นายบารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวปราศรัยในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนปลายปี(AFP/TTX)

สหรัฐเริ่มต้นปี๒๐๑๓ด้วยความมั่นใจจากการที่นายบารัก โอบามา ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย ชาวอเมริกันหวังว่า ใน๔ปีข้างหน้า เศรษฐกิจของประเทศจะมีความสดใส อัตราคนว่างงานจะลดลง รายได้ของประชาชนจะเพิ่มขึ้นและสวัสดิการสังคมจะทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้นซึ่งในปีแรกของวาระที่๒ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐได้รักษาคำมั่นที่ให้ไว้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ลดความขัดแย้งระหว่างบรรดาสส.เพื่อแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนของประเทศ แต่ในตลอด๑ปีที่ผ่านมา ความพยายามของนายบารัก โอบามาไม่สัมฤษธิ์ผลดังความปรารถนา การถกเถียงระหว่างสองพรรคได้นำไปสู่ความชะงักงันต่อแทบทุกนโยบายทั้งภายในและต่างประเทศ

ความขัดแย้งอย่างลึกซึ้งทางการเมืองและการเงิน

 ปัญหาภายในประเทศใหญ่ๆของสหรัฐในปี๒๐๑๓ เช่น การลดการขาดดุลงบประมาณ การปฏิรูปด้านภาษีและปรัปปรุงระบบประกันสุขภาพ การควบคุมการขายกระสุนปืนและ การปรับปรุงนโยบายอพยพเข้าเมืองไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีในเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะ  โครงการปรับปรุงนโยบายประกันสุขภาพและดูแลเอาใจใส่ด้านสาธารณสุขหรือโอบามาแคร์ที่นายบารัก โอบามาต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้โครงการนี้ได้รับการปฏิบัติในขณะที่ยังมีการถกเถียง แม้ตระหนักได้ว่า ความตึงเครียดระหว่างพรรคการเมืองต่างๆในรัฐสภาสหรัฐเป็นปัญหาในระบบแนวคิด แต่การเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคในปี๒๐๑๓ได้นำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรงซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ๑๗ปีที่หน่วยงานภาครัฐบางส่วนต้องปิดทำการอย่างเป็นทางการ ข้าราชการนับแสนคนต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนในขณะที่ประเทศยืนอยู่ริมปากเหวของภาวะล้มละลาย  นอกจากนี้ ปัญหาในสังคมก็เป็นปัญหาที่น่าปวกหัวของทางการสหรัฐเพราะเหตุกราดยิงในโรงเรียนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือกรณีทหารผ่านศึกคนหนึ่งบุกเข้าไปก่อเหตุกราดยิงที่ฐานทัพของกองทัพเรือที่ห่างจากสำนักงานรัฐสภาไม่กี่กิโลเมตร

วิกฤตการทูตเนื่องจากโครงการสอดแนม

ปี๒๐๑๓ เหตุการณ์ที่น่าตกใจเกี่ยวกับนโยบายการทูตของสหรัฐคือ การที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองกลางแห่งสหรัฐอเมริกาหรือCIA ได้หนีไปยังต่างประเทศและเปิดเผยโครงการสอดแนมลับของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐหรือNSAซึ่งข้อมูลที่นายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนเปิดเผยทำให้ทางการวอชิงตันตกเข้าสู่วิกฤติทางการทูตอย่างรุนแรง รวมทั้งกับพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดของสหรัฐ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับยุโรปมีความแตกร้าวและทำให้การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนลงทุนและการค้าข้ามแอตแลนติกหรือTTIPถูกระงับ สำหรับรัสเซีย ควบคู่กับความตึงเครียดเนื่องจากแผนป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐในยุโรปตะวันออกและ ปัญหายูเครน การเปิดเผยการสอดแนมได้ทำให้กระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจนี้ไม่เกิดประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน แม้ว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับจีนได้รับการผลักดันผ่านการพบปะระดับสูงที่มีขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่แถลงการณ์ของสหรัฐต่อปฏิบัติการของปักกิ่งในเขตทะเลที่มีการพิพาททำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอภิมหาอำนาจตกเข้าสู่ภาวะปากกับใจไม่ตรงกัน

จุดประกายในภาพรวมของประเทศสหรัฐปี๒๐๑๓

อย่างไรก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ปี๒๐๑๓ นายบารัก โอบามาก็สามารถสร้างนิมิตรหมายในบางด้าน ก่อนอื่นคือ ความคืบหน้าในการฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งการขยายตัวจีดีพีในไตรมาสที่๓ปี๒๐๑๓อยู่ที่ร้อยละ๓.๖สูงกว่าการพยากรณ์ของบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ร้อยละ๓.๑ซึ่งก็เป็นการขยายตัวจีดีพีที่รวดเร็วที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ไตรมาที่๑ปี๒๐๑๒ ซึ่งได้ช่วยแก้ไขปัญหาคนว่างงานโดยอัตราคนว่างงานเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี๒๐๑๓ลดลงร้อยละ๗ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ๕ปีที่ผ่านมา