สะพานเหญิตเติน - สัญลักษณ์แห่งการพัฒนาของกรุงฮานอย (Photo: news.zing.vn)

อัตราการขยายตัวด้านเศรษฐกิจและการค้าของโลกในปี 2018 ได้รับการพยากรณ์ว่า จะสูงกว่าในปี 2017 ซึ่งเอื้อให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจและการส่งออกของประเทศต่างๆ รวมถึงเวียดนาม โดยเวียดนามจะปฏิบัตินโยบายพัฒนาเศรษฐกิจมหภาค เข้าร่วมฟอรั่มระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็งและผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการพัฒนาประเทศเวียดนามในปี 2018

เศรษฐกิจเวียดนามมีสัญญาณที่สดใสมากขึ้น

ทุกสัญญาณและตัวเลขต่างๆได้แสดงให้เห็นว่า บรรยากาศการประกอบธุรกิจและโอกาสการพัฒนาของเวียดนามในปี 2018 จะดีกว่าปี 2017  ซึ่งปี 2018 และปีต่อๆไปอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อให้สถานประกอบการเอกชนขยายขอบเขตหลังจากที่รัฐบาลประกาศโครงการปฏิบัติมติของคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 5 เกี่ยวกับการปรับปรุงกลไกเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมและการพัฒนาเศรษฐกิจเอกชน นอกจากนี้ สถานประกอบการก็จะได้รับประโยชน์จากความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการในปี 2017

ควบคู่กันนั้น กฎหมายการสนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปี 2018  ส่วนในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 5 ในเดือนพฤษภาคมปี 2018 จะมีการอนุมัติร่างกฎหมายว่าด้วยเขตราชการ-เศรษฐกิจพิเศษสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๓ แห่งคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เวินโด่นในจังหวัดกว๋างนิง เขตเศรษฐกิจพิเศษเวินฟองในจังหวัดแค้งหว่าและเขตเศรษฐกิจพิเศษฟู้ก๊วกในจังหวัดเกียนยาง ซึ่งการอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกและสร้างกรอบทางนิตินัยเพื่อสนับสนุนนักลงทุนพัฒนาการผลิตและประกอบธุรกิจ

ในปี 2018 เวียดนามจะผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึกมากขึ้นเนื่องจากบรรยากาศการประกอบธุรกิจได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยสถานประกอบการเวียดนามสามารถเข้าถึงนักลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น นาย เหงวียนดิ่งกุง หัวหน้าสถาบันวิจัยและบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางได้กล่าวถึงศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2018 ว่า“เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจในปี 2018 อย่างแน่นอน ซึ่งถ้าหากรัฐบาลเวียดนามทำการปฏิรูปอย่างกว้างลึกและรวดเร็วมากขึ้น ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่สำคัญในปี 2018 คือต้องทำการปฏิรูปมากขึ้นเพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาในปีต่อๆไป”

ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้ตั้งความหวังต่อการพัฒนาประเทศเวียดนาม นาย Sebastian Eckardt ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของธนาคารโลกได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จากแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่สดใสมากขึ้น ประเทศเวียดนามจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆในปี 2018 ได้ ส่วนนาง Eugenia Victorino ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจของบริษัท ANZ เขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เผยว่า เวียดนามคือประเทศที่ดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไออย่างมีประสิทธิภาพในปี 2017 และในปีต่อๆไป ส่วนนาง Caitlin Wiesen ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ UNDP ประจำเวียดนามได้ให้ข้อสังเกตว่า“เวียดนามคือหนึ่งในเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในภูมิภาคและหวังว่า เวียดนามจะยังคงรักษาอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งการเพิ่มผลผลิตและขีดความสามารถในการแข่งขันคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด จากมุมมองของสหประชาชาติ พวกเราจะประเมินการพัฒนาของเวียดนามในด้านต่างๆ เช่น การลงทุน การศึกษาระดับอุดมศึกษาและการสร้างงานทำ”

กรุงฮานอยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Photo: news.zing.vn)

ยกระดับสถานะด้านการต่างประเทศ

เพื่อสานต่อความสำเร็จของปีเอเปก 2017 ในปี 2018 สถานะของเวียดนามจะได้รับการยกระดับผ่านการเป็นเจ้าภาพจัดฟอรั่มรัฐสภาเอเชีย-แปซิฟิก หรือ  APPF ครั้งที่ 26 จากหัวข้อ “ความสัมพันธ์หุ้นส่วนระหว่างรัฐสภาเพื่อสันติภาพ ความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” APPF 26 จะยืนยันถึงคำมั่นของรัฐสภาประเทศต่างๆในการกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการพัฒนาในภูมิภาค นอกจากนี้ เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลก – อาเซียน หรือ WEF-ASEAN นาย ดั่งดิ่งกวี๊ รัฐมตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า“จากการจัดกิจกรรมดังกล่าวที่มีผู้แทนต่างชาติ หลายพันคน รวมถึงผู้บริหารเครือบริษัทระดับโลกและที่ปรึกษาด้านนโยบายเข้าร่วม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมด้านการต่างประเทศที่สำคัญของเวียดนามในปี 2018 ดังนั้น จะช่วยให้เวียดนามธำรงและดึงดูดความสนใจจากเครือบริษัทและสถานประกอบการของประเทศต่างๆ อีกทั้งสร้างโอกาสการเชื่อมโยงกับสถานประกอบการทั่วโลก”

ในปี 2018 นอกเหนือจากโอกาสและความสะดวกต่างๆ เวียดนามก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคไม่น้อย แต่จากความสำเร็จต่างๆในปี 2017 และการใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ มั่นใจว่า เวียดนามจะสามารถแปรโอกาสให้เป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมในปี 2018ได้สำเร็จ.