(VOVworld)-วันนี้ 19สิงหาคม ประชาชนเวียดนามร่วมรำลึก68ปีชัยชนะของการปฏิวัติเดือนสิงหาคม ซึ่งได้สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม รัฐของชนชั้นกรรมชีพรัฐแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้เวลาได้ผ่านไปแล้ว68ปีแต่บทเรียนในการใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์และส่งเสริมพลังความสามัคคีที่เข้มแข็งของชนทั้งชาติในการปฏิวัติยังคงทรงคุณค่า

ก่อนอื่นต้องยืนยันว่า การที่การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี1945ได้ประสบชัยชนะอย่างรวดเร็วนั้นมาจากการรวมพลังกลุ่มมหาสามัคคีปวงชนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามโดยยึดหลักจากผลประโยชน์และความปรารถนาของประชาชน ซึ่งนายฝามเท้เหยวียดอดีตประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้เผยว่า ในตอนนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ยังไม่เปิดตัวเป็นองค์การชี้นำอย่างเป็นทางการแต่ด้วยสมาชิก5พันคนและผ่านแนวร่วมเวียดมิงห์ พรรคสามารถรวบรวมประชาชนได้กว่า20ล้านคนทำการลุกขึ้นสู้ครั้งประวัติศาสตร์  ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดในการประชุมใหญ่ทั่วประเทศนัดแรกโดยประธานโฮจิมินห์เป็นผู้นำที่จัดขึ้นก่อนการประกาศลุกขึ้นสู้เดือนสิงหาคมเพียง2วัน โดยในที่ประชุมได้มีผู้แทนของพรรคการเมืองต่างๆ องค์การมวลชนและตัวแทนของทุกชนชาติทุกศาสนาในทั้ง3ภาครวมทั้งผู้แทนของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศและทุกคนได้ให้การสนับสนุนแนวทางการลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ของพรรคพร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการประชาชาติปลดปล่อยเวียดนาม(รัฐบาลเฉพาะกาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม)โดยประธานโฮจิมินห์เป็นผู้นำ รองศ.-ดร. เหงวียนจ๋องฟุก อดีตหัวหน้าสถาบันประวัติศาสตร์ของพรรค แห่งสถาบันการเมืองรัฐศาสตร์แห่งชาติโฮจิมินห์ยืนยันว่า บทเรียนที่ดีเลิศของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี1945คือการเสริมสร้างและธำรงพลังที่เข้มแข้งของกลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าลุกขึ้นปลดปล่อยตนเองพลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนทั้งชาติเป็นจุดยืนทางยุทธศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งและก็เป็นแนวคิดใหญ่ของประธานโฮจิมินห์ การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่เดือนสิงหาคมเป็นการระดมพลังของประชาชนทุกภาคส่วนตั้งแต่กรรมการ ชาวนา ปัญญาชน นักวัฒนธรรมรวมไปถึงการรณรงค์ทหารของฝ่ายตรงข้ามให้เข้าร่วมด้วย
นอกจากปัจจัยสำคัญคือความสามัคคี ความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมแล้วก็ยังมาจากการรวบรวมเงื่อนไขต่างๆและหนึ่งในนั้นคือพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามรู้จักใช้ประโยชน์จากโอกาสเพื่อมีการตัดสินใจที่ถูกต้อง ดร.ประวัติศาสตร์ฝามแซงวิเคราะห์การที่พวกฟาสซิสต์ญี่ปุ่นยอมแพ้กองกำลังพันธมิตรในวันที่13สิงหาคมถือเป็นโอกาสทองให้แก่ประเทศต่างๆในเอเชียเพื่อลุกขึ้นปฏิวัติ แต่มีเพียงพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่ใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างชัยชนะ เพราะถ้าหากเราลุกขึ้นช่วงชิงอำนาจก่อนวันที่15สิงหาคม เราต้องแพ้แน่นอนเพราะตอนนั้นทั้งฝรั่งเศสและญี่ปุ่นรวมไปถึงพรรคฝ่ายต่างๆยังเข้มแข็งมาก แต่หากเลยไปจนถึงช่วงหลังวันที่5กันยายน ซึ่งเป็นกำหนดการของสนธิสัญญาของพันธมิตรที่จะเข้ายึดอาวุธของกองทัพญี่ปุ่นในเวียดนาม เราจะต้องเผชิญกับศัตรูจากหลายฝ่ายดังนั้นโอกาสที่จะประสบชัยชนะจึงมีน้อยมาก ดังนั้นการปฏิวัติเดือนสิงหาคมจะสามารถสำเร็จได้หากเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่15สิงหาคมถึงวันที่5กันยายนเท่านั้นและแผนการลุกขึ้นช่วงชิงอำนาจรัฐของเราก็ได้ดำเนินไปอย่างสำเร็จและนี่คือบทเรียนเกี่ยวกับโอกาสในการปฏิวัติ
การลุกขึ้นสู้ครั้งใหญ่ในเดือนสิงหาคมปี1945ได้ประสบชัยชนะอย่างรวดเร็วและสามารถหลีกเลี่ยงความสูญเสียเลือดเนื้อให้น้อยที่สุดนั้นได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างชาติและพิทักษ์รักษาชาติของประชาชนเวียดนาม ช่วยให้ชาวเวียดนามหลุดพ้นจากแอกปกครองของฟาสซิสต์ญี่ปุ่นและของนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส ยุติการปกครองของระบอบศักดินาเป็นเวลาพันปีในเวียดนาม ช่วยให้เปลี่ยนสถานะของชาวเวียดนามจากการเป็นทาสมาเป็นเจ้าของประเทศและเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมของตนอย่างแท้จริง./.