยงในด้านการคมนาคม พลังงาน โทรคมนาคม เป็นต้น โดยมีการพัฒนาเส้นทางข้ามพรมแดนทางทิศตะวันออก – ตะวันตก ทั้งทางบกและทางรถไฟ โดยสินค้าของลาวสามารถส่งผ่านท่าเรือเวียดนามได้ทุกท่าเรือ โดยในตอนแรกของความร่วมมือนี้ จะมีการก่อสร้างท่าเรือระหว่างประเทศลาว – เวียดนามในภาคกลางของเวียดนาม ดังนั้น จากการเป็นประเทศที่ไม่มีทะเล หลังจากที่ร่วมมือกับเวียดนาม ลาวสามารถส่งออกผ่านทางทะเลไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคและโลก
การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1962 ได้เปิดหน้าใหม่ในภารกิจการสร้างสรรค์และขยายความสัมพันธ์เวียดนามกับลาว และประชาชนทั้งสองประเทศยังคงพยายามทำนุบำรุงต่อไปดั่งคำประกาศของท่านเลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่อง ในพิธีรำลึกครบรอบ 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและ 45 ปีวันลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า “ไม่ว่าโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นไร แต่เรายังคงตั้งใจร่วมกันธำรงและส่งเสริมความสัมพันธ์พิเศษที่ซื่อสัตย์นี้ให้คงอยู่ตลอดกาล”.