(VNA) |
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนปี 1997 เวียดนามเริ่มเปิดให้บริการอินเตอร์เน็ตแก่ประชาชนทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่นั้นมา อินเตอร์เน็ตในเวียดนามได้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
อินเตอร์เน็ตกำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็งในเวียดนาม
ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลก ตามรายงานสถิติของบริษัทวิเคราะห์โซเชียลเน็ตเวิร์กระดับโลก We are Social จนถึงปี 2023 เวียดนามมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 77.93 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 79.1 ของประชากรทั้งหมด มีการใช้สมาร์ทโฟนกว่า 150 ล้านเครื่อง ระบบเครือข่าย 3G และ 4G ได้ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ และสามารถใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ ในเวียดนาม ชาวเวียดนามสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้เกือบทุกที่และทุกเวลา รวมถึงบริการอินเตอร์เน็ตฟรี ตามรายงานของกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ชาวเวียดนามเกือบ 100% สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ตัวเมืองไปจนถึงชนบท โครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ได้รับการดำเนินการอย่างเข้มแข็ง เพื่อค้ำประกันว่า เครือข่าย 3G และ 4G ครอบคลุมเขตชุมชนอย่างน้อยร้อยละ 95 ทำให้เวียดนามเข้าใกล้ระดับการให้บริการอินเตอร์เน็ตสูงที่สุด เทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว นาย หวูหว่างเลียน ประธานสมาคมอินเตอร์เน็ตเวียดนามเผยว่า
“นับตั้งแต่มีการให้บริการอินเตอร์เน็ตในเวียดนาม เวียดนามก็มีการพัฒนาที่เป็นก้าวกระโดด ในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี จากโครงสร้างพื้นฐานสายเคเบิลทองแดงที่มีข้อจำกัดในด้านความเร็วในการรับส่งข้อมูล แต่ปัจจุบันได้ใช้สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และบริการโทรศัพท์มือถือกำลังมุ่งสู่ระบบ 5G โดยเฉพาะ เทคโนโลยีในการให้บริการที่มีมูลค่าเพิ่ม บริการออนไลน์ และบริการเนื้อหาดิจิทัลก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด นอกจากนั้น คุณค่าของการใช้บริการอินเตอร์เน็ตยังนำมาซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม วัฒนธรรมและความรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมากในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม”
แพลตฟอร์มและบริการทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัลเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างแรงผลักดันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ตของเวียดนาม เป้าหมายจนถึงปี 2025 คือ เวียดนามจะสร้างสรรค์โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ทันสมัย และเป็นผู้นำหน้าของอาเซียน จนถึงปี 2030 เครือข่ายมือถือ 5G จะครอบคลุมทั่วประเทศ ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ได้ในราคาถูก ระบบสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลในเวียดนามได้รับการลงทุนก่อสร้างโดยเวียดนาม และฐานข้อมูลในเวียดนามถูกสร้างและจัดเก็บโดยชาวเวียดนาม
นาย หวูหว่างเลียน ประธานสมาคมอินเตอร์เน็ตเวียดนาม (Vietnam+) |
ค้ำประกันโลกไซเบอร์ที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชนทุกคน
ในสภาวการณ์ปัจจุบัน อินเตอร์เน็ตถือเป็นเสาหลักของสังคมข้อมูลสมัยใหม่ ตามรายงาน Digital 2024 Global Overview Report ซึ่งเผยแพร่โดย MeltWater และ WeAreSocial ปรากฎว่า จากจำนวนประชากรทั้งหมดของเวียดนามกว่า 99 ล้านคน มีร้อยละ 73.3 ที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยเฉพาะ ผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเฉลี่ยแต่ละวันในเวียดนามอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 25 นาที ซึ่งติดกลุ่ม 20 ประเทศที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กมากที่สุดในโลก
นอกจากข้อดีที่เครือข่ายโซเชียลและไซเบอร์สเปซนำมาสู่ชีวิตแล้ว โลกไซเบอร์ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขไม่เพียงแต่ในเวียดนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกประเทศทั่วโลกอีกด้วยด้วย นาย ดิงเตี๊ยนหยุง รองอธิบดีกรมสารนิเทศต่างประเทศของกระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้แสดงความเห็นว่า
“ในปัจจุบัน ข่าวปลอมและข้อมูลที่เป็นอันตรายแพร่กระจายอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาที ดังนั้น เราจึงต้องมีกรอบเวลาอย่างเร่งด่วนเพื่อค้ำประกันว่าจะสามารถค้นหาและหลบข้อมูลเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ การใช้สิทธิต้องปฏิบัติตามกฎหมาย การใช้สิทธิและหน้าที่ของประชาชนจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”
หนึ่งในมาตรการเพื่อแนะนำให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในเวียดนามใช้เครือข่ายอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพคือการให้ความรู้และเผยแพร่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์สเปซตั้งแต่เนิ่นๆให้แก่นักเรียน ตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาและฝึกอบรมที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมปี 2021 โดยนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ม.4 จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ในวิชาการให้การศึกษาด้านกลาโหมและความมั่นคง คุณ หว่างหายเวิน จากโรงเรียนมัธยมศึกษา เลืองเท้วิง เผยว่า
“ในคำแนะนำการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ทางโรงเรียนฯเตือนเราเสมอว่า ต้องไม่ใช้คำด่าหรือดูหมิ่นบุคคลใด ๆ บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก นอกจากนั้น ยังต้องรู้วิธีการแสดงความคิดเห็น ตลอดจน ตื่นตัวเมื่อเผชิญกับเนื้อหาที่ไม่ดี และรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก”
สำหรับสำนักงานบริหารภาครัฐโดยเฉพาะ กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ในเวลาที่ผ่านมา ได้มีการประชุมกับตัวแทนของหน่วยงานต่างๆ เช่น Facebook, Youtube, TikTok และ Google โดยเรียกร้องให้เครือข่ายสังคมออนไลน์เหล่านี้ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกัน กำจัดและลบข้อมูลที่ไม่ดีและเป็นอันตรายเพื่อปกป้องผู้ใช้อินเตอร์เน็ตของเวียดนามจากผลกระทบในทางลบของโลกไซเบอร์.