ยืนหยัดเส้นทางเดียวของการปฏิวัติเวียดนาม |
เป็นที่คุ้นเคยกันแล้วว่า ในช่วงที่ประเทศเตรียมความพร้อมให้แก่เหตุการณ์สำคัญๆ ฝ่ายที่เป็นอริมักฉวยโอกาสเพื่อต่อต้านเวียดนามในหลายรูปแบบ โดยใช้คารมที่บิดเบือนความจริงเพื่อทำลายลัทธิสังคมนิยม เปลี่ยนแปลงสถาบันการเมือง สร้างความระแวงสงสัยในหมู่ประชาชน ทำลายความไว้วางใจต่อการนำของพรรคและเส้นทางการพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมที่พรรคและประชาชนได้เลือกเฟ้น
สิ่งที่ประชาชาติเวียดนามได้เลือกเฟ้น
ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่า เอกราชของประชาชาติควบคู่กับลัทธิสังคมนิยมคือทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวและถูกต้องของประชาชาติเวียดนาม ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อการปฏิวัติเวียดนามประสบอุปสรรคในการแสวงหาเส้นทางการปลดปล่อยประชาชาติ ผู้นำ เหงวียนอ๊ายก๊วกได้ประยุกต์ใช้ทฤษฎีของลัทธิมาร์ก-เลนิน บทเรียนของการปฏิวัติเดือนตุลาคมและการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพสากลในเวียดนาม เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้รับการก่อตั้งและยืนหยัดตามแนวทางเอกราชของประชาชาติควบคู่กับการพัฒนาสู่ลัทธิสังคมนิยมได้ช่วยให้การปฏิวัติเวียดนามประสบความสำเร็จ นำเวียดนามก้าวเข้าสู่ศักราชของเอกราช การรวมประเทศเป็นเอกภาพ การพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมเพื่อเป้าหมาย“ประชาชนมีความมั่งคั่ง ประเทศเจริญรุ่งเรือง สังคมมีความยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม” ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า เส้นทางการปฏิวัติของชนชั้นกรรมาชีพเป็นเส้นทางที่ก้าวหน้าสอดคล้องกับสถานการณ์และการพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยม ซึ่งเป็นการคัดเลือกที่ถูกต้องของประชาชาติเวียดนาม
สถานการณ์ที่เป็นจริงได้แสดงให้เห็นว่า เอกราชของประชาชาติควบคู่กับลัทธิสังคมนิยมเป็นการเลือกเฟ้นที่ถูกต้องของประชาชนเวียดนาม ประชาชนเป็นผู้สร้างแหล่งพลังอันแข็งแกร่ง เป็นผู้กำหนดอนาคตของประชาชาติและประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามรับใช้ประชาชนและปิตุภูมิ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามไม่มีผลประโยชน์ใดนอกเหนือจากผลประโยชน์ของประชาชาติและประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงมีความเชื่อมั่นต่อพรรคและเลือกเดินตามอุดมการณ์ของพรรค การยืนหยัดเส้นทางการพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมเป็นการยืนหยัดเส้นทางที่ประชาชนได้เลือกเฟ้นและการปฏิบัติเป้าหมายที่ประชาชนกำลังมุ่งเน้น เป็นการสานต่อผลสำเร็จของการปฏิวัติของประชาชนและยกระดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ให้เสอดคล้องกับเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์
พรรคยืนหยัดเส้นทางที่ประชาชนเลือก
ลัทธิสังคมนิยมเป็นก้าวพัฒนาใหม่ของมนุษย์ ซึ่งต้องการให้พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามปฏิบัติอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ต่อเนื่อง เกาะติดสถานการณ์ของประเทศและยุคสมัยเพื่อพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมบนพื้นฐานของลัทธิมาร์ก-เลนิน เสร็จสิ้นการสร้างสรรค์ทฤษฎีเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยม ซึ่งผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาได้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเกาะติดสถานการณ์ของประเทศอย่างใกล้ชิด พัฒนาเศรษฐกิจเชิงตลาดตามแนวทางสังคมนิยมที่ทันสมัยและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกเพื่อเป้าหมายประชาชนมีความมั่งคั่ง ประเทศเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นก้าวพัฒนาใหม่ด้านแนวคิดและทฤษฎีและเป็นการประยุกต์ใช้ลัทธิสังคมนิยมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของเวียดนาม
ในกระบวนการปฏิวัติเวียดนาม พรรคคอมมิวนิตส์เวียดนามได้เลือกเส้นทางเอกราชของประชาชาติกับลัทธิสังคมนิยม ซึ่งเนื้อหานี้ถูกระบุในเอกสารการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12 ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงและแนวโน้มการพัฒนาของประวัติศาสตร์ พรรคกำหนดแนวทางการยืนหยัดเส้นทางพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมตามแนวทาง “ถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด” พรรคกำหนดเส้นทางการพัฒนาไปสู่ลัทธิสังคมนิยมผ่านการกำหนดกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมและรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็วและยั่งยืนผสานการปฏิบัตินโยบายด้านเศรษฐกิจกับนโยบายด้านสังคม ผสานการพัฒนาเศรษฐกิจกับการพัฒนาสังคม ความก้าวหน้าและความยุติธรรมทางสังคม ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจทางการเมืองเพื่อการปฏิบัติเป้าหมายของลัทธิสังคมนิยมคือประชาชนมีความมั่งคั่ง ประเทศเจริญรุ่งเรือง มีความยุติธรรม ประชาธิปไตยและอารยธรรม”ที่พรรคและประชาชนกำลังมุ่งสร้างสรรค์.