เหลือเวลาเพียงกว่า9เดือน เวียดนามจะรับตำแหน่งประธานอาเซียนปี2020 ซึ่งถือเป็นเกียรติและเป็นหน้าที่สำคัญของเวียดนามต่ออาเซียน เป็นโอกาสเพื่อมีส่วนร่วมที่มีประสิทธิภาพต่อการพัฒนาของประชาคมดังนั้นเวียดนามจึงให้ความสำคัญยิ่งต่อกระบวนการเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่นี้
นาย Peter Girke หัวหน้าสำนักงานตัวแทนของกองทุน KAS ประจำเวียดนาม |
เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการเป็นประธานอาเซียน
เส้นทางการพัฒนาประชาคมอาเซียนยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ความแน่นแฟ้นและการตระหนักถึงประโยชน์ส่วนรวมของอาเซียนจะมีความเข้มแข็งเพียงพอเพื่อให้อาเซียนธำรงความสามารถในการพึ่งพลังตนเองต่อผลกระทบในทุกด้านของการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์และความผันผวนทางการเมืองและเศรษฐกิจจากภายนอกหรือไม่ พื้นฐานความร่วมมือและขอบเขตกลไกความร่วมมือปัจจุบันของอาเซียนจะตอบสนองความต้องการเชื่อมโยงที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ และอาเซียนได้ทำและจะทำอย่างไรเพื่อสร้างประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่พลเมืองอาเซียนกว่า630ล้านคนเพื่อให้พวกเขาเข้าถึงวิถีอาเซียน นี่คือความท้าทายที่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของทุกประเทศสมาชิกโดยเฉพาะเวียดนามในการที่จะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี2020
นี่มิใช่เป็นครั้งแรกที่เวียดนามรับหน้าที่สำคัญนี้ดังนั้นเพื่อเตรียมสำหรับภารกิจดังกล่าวเวียดนามได้จัดตั้งคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติพร้อมอนุกรรมการต่างๆที่มีระเบียบการประสานงานอย่างรอบด้านตามเสาหลักร่วมมือสำคัญของอาเซียนโดยเฉพาะได้มีการปรึกษาหารือกับกระทรวง หน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับอาเซียนเพื่อกำหนดประเด็นที่เวียดนามควรเน้นให้ความสนใจและการตั้งหัวข้อสำหรับปี2020
ความไว้วางใจของบรรดาสมาชิกอาเซียน
นับตั้งแต่เป็นสมาชิกอาเซียน เวียดนามถืออาเซียนเป็นหนึ่งในความสนใจด้านการต่างประเทศอันดับต้นๆและ เมื่อดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี2010เวียดนามก็ได้สร้างนิมิตหมายด้วยแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมที่ยังคงได้รับการขยายผลต่อไป ในการกล่าวถึงบทบาทและความพร้อมของเวียดนามในการเตรียมรับตำแหน่งประธานอาเซียนครั้งที่2นี้ นาย Peter Girke หัวหน้าสำนักงานตัวแทนของกองทุน KAS ประจำเวียดนามเผยว่า“เวียดนามได้แสดงให้เห็นบทบาทที่ดีเยี่ยมในการร่วมสร้างสรรค์ประชาคมในประเทศของตน ซึ่งประสบการณ์ของเวียดนาม การเป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมกระบวนการผสมผสานระหว่างประเทศจะเอื้อประโยชน์ให้แก่อาเซียนเมื่อเวียดนามดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มในเวลาข้างหน้า”
ประธานอาเซียนคือหน้าที่ความรับผิดชอบและโอกาสของทุกประเทศสมาชิกดังนั้นประเทศที่รับตำแหน่งนี้ต้องสานต่อและพัฒนาดอกผลที่อาเซียนได้บรรลุและกำลังดำเนินการ ซึ่งความสามารถในการเป็นผู้นำอาเซียนต้องสะท้อนผ่านการผลักดันความร่วมมือในกลุ่มและการยกระดับสถานะของอาเซียนบนเวทีโลก นาย Shahriman Lockman จากสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศมาเลเซียได้กล่าวว่า“เวียดนามมีศักยภาพเต็มที่เพื่อรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน พร้อมทั้งการสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระ2020-2021 นี่คือโอกาสของเวียดนามในการที่จะมีเสียงพูดและเป็นตัวแทนของของอาเซียนในฟอรั่มสำคัญของสหประชาชาติ”
ปี2020เป็นปีที่สำคัญสำหรับทั้งเวียดนามและอาเซียน โดยสำหรับอาเซียนคือการครบรอบ5ปีจัดตั้งประชาคมอาเซียน การตรวจสอบกึ่งวาระการปฏิบัติแผนการสร้างสรรค์ประชาคมตั้งแต่ปี2015-2020 และการเสร็จสิ้นแผนปฏิบัติการระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ ส่วนสำหรับเวียดนาม ปี2020เป็นโอกาสครบรอบ25ปีเวียดนามเป็นสมาชิกอาเซียน ดังนั้นการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนครั้งนี้ก็เป็นโอกาสให้เวียดนามแสดงทักษะความสามารถและส่งเสริมบทบาทการเป็นผู้นำเพื่อตอบสนองความไว้วางใจและความคาดหวังของประเทศสมาชิกและหุ้นส่วนต่างๆของอาเซียน.