เน้นความมุ่งมั่นและแหล่งพลังให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

Thu Hoa
Chia sẻ
(VOVWORLD) -การประชุมประจำปีเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในการประชุมที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลในปีนี้ที่จัดโดยสภาแห่งชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันได้มีขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ณ กรุงฮานอย ในการประชุม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ยืนยันอย่างเข้มแข็งว่า เวียดนามจะเน้นความมุ่งมั่น นโยบายและแหล่งพลังให้แก่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนมากขึ้นในทศวรรษหน้า
เน้นความมุ่งมั่นและแหล่งพลังให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1 นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เข้าร่วมการประชุมประจำปีเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนคือความต้องการที่เร่งด่วนและแนวโน้มที่จำเป็นของเวียดนาม ดังนั้นพร้อมกับมติของพรรค รัฐบาลได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุม ๒๐๓๐ ของสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งในนั้น มี ๑๑๕ เป้าหมายที่ได้รับการกำหนดให้เวียดนามปฏิบัติตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี ๒๐๓๐ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม

ยืนหยัดแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในตลอดกว่า ๓๐ ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยเฉพาะในตลอดกว่า ๑๐ ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้บรรลุผลงานที่น่าประทับใจเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ อัตราคนจนในเวียดนามอยู่ที่กว่าร้อยละ ๖๐ แต่ปัจจุบัน อัตราคนจนอยู่ที่ประมาณร้อยละ ๕ เท่านั้น ดัชนีการพัฒนามนุษย์หรือ HDI ของเวียดนามเมื่อปี ๒๐๑๗ อยู่ที่ 0.694 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงในจำนวน ๑๘๙ ประเทศ เวียดนามกำลังเข้าร่วมข้อคิดริเริ่มเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในโลกอย่างเข้มแข็ง ตามรายงานประเมินประจำปีครั้งที่ ๔ เกี่ยวกับกระบวนการปฏิบัติเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนปี ๒๐๑๙ เวียดนามอยู่อันดับที่ ๕๔ เลื่อนขึ้น ๓ อันดับเมื่อเทียบกับปี ๒๐๑๘ และดัชนีการพัฒนาอย่างยั่งยืนอยู่อันดับที่ ๒ ในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ยืนยันว่า การพัฒนาอย่างยั่งยืนคือความต้องการที่เร่งด่วนและแนวโน้มที่จำเป็นในกระบวนการพัฒนาของเวียดนาม ดังนั้น แนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืนจึงถูกระบุอย่างเสมอต้นเสมอปลายในแนวทาง นโยบายของพรรคและรัฐ ล่าสุด รัฐบาลได้ประกาศใช้แผนปฏิบัติการแห่งชาติเกี่ยวกับการปฏิบัติระเบียบวาระการประชุมปี ๒๐๓๐ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาอย่างยั่งยืนยังเป็นปัญหาสำคัญที่ถูกระบุเมื่อจัดทำร่างเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ ๑๓ “ครั้งนี้ พวกเราจัดทำเอกสารสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ ๑๓ ดังนั้น ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด พวกเราได้ตั้งเป้าการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้แก่เวียดนาม การพัฒนาอย่างรวดเร็วควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน พวกเรากำหนดว่า นี่คือหน้าที่ทางการเมืองของพรรค ปวงชน ระบบการเมืองและทุกภาคส่วนในสังคม”

เน้นความมุ่งมั่น นโยบายและแหล่งพลังให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ยืนยันว่า พรรคและรัฐเวียดนามจะเน้นความมุ่งมั่น นโยบายและแหล่งพลังให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อปฏิบัติเป้าหมายคือระบุมนุษย์ให้เป็นศูนย์กลางของกระบวนการพัฒนาอย่างยั่งยืน อีกทั้ง สร้างสรรค์ประเทศที่เจริญรุ่งเรือง สังคมมีความยุติธรรม มีประชาธิปไตยและอารยธรรมซึ่งถือเป็นหลักการที่เสมอต้นเสมอปลายในทุกระยะพัฒนาของเวียดนาม

แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ยังแสดงความเห็นว่า ปัจจุบัน กำลังมีหลายยุทธศาสตร์พัฒนาสำหรับเป้าหมายต่างๆในระยะเดียวกัน การปฏิบัติจึงไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถเน้นแหล่งพลังต่างๆได้ ดังนั้น เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนมากขึ้น ในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรฐกิจสังคมในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า เวียดนามจะมีแผนการและความรับผิดชอบที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการผลักดันกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างและกลไกเศรษฐกิจให้มีความสมบูรณ์ตามแนวทางใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ประหยัดพลังงาน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจ เปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยีและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งปัจจุบัน ท้องถิ่นและสถานประกอบการหลายแห่งได้เริ่มดำเนินการและจะได้รับการปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง “ผมขอย้ำว่า โลกาภิวัตน์และแนวโน้มเทคโนโลยี พร้อมกับรูปแบบการประกอบธุรกิจที่มีลักษณะก้าวกระโดดช่วยเปลี่ยนแปลงแนวคิดและวิธีการเข้าถึงในการประกอบธุรกิจในขั้นพื้นฐาน ช่วยให้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและพลเรือนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คุณค่าด้านวัฒนธรรมพื้นเมืองและเอกลักษณ์ประชาชาติจะต้องคงอยู่ตลอดไป สร้างความแตกต่าง เป็นพื้นฐานให้แก่ความเจริญรุ่งเรืองของเศรษฐกิจในระยะยาวและความก้าวหน้าของพวกเราในศตวรรษที่ ๒๑ และในระยะที่ไกลกว่า ”

นายกรัฐมนตรีเผยว่า หลังการประชุมนี้ รัฐบาลจะประกาศใช้มติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเดือนตุลาคมนี้ ร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อบังคับใช้ข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยเร็ว นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงต่างๆทำการวิจัยเพื่อปรับขึ้นภาษีต่อกิจกรรมการผลิตและการอุปโภคที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสังคม ตลอดจนมีนโยบายส่งเสริมการประยุกต์ใช้รูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ในการผลิตและประกอบธุรกิจเพื่อยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๐๒๐ อีกทั้งเสนอให้กระทรวงเสนอกลไกและนโยบายเพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสังคมขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะแก้ปัญหาขาดโภชนาการในระยะยาวในชุมชนชนกลุ่มน้อย และสั่งให้ท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดและนคร ๓๐ แห่งที่ยังไม่ประกาศใช้แผนปฏิบัติการพัฒนาอย่างยั่งยืนต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษถึงการปฏิบัติเป้าหมายสังคม โดยเฉพาะการศึกษา สาธารณสุข การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรม.

Feedback