ศาสตราจารย์ Hidetoshi Nishimura ประธานสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออก |
ปี2017ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของเวียดนามในทุกด้าน รวมทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมและการยกระดับสถานะของประเทศบนเวทีโลก บรรดานักการทูตและนักลงทุนชาวต่างชาติได้ให้ข้อสังเกตว่า ในปี2018 เวียดนามจะมีโอกาสและความได้เปรียบอีกมากมายเพื่อสานต่อผลสำเร็จดังกล่าว
เศรษฐกิจที่คล่องตัวในอาเซียน
เมื่อปลายปี2017 สำนักข่าวเศรษฐกิจและการเงินชั้นนำของโลกBloomberg News ได้ลงบทความที่ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามกำลังกลายเป็นตัวอย่างในการพัฒนาเศรษฐกิจของอาเซียน โดยยืนยันว่า เวียดนามเป็นตัวอย่างของประเทศที่ปรับเปลี่ยนจากการผลิตเกษตรมาเป็นการผลิตอุตสาหกรรม โดยมีจุดเด่นคือหน่วยงานการบริการและการท่องเที่ยว
ศาสตราจารย์ Hidetoshi Nishimura ประธานสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกได้ให้ข้อสังเกตในโอกาสที่เดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อปี2017 ว่า “อาเซียนนับวันดึงดูดความสนใจของประชาคมโลก โดยเฉพาะ เวียดนาม บรรดาสถานประกอบการรายใหญ่ของโลกได้เข้ามาประกอบธุรกิจในเวียดนามและสถานประกอบการเวียดนามได้ใช้โอกาสจากอาเซียนไม่เพียงแต่ในด้านการผลิตเท่านั้นหากรวมถึงการบริการและการท่องเที่ยวอีกด้วย ดังนั้น เวียดนามต้องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อใช้โอกาสและพวกเรามีความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะประสบความสำเร็จในด้านนี้”
จากแนวทางการพัฒนาที่ชัดเจนของรัฐบาล เวียดนามมีหลายปัจจัยเพื่อกลายเป็นเศรษฐกิจที่คล่องตัวและพัฒนาในภูมิภาค นาง Rhayu Saraswati ส.ส.ของอินโดนีเซียที่เดินทางมาเยือนเวียดนามในปี2017ได้แสดงความประทับใจต่อการพัฒนาของเวียดนาม โดยเผยว่า เวียดนามได้ยืนยันถึงศักยภาพการพัฒนาและกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของบรรดานักลงทุนต่างชาติ “ดิฉันเห็นว่า เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่าประทับใจ มาเวียดนามครั้งนี้ ดิฉันสามารถมองเห็นถึงการพัฒนาอย่างข้ามขั้นของเวียดนาม โดยเฉพาะ ในด้านเศรษฐกิจที่ดึงดูดนักลงทุนเป็นจำนวนมาก จากบรรยากาศการลงทุนและนโยบายที่เปิดเผย เวียดนามมีโอกาสมากมาย พวกเราจะแสวงหาโอกาสการลงทุนในเวียดนาม”
นาง Rhayu Saraswati ส.ส.ของอินโดนีเซีย |
ศักยภาพของการขยายตัว
เมื่อเดือนกันยายนปี2017 ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือWEF ได้ประกาศรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกในช่วงปี2017-2018 โดยดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจเวียดนามในปี2017 เลื่อนขึ้น5อันดับเมื่อเทียบกับปี2016และเลื่อนขึ้น20อันดับเมื่อเทียบกับ5ปีก่อน ตามการประเมินของธนาคารการพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี เศรษฐกิจเวียดนามได้พัฒนาอย่างน่าประทับใจในปี2017 ในสภาวการณ์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆและเศรษฐกิจเวียดนามยังคงจะบรรลุผลงานที่น่ายินดีในปี2018นี้ต่อไป นาย Aaron Batten ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของเอดีบีได้เผยว่า “เอดีบีเห็นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะบรรลุร้อยละ6.7ในปี2018 โดยการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามมาจากการเพิ่มเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศและการส่งออก คาดว่า อัตราการส่งออกของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นร้อยละ10และเวียดนามยังถูกมองว่าจะมีบทบาทเป็นพลังขับเคลื่อนในการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนในเวลาที่จะถึง”
บรรดาผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้ให้ข้อสังเกตว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี1990รองจากจีน ถ้าหากธำรงอัตราการขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพในอีกหลายปีข้างหน้า เวียดนามจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย
การกลายเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในนโยบายการต่างประเทศของหลายประเทศ
จากการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ การยกระดับสถานะของประเทศบนเวทีโลก เวียดนามนับวันยิ่งได้รับความสนใจจากหุ้นส่วนต่างๆ เอกอัครราชทูตจีนประจำเวียดนาม หงเซียวหยุง ได้ให้ข้อสังเกตว่า “เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ6.8 โดยสามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยเฉพาะ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการจัดสัปดาห์ผู้นำเอเปก ซึ่งช่วยยกระดับสถานะและบทบาทของเวียดนามบนเวทีโลก ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าประทับใจมาก จีนพร้อมที่จะร่วมเวียดนามผลักดันความร่วมมือและการเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา”
“สถานประกอบการและสังคมมีความสงบสุข ความมั่นคงและความปลอดภัยได้รับการรักษา ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะ คนยากจนต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เศรษฐกิจต้องมีความเข้มแข็งมั่นคงเพื่อรับมือกับความผันผวนครั้งใหญ่” คำยืนยันนี้ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามในสาส์นต้นปีใหม่2018 เป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่เพื่อนมิตรชาวต่างชาติต่อเวียดนาม จากจุดแข็งที่มีประชากร95ล้านคนและผลสำเร็จที่ได้บรรลุภายหลัง30ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เวียดนามจะมีก้าวเดินที่มั่นคงเพื่อพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน.