(VOVworld) - วันที่ 28 พฤศจิกายน การประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 ได้เสร็จสิ้นลงหลังการประชุมมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งสร้างนิมิหมายต่อการปฏิบัติภารกิจขององค์การนิติบัญญัติสูงสุดของประเทศทั้งในด้านนิติบัญญัติ การตรวจสอบและการตัดสินใจปัญหาที่สำคัญของประเทศ
ผลดีจากการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13
|
สิ่งที่น่าสนใจในการประชุมรัฐสภาครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 คือการอนุมัติร่างกฎหมายที่สำคัญฯต่อการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งอนุมัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจในปี 2015 และมาตรการแก้ไขเพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้จัดการลงคะแนนไว้วางใจครั้งที่สองต่อผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ 50 ท่าน
ปรับปรุงระบบกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญปี 2013
หน้าที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้คือ พิจารณาเพื่ออนุมัติร่างกฎหมาย 18 ฉบับ แสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมาย 12 ฉบับ ซึ่งถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับการประชุมรัฐสภาครั้งที่ผ่านๆมาและมีกฎหมายสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงไกกลทางเศรษฐกิจและองค์กรรัฐ เช่น กฎหมายองค์การรัฐสภาฉบับแก้ไข กฏหมายองค์การรัฐบาลฉบับแก้ไข กฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องสิทธิมนุษยชน สิทธิและหน้าที่ขั้นพื้นฐานของพลเมืองตามเจตนารมณ์และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เช่น กฎหมายการเคหะฉบับแก้ไข กฎหมายการประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฉบับแก้ไขและร่างกฎหมายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ในการดึงดูดการลงทุนและการผลิตประกอบธุรกิจ เช่น กฎหมายการลงทุนฉบับแก้ไข กฏหมายสถานประกอบการฉบับแก้ไข เกี่ยวกับกฎหมายการลงทุนฉบับแก้ไข นายบุ่ยกวางวิงห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามได้ยืนยันว่า “หลังจากที่ได้รับการแก้ไข กฎหมายฉบับนี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจของเวียดนาม ผลักดันการจัดตั้งและการพัฒนาของชมรมผู้ประกอบการ เอื้อประโยชน์ให้แก่สถานประกอบการ โดยเฉพาะสถานประกอบการภาคเอกชน สถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและสถานประกอบการรายใหม่”
ที่ประชุม ยังอนุมัติมติเข้าร่วมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์และอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิของคนพิการ ซึ่งได้มีส่วนร่วมค้ำประกันสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในเวียดนามให้ดียิ่งขึ้น
ตัดสินใจเป้าหมายหลักด้านเศรษฐกิจ – สังคมของปี 2015
นอกจากหน้าที่ด้านนิติบัญญัติและการตรวจสอบสูงสุดแล้ว การตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาสำคัญๆของประเทศเป็น 1 ใน 3 หน้าที่หลักของรัฐสภา โดยในการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนรัฐสภาได้อนุมัติมติของรัฐสภาเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมในปี 2015 ซึ่งพยายามเพิ่มอัตราการขยายตัวต่างๆให้สูงกว่าปี2014 เช่น จีดีพีอยู่ที่ร้อยละ6.2 ดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไออยู่ที่ร้อยละ5 อัตราครอบครัวยากจนลดลงร้อยละ1.7-2 สร้างงานทำใหม่อีก1.6 ล้านตำแหน่ง เป็นต้น เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าว รัฐสภาได้เรียกร้องให้รัฐบาลต้องเน้นปฏิบัติหน้าที่สำคัญๆ นายเหงียนวันฟุ๊ก รองประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแห่งรัฐสภาระบุว่า “เพื่อเร่งปฏิบัติก้าวกระโดดยุทธศาสตร์ให้ลุล่วงไปด้วยดี ต้องทำการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขยายตัว กระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่สถานประกอบการและระบบเศรษฐกิจ การปฏิรูประเบียบราชการอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะระเบียบการลงทุน การก่อสร้าง ที่ดิน ภาษี ศุลกากรและสินเชื่อธนาคาร เร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียพร้อมกับการปรับปรุงองค์ประกอบขององค์กรสินเชื่อ พยายามถึงปลายปี 2015 อัตราหนี้เสียต่ำกว่าร้อยละ 3 เท่านั้น ยกระดับประสิทธิภาพในการใช้เงินลงทุนสาธารณะ ค้ำประกันหนี้สาธารณะ หนี้รัฐบาลและหนี้ต่างชาติของประเทศให้อยู่ในอัตราที่ปลอดภัยตามกำหนด”
ในกรอบการประชุมครั้งที่ 8 สมัยที่ 13 รัฐสภาได้ปฏิบัติหน้าที่การตรวจสอบสูงสุดตามหัวข้อ “ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจในการลงทุนสาธารณะ สถานประกอบการภาครัฐและระบบธนาคาร” มีการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 4 ท่าน
ประสบความสำเร็จในการลงคะแนนไว้วางใจ
|
ประสบความสำเร็จในการลงคะแนนไว้วางใจ
เหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจมากจากประชามติในการประชุมครั้งนี้คือ การลงคะแนนไว้วางใจต่อตำแหน่งสำคัญ 50 ท่าน นี่เป็นครั้งที่สองที่รัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวในนามของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาชนทั่วประเทศ โดยในการกล่าวปราศรัยประเมินผลการลงคะแนนไว้วางใจ ท่านเหงียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาได้ย้ำว่า รัฐสภาได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง ตอบสนองเป้าหมาย หลักการ ขั้นตอนและกลไกตามกฎหมาย ผู้แทนรัฐสภาได้ปฏิบัติภารกิจอันสูงส่งนี้ที่มีความหมายทั้งด้านการเมืองและด้านนิติบัญญัติอย่างระมัดระวัง โปร่งใส ยุติธรรมและถูกต้อง
นายชูเซินห่า ผู้แทนรัฐสภากรุงฮานอยประเมินเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการลงคะแนนไว้วางใจครั้งนี้ว่า “รัฐสภาได้ลงคะแนนไว้วางใจครั้งแรกในการประชุมครั้งที่ 6 และครั้งที่สองในการประชุมครั้งที่ 8 นี้ ซึ่งการลงคะแนนหลังการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปีนั้นมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้มีสิทธิเลือกตั้งถือว่า การลงคะแนนไว้วางใจครั้งนี้เป็นการตรวจสอบที่ดีของรัฐสภาต่อตำแหน่งสำคัญที่รัฐสภาเลือหรืออนุมัติ”
ส่วนคุณหวออ๊ายเยิน อดีตอธิบดีกรมปฏิบัติงานภาคใต้ของสำนักรัฐสภาเผยว่า “คุณภาพของการลงคะแนนไว้วางใจครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงก้าวพัฒนา ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผมว่า มีการเปลี่ยนแปลงใหม่และผู้แทนรัฐสภามีความรับผิดชอบต่อการลงคะแนนไว้วางใจ ผมเชื่อว่า การลงคะแนนครั้งต่อๆไปจะมีความก้าวหน้ามากขึ้นผ่านคะแนนไว้วางใจเต็มไปด้วยความรับผิดชอบและคุณภาพ”
การประชุมครั้งที่ 8 รัฐสภาสมัยที่ 13 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยจุดเด่นต่างๆ ซึ่งมติฉบับต่างๆที่ได้รับการอนุมัติในการประชุมครั้งนี้จะได้ปฏิบัติในเร็วๆนี้เพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมและมีส่วนร่วมต่อภารกิจการพัฒนาประเทศในระยะใหม่อีกด้วย./.