(Photo:Vietnamplus) |
ในอดีต เวียดนามเคยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2010 และสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2009 ซึ่งในช่วงปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เวียดนามได้สร้างนิมิตหมายที่ดี ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เวียดนามยังผลักดันการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของโลกอย่างเข้มแข็งและมีสถานะที่สูงขึ้น
ส่วนในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนครั้งที่ 2 และเป็นตัวแทนเดียวของกลุ่มประเทศเอเชียที่ลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เวียดนามมีความประสงค์ว่า นี่จะไม่เพียงแต่เป็นโอกาสแสดงให้เห็นถึงทัศนะของตนเท่านั้น หากยังสะท้อนให้เห็นถึงทัศนะร่วมของอาเซียน ช่วยให้สหประชาชาติมีมุมมองที่รอบด้านมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อน
ความรับผิดชอบระดับประเทศและความรับผิดชอบระดับโลก
โลกกำลังต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่เมื่อสันติภาพยังไม่ได้รับการค้ำประกัน การผลักดันมาตรการแต่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อแก้ไขการพิพาทคือภัยคุกคามที่อันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
จากที่เคยต้องเผชิญกับสงครามหลายครั้ง ตกอยู่ในแผนการของประเทศมหาอำนาจ ต้องเสียสละเลือดเนื้อให้แก่เอกราชและบูรณภาพแห่งดินแดน เวียดนามตระหนักได้ดีเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังมีอยู่ โลกจะมีความยั่งยืนถ้าหากทุกประเทศและทุกคนตระหนักถึงความรับผิดชอบคือมีความรับผิดชอบต่อประเทศและมีความรับผิดชอบต่อโลก นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก เคยย้ำถึงเรื่องนี้ในโอกาสเข้าร่วมการหารือระดับสูงของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชามติว่า นี่คือความกระตือรือร้น จิตใจแห่งความรับผิดชอบของเวียดนามต่ออนาคตการพัฒนาของโลกที่มีสันติภาพ เจริญรุ่งเรืองและยุติธรรม การที่เวียดนามลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ก็ไม่อยู่นอกความปรารถนาดังกล่าวคือจะได้มีส่วนร่วมมากขึ้นต่อภารกิจร่วม รักษาสันติภาพและความมั่นคงในโลก เกี่ยวกับประเด็นนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เลหว่ายจุง แสดงความเห็นว่า “ผมคิดว่า เวียดนามมีเงื่อนไขมากมายเพื่อร่วมกับประชาคมโลกมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เพราะก่อนอื่น เวียดนามเป็นประเทศที่มีความปรารถนาอันแรงกล้าเกี่ยวกับสันติภาพและเป็นประชาชาติได้ผ่านความท้าทายและสงครามหลายครั้ง ดังนั้นพวกเรามีความปรารถนาในการป้องกันการเกิดสงครามและการปะทะ”
ถ้าเวียดนามได้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน 2020 เวียดนามจะแก้ไขปัญหาต่างๆ รักษาสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของชาติ ภูมิภาคและโลกอย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อปัญหาร้อนระอุของโลกและลดความเสี่ยงจากการปะทะ นาย Shahriman Lockman จากสถาบันวิจัยยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศมาเลเซียได้แสดงความเห็นว่า “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือภูมิภาคที่มีความเสี่ยงจะเกิดการปะทะและบทบาทสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอาจจะมีขึ้นพร้อมกับการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ซึ่งเวียดนามจะต้องมีความรับผิดชอบที่หนักหน่วง ด้วยประสบการณ์จากสงคราม 2 ครั้ง และการแก้ไขปัญหาในทะเลตะวันออก เวียดนามสามารถแก้ไขและป้องกันการปะทะอย่างมีประสิทธิภาพ สถานะของเวียดนามในหลายปีที่ผ่านมาสามารถตอบสนองความปรารถนานี้”
ด้วยประสบการณ์เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2009 ประธานอาเซียน 2010 บรรดาผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะประสบความสำเร็จในการดำรงทั้งสองตำแหน่งนี้ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย Marty Netalegawa ได้ยืนยันว่า “สำหรับเวียดนาม ปัญหาไม่เพียงแต่คือการดำรงบทบาทประธานอาเซียนในปี 2020 เท่านั้น หากยังเป็นบทบาทบริหารอีกด้วย เพราะความเชื่อมั่นและความคาดหวังต่อเวียดนามก็สูงขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอื่นๆในกลุ่ม ผมเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะปฏิบัติหน้าที่นี้ในวาระประธานอาเซียน 2020 เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปี 2020 จะเป็นปีสำคัญของเวียดนามถ้าดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติพร้อมกัน”
สันติภาพ เสรีภาพและความเจริญรุ่งเรืองคือความปรารถนาและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของทุกประชาชาติ โลกที่มีอารยธรรมไม่เพียงแต่วัดด้วยผลงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น หากก่อนอื่นต้องมีสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อทุกประชาชาติสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกลัวความสูญเสียและการก่อการร้าย เมื่อเสียงพูดของประเทศเล็กหรือความปรารถนาของผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับความเคารพและรับฟัง พวกเราก็จะมีพื้นฐานเพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน รอบด้านและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทัศนะนี้ของเวียดนามเกี่ยวกับโลกที่สันติภาพ เจริญรุ่งเรือง พร้อมแนวทางการต่างประเทศที่สันติภาพ เอกราชและเป็นตัวของตัวเอง จะได้รับการปฏิบัติในการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน 2020 รวมทั้งในฐานะสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021ถ้าได้รับเลือก.