ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์

Anh Huyen - VOV5 Theo VOVworld -
Chia sẻ
(VOVworld) - ในระหว่างวันที่ 23-27 เดือนนี้ ท่าน Toni Tan Keng Yam ประธานาธิบดีสิงคโปร์พร้อมภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่าน Truong Tan Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น

(VOVworld) - ในระหว่างวันที่ 23-27 เดือนนี้ ท่าน Toni Tan Keng Yam ประธานาธิบดีสิงคโปร์พร้อมภริยาได้เดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของท่าน Truong Tan Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้น

ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ - ảnh 1
ท่าน Toni Tan Keng Yam ประธานาธิบดีสิงคโปร์
(Photo Internet)

สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นอันดับต้นๆของภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงปัญญา และตามแผนการที่วางไว้ จนถึงปี 2018 สิงคโปร์จะกลายเป็นเขตเศรฐกิจที่มีความหลากหลายและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก  ในนโยบายการต่างประเทศ สิงคโปร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศใหญ่ๆและประเทศต่างๆในภูมิภาค รวมทั้งปรารถนาที่จะสร้างบรรยากาศแห่งสันติและเสถียรภาพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย – แปซิฟิก  เวียดนามและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1973 แต่นับตั้งแต่ที่เวียดนามกลายเป็นสมาชิกของอาเซียนเมื่อปี 1995 ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาเข้าสู่ระยะใหม่ ซึ่งสิงคโปร์ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนามและเวียดนามได้กลายเป็นตลาดหลักในด้านการค้าและการลงทุนของสิงคโปร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เมื่อปี2004 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน “แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบความร่วมมืออย่างสมบูรณ์ในศตวรรษที่21” เพื่อสร้างพื้นฐานทางนิตินัยและอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งเสริมความร่วมือมิตรภาพและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ จัดการหารือทางการเมืองประจำปีระหว่างกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภายในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ  ในการเยือนประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนกันยายนปี 2011 ท่าน Truong Tan Sang ประธานแห่งรัฐเวียดนามได้กล่าวยืนยันว่า   “เวียดนามและสิงคโปร์นับวันมีความเชื่อถือกันในทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งเป็นระยะใหม่แห่งความร่วมมืออย่างรอบด้าน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม การศึกษา สาธารณสุข กลาโหมและความมั่นคง บนพื้นฐานของการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันและในด้านที่สิงคโปร์มีประสบการณ์ ดังนั้น ฐานะและบทบาทที่สำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจของสิงคโปร์พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ดีงาน เวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้แก่การยกระดับความสัมพันธ์และความเชื่อถือทางการเมืองกับสิงคโปร์เพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าพัฒนาอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น           

ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ - ảnh 2
ผู้นำทั้งสองประเทศหารือกันเมื่อปี 2011 (Photo VNplus)


ในปี 2004 เวียดนามและสิงคโปร์ได้เห็นพ้องกันว่า จะปฏิบัติความคิดริเริ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งสองประเทศเพื่อพัฒนาการผลิต การค้า การลงทุนและการบริโภค ร่วมมือกันเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุน มีนโยบายที่อำนวยความสะดวกและวางแนวทางส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานประกอบการทั้งสองประเทศ ซึ่งความคิดริเริ่มดังกล่าวได้กลายเป็นความจริงหลังจากที่ได้ลงนามในข้อตกลงโครงการเชื่อมโยงระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์ใน 6 ด้านคือ การเงิน การลงทุน การค้า - การบริการ การคมนาคมขนส่ง ไปรษณีย์โทรคมนาคม – เทคโนโลยี่การสื่อสารและการศึกษา โดยจะจัดการประชุมหมุนเวียนในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนในทุกๆ 8 เดือนเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติข้อตกลงดังกล่าวและวางแนวทางให้แก่ความร่วมมือในเวลาต่อไป ซึ่งผลจากความร่วมมือที่ใกล้ชิดดังกล่าวทำให้สิงคโปร์ได้เป็นหุ้นส่วนการลงทุนและการค้าชั้นนำของเวียดนามโดยมีมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและบรรลุ 8.7 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2011 การลงทุนโดยตรงในเวียนดนามของสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจนถึงปลายเดือนมีนาคมปี 2012 สิงคโปร์มีโครงการลงทุนในเวียดนามกว่า 1.000 โครงการรวมเงินทุนกว่า 2หมื่น4 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในด้านอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมแปรรูปและการก่อสร้าง เป็นต้น โดยเฉพาะเขตอุตสาหกรมเวียดนาม – สิงคโปร์ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกอบธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพของสิงคโปร์ในเวียดนามและในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นาย Toni Tan Keng Yam ประธานาธิบดีสิงคโปร์จะเป็นสักขีพยานในพิธีมอบใบอนุญาติประกอบการให้แก่เขตอุตสาหกรรมที่ 5 ของสิงคโปร์ในจ. Quang Ngai  ส่วนนักลงทุนสิงคโปร์ต่างให้ความสำคัญต่อบรรยากาศการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะความมีเสถียรภาพทางการเมืองและความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ นาย Lim Heng Kieng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์สิงคโปร์ยืนยันว่า             “ ผมเดินทางมาเยือนประเทศเวียดนามครั้งแรกเมื่อปี 1994 และทุกๆปีผมก็เดินทางมาเยือนเวียดนาม 2- 3 ครั้ง ผมเห็นว่า เวียดนามมีความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก สถานประกอบการต่างๆของสิงคโปร์มองเห็นศักยภาพของเวียดนามทั้งในระยะสั้นและระยะยาวและต่างมีความปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม ดังนั้นสถานประกอบการสิงคโปร์หลายแห่งจึงเข้ามาลงทุนในเวียดนามและก็ประสบความสำเร็จเป็นที่น่ายินดี ผมมีความเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจะขยายกว้างมากขึ้นและจะมีหุ้นส่วนใหม่ๆ พร้อมทั้งมีการก่อตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ๆเพิ่มขึ้นในอนาคต

ปัจจุบัน เวียดนามและสิงคโปร์ได้ลงนามในข้อตกลงและบันทึกช่วยจำในด้านต่างๆรวม 14 ฉบับ ซึ่งถือเป็นเอกสารที่สำคัญเพื่อให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศส่งเสริมความร่วมมือ  ส่วนในการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ท่านประธานาธิบดีสิงคโปร์และผู้นำเวียดนามจะหารือเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมความสัมพันธ์ในทุกด้านและผลักดันความร่วมมือกันในฟอรั่มภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความร่วมมือในอาเซียนเพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนายิ่งขึ้นในอนาคต./.

Feedback