ทหารรัสเซียในเขต Volnovakha จังหวัด โดเนสต์k ภาคตะวันออกของยูเครน (Photo: Anadolu Agency) |
การปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ด้วยยุทธนาการทางทหารพิเศษของรัสเซียเพื่อ "ทำการขจัดลัทธิฟาสซิสต์และปลอดทหาร" ในยูเครน ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา การปะทะดังกล่าวได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อโครงสร้างพื้นฐานในภาคตะวันออกและภาคใต้ยูเครน ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ภูมิศาสตร์การเมืองโลก รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในยุโรป ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ ยุโรปกับรัสเซีย
ผลกระทบอย่างหนักหน่วง
จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานอิสระระหว่างประเทศที่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บของทั้งรัสเซียและยูเครนจากการปะทะดังกล่าว แต่จากรายงานของฝ่ายต่างๆที่ประกาศและแหล่งข้อมูลระหว่างประเทศแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมีสูงถึงนับหมื่นคน ในข้อมูลที่ประกาศเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย มีทหารอย่างน้อย 9,000 นายได้เสียชีวิตจากการปะทะดังกล่าว
ความเสียหายอย่างหนักต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากการปะทะดังกล่าวต่อยูเครนถูกประเมินว่ามีความหนักหน่วงมาก รายงานจากแหล่งข้อมูลต่างๆระบุว่า ความเสียหายด้านทรัพย์สินจากการปะทะสูงกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับตัวเลข7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่รัฐบาลยูเครนประกาศเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่นับรวมถึงประชาชนยูเครนนับล้านคนต้องละทิ้งบ้านเรือนอพยพไปยังเขตปลอดภัย โดยมีประมาณ 10 ล้านคนต้องอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และขณะนี้ได้มีเพียงส่วนน้อยที่เดินทางกลับประเทศ
สำหรับรัสเซีย แม้ยังไม่มีการประกาศจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บแต่แหล่งข้อมูลต่างๆระบุว่า จำนวนทหารรัสเซียที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมีสูงถึงนับพันนาย เศรษฐกิจรัสเซียก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติรัสเซียที่ประกาศเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม อัตราจีดีพีของรัสเซียในไตรมาสที่สองได้ลดลงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนตามการพยากรณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม อัตราจีดีพีของรัสเซียในปี 2022 ลดลงถึงร้อยละ 6
การปะทะดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนและเศรษฐกิจของทั้งรัสเซียและยูเครนเท่านั้น หากยังทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกตกเข้าสู่ภาวะชะงักงัน ราคาเชื้อเพลิง ราคาอาหารในภูมิภาคและโลก รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติกาล ในขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเศรษฐกิจต่างๆลดลง ซึ่งผลกระทบดังกล่าวก็ถูกระบุในรายงานต่างๆขององค์การและสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
ความท้าทายและโอกาสเพื่อแก้ไขการปะทะ
อาจเห็นได้ว่า ผลกระทบจากการปะทะในยูเครนมีความหนักหน่วงมากและส่งผลกระทบต่อทั่วโลก แต่อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวลกว่าก็คือแม้จะผ่านมาแล้วครึ่งปี แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณที่จะยุติลง
ภายหลังการเจรจาต่างๆที่ยังไม่บรรลุผลงานใดๆ รัสเซียและยูเครนได้ระงับการเจรจาต่างๆตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งทำให้โอกาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเร็ว ๆ นี้แทบเป็นไปไม่ได้ ในประกาศเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา นาย Mykhailo Podolyak ที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ยืนยันว่า ยูเครนไม่มีเหตุผลใดๆเพื่อเข้าร่วมการเจรจากับรัสเซียในสภาวการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งเห็นว่า การเจรจาในสภาวการณ์ปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของยูเครนและยุโรป
ส่วนในการให้สัมภาษณ์นิตยสาร Financial Times เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นาย Gennady Gatilov เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติเห็นว่า ไม่มีมาตรการทางการทูตใดๆ ที่จะยุติการปะทะในยูเครนได้ พร้อมทั้งให้ข้อสังเกตว่า จะไม่มีการพบปะระหว่างประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินกับ ประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ในเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การปะทะอาจยืดเยื้อออกไปอีกนาน
จากสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ สหประชาชาติและประเทศต่างๆได้ผลักดันมาตรการแก้ไขความชะงักงัน ฟื้นฟูการพบปะระหว่างรัสเซียกับยูเครนและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เดินทางไปเยือนยูเครนและตุรกี ซึ่งเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยการปะทะระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่วนในการเยือนยูเครนและการเจรจากับประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน เชื่อมั่นว่า การปะทะดังกล่าวจะยุติลงโดยเร็วผ่านการเจรจา พร้อมทั้งเผยว่า ทั้งสองฝ่ายมีความประสงค์ที่จะยุติการปะทะ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ฝ่ายต่างๆผลักดันการเจรจาสันติภาพ.