บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วม การประชุมระดับรัฐมนตรีขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (VBC) |
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นภายใต้หัวข้อ “ผลักดันและธำรงสันติภาพผ่านการให้ความเคารพกฎหมายสากล” โดยได้หารือถึงสถานการณ์โลกในปัจจุบัน รวมทั้งโอกาสและความท้าทายต่างๆสำหรับขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เช่น อำนาจทางการเมืองของประเทศมหาอำนาจ การที่ประเทศเล็กถูกแทรกแซงกิจการภายในและนโยบายที่สร้างความแตกแยกเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามแผนการของประเทศมหาอำนาจ
บทบาทของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้รับการจัดตั้งเมื่อ 58ปีก่อนท่ามกลางกระแสการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติต่างๆในทั่วโลกและภาวะสงครามเย็นที่กำลังบานปลายโดยประเทศที่เพิ่งได้รับเอกราชถึงแม้จะมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเลื่อมใสศรัทธาและระบอบการเมืองสังคม แต่ประเทศเหล่านี้ต้องการสร้างความสามัคคีกันในขอบเขตที่กว้างใหญ่เพื่อสนับสนุนกันในการรักษาเอกราชทางเมือง ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างอิสระ ต่อต้านสงคราม รักษาสันติภาพเพื่อการคงอยู่และการพัฒนาประเทศ
ในสภาวการณ์โลกในปัจจุบัน ประเทศสมาชิกของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและประเทศที่กำลังพัฒนากำลังต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและผลกระทบในทางลบจากกระบวนการโลกาภิวัตน์ พร้อมทั้งต้องแก้ไขปัญหาที่สำคัญต่างๆ เช่น ปัญหาความอดอยากยากจน ปัญหาความไร้เสถียรภาพทางสังคม ความขัดแย้งทางเชื้อชาติ ศาสนาและปัญหาระดับโลกอื่นๆ นอกจากนี้ ประเทศที่กำลังพัฒนาหลายประเทศยังต้องเผชิญกับอิทธิพลจากประเทศมหาอำนาจ นโยบายในเชิงบังคับและการถูกแทรกแซงจากภายนอก ทั้งนี้ ปัญหาต่างๆภายในกลุ่มและแรงกดดันจากภายนอกต่อสมาชิกในกลุ่มทำให้การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเบี่ยงเบนไปจากเป้าหมายและหลักการขั้นพื้นฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากจุดยืนเกี่ยวกับการแก้ไขการปะทะในภูมิภาค ท่าทีต่อปัญหาที่อ่อนไหว โดยเฉพาะการไม่เคารพหลักการเกี่ยวกับเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ
เอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊กล่าวปราศรัยในการประชุม (VBC) |
เวียดนามมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อการพัฒนาขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ในสภาวการณ์ดังกล่าว เอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊ หัวหน้าคณะผู้แทนถาวรของเวียดนามประจำสหประชาชาติได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการประชุมครั้งนี้ โดยเอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊ได้ย้ำถึงความสำคัญของการขยายความเป็นเอกภาพและความสามัคคีของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกส่งเสริมหลักการขั้นพื้นฐานของกลุ่ม โดยเฉพาะหลักการเกี่ยวกับเอกราช การไม่ยอมถูกกดดันและการถูกแทรกแซงจากภายนอก แม้กระทั่งจากประเทศมหาอำนาจและไม่ปล่อยให้ประเทศมหาอำนาจแทรกแซงกิจกรรมต่างๆของกลุ่ม สำหรับแนวทางการพัฒนาขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในอนาคต เอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊ได้เสนอให้ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดส่งเสริมบทบาทเดินหน้าในการปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายสากล การเคารพคำมั่นและข้อตกลงระหว่างประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ ระบบการค้าพหุภาคีที่เปิดกว้าง ยุติธรรม โปร่งใส บนพื้นฐานของกฎหมายเพื่อค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์ของประเทศที่กำลังพัฒนา
สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสถานการณ์ในทะเลตะวันออก เอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊ได้ชื่นชมบทบาทของอาเซียนในการกระชับความร่วมมือและการสนทนา การรักษาบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ การค้ำประกันการเดินเรือและการบินอย่างเสรีในภูมิภาค การแก้ไขปัญหาการพิพาทด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้งกฎบัตรของสหประชาชาติและอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล ให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและกฎหมาย ปฏิบัติแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีอย่างสมบูรณ์ ส่งเสริมการเจรจาเพื่อมุ่งสู่การบรรลุร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซีที่มีประสิทธิภาพ จริงจังและสอดคล้องกับกฎหมายสากล เอกอัครราชทูตดั่งดิ่งกวี๊เรียกร้องให้ประเทศต่างๆใช้ความอดกลั้น ไม่มีปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวและปฏิบัติการทางทหารในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งกล่าวถึงสถานการณ์การเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆนี้ในทะเลตะวันออกและเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกในกลุ่มทำความเข้าใจและสนับสนุนทัศนะร่วมของอาเซียน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงการให้ความเคารพกฎหมายสากลและความสามัคคีกับประเทศต่างๆในภูมิภาค
หลังจากเข้าเป็นสมาชิกขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดเมื่อปี 1976 เวียดนามได้มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งและประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความสามัคคีภายในกลุ่ม มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อเป้าหมายสันติภาพ เอกราชของประชาชาติต่างๆ ประชาธิปไตย ความก้าวหน้าทางสังคมและการพัฒนา การประชุมระดับรัฐมนตรีขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่มีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 กรกฎาคม ณ กรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลาเป็นการยืนยันให้เห็นถึงคำมั่นของเวียดนามที่ต้องการมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดบนเจตนารมณ์ของการยืนหยัดปฏิบัติตามหลักการขั้นพื้นฐานของกลุ่ม ซึ่งสิ่งนี้มีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งในสภาวการณ์ที่เวียดนามจะปฏิบัติหน้าที่สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021เพื่อมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก.